กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้สำหรับเครือข่ายสังคมรายใหญ่ทั้งเฟซบุ๊ก (Facebook), ทวิตเตอร์ (Twitter) และมายสเปซ (MySpace) ที่ออกมาต่อต้านการปรับปรุงผลการค้นหาข้อมูลครั้งใหม่ของกูเกิล (Google) อย่างจริงจัง โดยแม้การปรับปรุงครั้งนี้จะยังจำกัดอยู่ที่ในสหรัฐฯ แต่ทั้งหมดถือเป็นก้าวสำคัญที่มีส่วนทำลายภาพลักษณ์กูเกิลที่มีมาตลอดแบบน่าใจหาย ต้นเหตุของการต่อต้านครั้งนี้มาจากการปรับปรุงระบบจัดอันดับผลการค้นหาหรือ rankings ในเว็บไซต์กูเกิลตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ปรากฏว่าเนื้อหาในเครือข่ายสังคมกูเกิลพลัส (Google+) ทั้งรูป วิดีโอ ความเห็น และลิงก์ล้วนถูกนำมาแสดงไว้แทนที่จะเป็นเนื้อหาจากเครือข่ายสังคมที่ได้รับการยอมรับมากกว่าอย่างทวิตเตอร์ (Twitter) และเฟซบุ๊ก (Facebook)
ทวิตเตอร์เป็นรายแรกที่ออกมาแสดงความไม่พอใจกับการเปลี่ยนแปลงที่กูเกิลให้ชื่อเรียกว่า
Search Plus Your World อย่างชัดเจน โดยมองว่าการกระทำเช่นนี้ของกูเกิลนั้นเข้าข่ายปิดกั้นการแข่งขันและเจตนาผูกขาดการค้าในตลาดออนไลน์ เพราะจงใจใช้อิทธิพลในตลาดที่ตัวเองมี เป็นทางลัดให้บริการเครือข่ายของกูเกิลเติบโตอย่างไม่เหมาะสม
ที่ว่าไม่เหมาะสมนั้นเป็นเพราะ
Search Plus Your World จะทำให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯเห็นข้อมูลในกูเกิลพลัสแม้ข้อมูลในเครือข่ายสังคมอื่นจะมีคุณภาพมากกว่าและอัปเดทใหม่กว่า จุดนี้กูเกิลอ้างว่าเป็นเพราะเครือข่ายสังคมรายอื่นเลือกจะไม่ต่อสัญญากับกูเกิลในการร่วมมือให้ข้อมูลในเครือข่ายสามารถปรากฏในผลการค้นหา ขณะที่เครือข่ายสังคมหลายค่ายตราหน้าว่ากูเกิลกำลังทำตัวผิดจากปรัญชาบริษัท Don't Be Evil ด้วยท่าทีหวังผลประโยชน์ตนจนไม่คำนึงว่าผู้ใช้จะไม่ได้รับข้อมูลที่ดีที่สุด
แม้จะมีการเรียกร้องให้กรมการค้าสหรัฐฯหรือ Federal Trade Commission ตรวจสอบกูเกิลโดยละเอียด และสงครามน้ำลายที่โต้ตอบไปมาเกี่ยวกับการคัดค้าน Search Plus Your World ของกูเกิล แต่วิศวกรของ Facebook, Twitter และ Myspace ก็ไม่สมใจจนเมื่อวันจันทร์ที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา ทั้งหมดได้ร่วมมือเปิดให้ชาวออนไลน์ติดตั้งโปรแกรมเสริมซึ่งทั้ง 3 ให้ชื่อว่า Don't Be Evil bookmarklet โดยเปิดให้ชาวออนไลน์ดึงไปติดตั้งในเว็บเบราวเซอร์ที่เว็บไซต์ Focusontheuser.org เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับผลการค้นหาปกติ เรียกว่าเป็นโปรแกรมที่หลบการทำงาน Search Plus Your World แบบเบ็ดเสร็จ
ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า โปรแกรมเสริมนี้ใช้เวลาสร้างในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมี Blake Ross ประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และ Tom Occhino และ Marshall Roch วิศวกรซอฟต์แวร์ของเฟซบุ๊กเป็นผู้นำทีม แต่ไม่แน่ชัดว่าทั้งหมดคือผู้ที่ตั้งชื่อ Don't Be Evil สุดแสบให้กับโปรแกรมนี้หรือไม่ ซึ่งแม้แต่เด็กมัธยมยังรู้ว่านี่คือการ"หลอกด่า"กูเกิลอย่างชัดเจน
ไม่เพียงการเปิดให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯดึงโปรแกรมเสริม Don't Be Evil ไปใช้งาน ในเว็บไซต์ Focus on the User ยังอธิบายว่าหากผู้ใช้ค้นหาคำว่า "cooking" บนกูเกิลในวันนี้ จะพบกับลิงก์ที่เกี่ยวกับสุดยอดพ่อครัว Jamie Oliver แต่ลิงก์ดังกล่าวไม่ใช่ลิงก์โปรไฟล์ทวิตเตอร์ของเชฟ Jamie แต่เป็นโปรไฟล์ในบริการกูเกิลพลัสซึ่งมีการอัปเดทครั้งล่าสุดเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว แต่ทวิตเตอร์ของเชฟ Jamie นั้นอัปเดทเร็วกว่า ทั้งหมดนี้แสดงถึงความไม่เหมาะสมในการจัดอันดับหรือ ranking ของกูเกิลจนทำให้ผู้ใช้ไม่ได้รับข้อมูลที่ดีพอ
ในขณะที่กูเกิลปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับการคลอดโปรแกรมเสริม Don't Be Evil ผู้บริหารเฟซบุ๊กอย่าง Ross ซึ่งเป็นมีดีกรีเป็น 1 ใน 3 ผู้ร่วมก่อตั้งเว็บเบราว์เซอร์ Firefox กับมอซิลานั้นโพสต์เผยแพร่โปรแกรมเสริม Don't Be Evil นี้ทางทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กของตัวเองอย่างเต็มที่
สำหรับคนไทย
Search Plus Your World จะไม่มีผลใดๆกับการค้นหาข้อมูลในเมืองไทย แต่สำหรับในสหรัฐฯ ผู้สนใจติดตั้งโปรแกรมเสริมนี้สามารถติดตามการทำงานและวิธีใช้ได้จากเว็บไซต์ ซึ่งจะเปิดเผยชุดคำสั่งเพื่อเปิดให้นักพัฒนาร่วมกันสร้างสรรค์ความสามารถเพิ่มเติมต่อโดยเสรี
Company Relate Link :
Google
ที่มา: manager.co.th