“บิณฑ์” ไม่สนต่อให้ “ปัญญาเรณู2” ไม่ทำเงินก็จะเดินหน้าสร้างภาค3 ต่อ เผยเตรียมยกกองไปถ่ายทำที่อินเดียเกือบทั้งเรื่อง แจงบทเขียนเสร็จเกิน 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว แย้มอาจมีถึงภาค4 บอกหากสหมงคลฟิล์มกับเวิร์คพอยท์ยังร่วมหุ้นเหมือนเดิมจะให้ลงทุนกี่ร้อยล้านก็ยอมทุ่มสุดตัว ถึงแม้ว่าหนังเด็กเด็กที่ดูแล้วต้องแอบอมยิ้มอย่าง “ปัญญาเรณู1” ของผู้กำกับ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” จะไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องของรายได้สักเท่าไหร่ แต่เจ้าตัวหวังใช้กระแสปากต่อปากต่อยอดสร้างรายได้ให้ “ปัญญาเรณู2” ก่อนแสดงความมั่นใจว่ารายได้จะแรงมากกว่าภาคแรกกว่า 3 เท่าตัว โดยบิณฑ์เผยว่า เตรียมเดินหน้าสร้างภาค3 ต่อเลยทันที และอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะยกกองไปถ่ายทำที่ประเทศอินเดียนาน 2-3 สัปดาห์
“ยอมรับว่าผมคาดหวังรายได้ปัญญาเรณู2 มากกว่าภาคแรกเสียอีก เพราะภาคแรกเราได้ปูพื้นเรื่องราวต่างๆ ไว้แล้ว ถึงแม้ว่ารายได้จะไม่มากนัก พอมาถึงภาค2 ผมเชื่อว่าคนที่ได้ดูภาคแรกแล้วรู้สึกชอบในความน่ารักของหนัง ก็ต้องอยากรู้ว่าเรื่องราวต่อไปจะดำเนินต่อไปอย่างไร ก็น่าจะมาดูภาค2ต่อ และเราก็จะสร้างฐานคนดูกลุ่มใหม่ๆ โดยอาศัยจากการบอกปากต่อปากของคนที่ได้ดูภาคแรกแล้วบอกต่อ ถึงแม้จะไม่ได้ดูภาคแรกก็ดูรู้เรื่องเหมือนกัน เพราะฉะนั้นภาค2 จึงได้รับอานิสงส์จากภาคแรกมา คิดรายได้น่าจะมากกว่าภาคแรก 2-3 เท่าครับ”
ขณะที่ภาพยนตร์ ปัญญาเรณู 2 กำลังรอจ่อคิวเข้าโรงฉายในเร็ววันนี้นั้น ผู้กำกับหนัง “บิณฑ์ บันลือฤทธิ์” ก็เริ่มเดินหน้าเตรียมงานเพื่อถ่ายทำปัญญาเรณู 3 ที่ภาคนี้เจ้าตัวเตรียมยกกองออกนอกประเทศไปปักหลักถ่ายทำไกลถึงดินแดนภารตะ ประเทศอินเดียกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของเรื่อง ฟุ้งลงทุนกว่า 100 ล้านบาท
“เป็นอะไรที่ผมคิดตั้งแต่เริ่มทำภาค2 แล้ว เพราะว่ามีเรื่องราวที่น่าสนใจเกิดขึ้นมากมาย โดยส่วนตัวถึงแม้ว่าปัญญเรณู2 จะได้เงินหรือไม่ได้ก็ตาม ใครจะว่าดีหรือไม่ดี ถึงยังไงก็ยังอยากจะทำ ผมมีแพลนว่าภาค3จะไปถ่ายที่ประเทศอินเดีย เราจะไปเมืองที่จนที่สุดของอินเดีย ไปดูความเป็นอยู่ของพวกเขากับภาคอีสานบ้านเราว่าแตกต่างกันอย่างไร แล้วทำไมคนภาคอีสานกับเด็กอินเดียถึงมาอยู่ร่วมกันได้ จะใช้ชื่อตอนว่า รูปู รูปี”
“จริงๆ ภาค 3 นี้ ก็จะไม่ค่อยมีความต่อเนื่องกับภาค 1 และ ภาค 2 สักเท่าไร เพราะต้องพลัดพรากจากกันหมดเลย ซึ่งการถ่ายทำในอินเดียจะมีประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนในเมืองไทยประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ คิดว่าช่วงปิดเทอมใหญ่ปีนี้น่าจะเริ่มไปถ่ายที่อินเดีย แต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ผมคงไปดูโลเกชั่นก่อน”
“ตอนนี้บทภาพยนตร์ก็เขียนเสร็จเกิน 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว ก็เหลือแค่ตอนจบเท่านั้น ที่ผมยังคิดไม่ออกว่าจะให้เป็นอย่างไร ว่าจะให้คนดูผิดหวัง หรือจะให้แฮปปี้เอนดิ้งเหมือนภาคแรกกับภาคสองไหม หรือว่าจะต่อภาค4เลย คือถ่ายทำทีเดียว 2 ภาคเลย ซึ่งเราจะไปถ่ายทำที่ประเทศอินเดียถึง 2-3 สัปดาห์”
“ดาราที่ไปก็เป็นดาราชุดเก่าทั้งหมด ยกเว้นพี่หม่ำ เพียงคนเดียวเพราะคิวไม่ได้ แต่ด้วยความที่เขามีงานประจำเยอะ งานพิธีกรเยอะ เขาก็ไม่สามารถจะไปได้ ก็ไม่เป็นไรครับ แต่ก็รู้สึกเสียดายนะครับ ส่วนบทของตุ๊กกี้ในภาค3 จะไปคอยดูแลเรณู ซึ่งการทำงานจะหนักมาก คือไปถ่ายทำที่อินเดียต้องถ่ายทุกวัน เพราะเขาให้คิวได้เต็มที่ 7 วัน แต่ช่วงที่เราไปก่อนต้องถ่ายทำไปก่อนเรื่อยๆ พอตุ๊กกี้มาเราก็ไปเสียบถ่ายทำต่อเลย”
“ส่วนเรื่องเงินทุนภาค3 นี้ ผมยังคงจับมือร่วมงานกับทางสหมงคลฟิล์มเหมือนเดิม แต่ไม่ทราบว่าทางเวิร์คพอยท์เองจะยังร่วมลงทุนด้วยอีกหรือเปล่า แต่ถ้าได้ครบทั้ง 3 บริษัทเหมือนเดิม ก็ไม่น่าจะมีปัญหาในเรื่องการลงทุน กี่ร้อยล้าน ผมก็ทุ่มสุดตัวอยู่แล้วครับ ไหนๆ หนังของเราจะมีโอกาสได้ไปถ่ายทำที่ต่างประเทศกับเขาสักครั้ง”
ที่มา: manager.co.th
