Belkin รุกตลาดอุปกรณ์เสริมประเทศไทย วางสินค้าเจาะกลุ่มผลิตภัณฑ์แอปเปิล และโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์เป็นหลัก หวังชิงส่วนแบ่งตลาด 30% เชื่อปัจจัยการเติบโตของสมาร์ทโฟน จะเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเติบโตจากกลุ่มอุปกรณ์เสริม เควิน กิลมอร์ ประธานอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์และการตลาด ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท เบลกิ้น อินเตอร์เนชั่นเนล ให้ข้อมูลถึงภาพรวมของอุปกรณ์เสริมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่า มูลค่าของตลาดอยู่ที่ราว 250 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งตลาดประเทศไทยมีสัดส่วนคิดเป็น 25% ของภูมิภาค เป็นรองจากตลาดอินโดนีเซีย
"มูลค่าของตลาดอาเซียน มีขนาดเทียบเท่ากับตลาดอินเดีย หรือ จีน และไทยถือเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในภูมิภาค แต่ขนาดตลาดเล็กกว่าอินโดนีเซีย ทำให้เบลกิ้นให้ความสำคัญกับการทำตลาดในประเทศไทยสูง"
โดยสัดส่วนรายได้หลักของเบลกิ้น จะมาจากอุปกรณ์เสริมในอุปกรณ์พกพากว่า 50% รองลงมาเป็นอุปกรณ์เครือข่าย และสายอุปกรณ์ต่อพ่วง อย่างละ 20% ที่เหลือเป็นอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่เข้าไปทำในตลาดองกรค์ราว 10%
นายชาคริต ศิริกุลประดิษฐ์ ผู้จัดการด้านการขายประจำประเทศไทย บริษัท เบลกิ้น จำกัด กล่าวว่่า การทำตลาดในปีนี้ของเบลกิ้นยังคงเน้นไปที่กลุ่มคอนซูเมอร์เป็นจาก 2 ส่วนหลักๆ คืออุปกรณ์เสริมของผลิตภัณฑ์แอปเปิล และกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ความบันเทิงภายในบ้าน ที่เข้ามาเสริมประสิทธิภาพในการใช้งานผ่านระบบเครือข่ายไร้สาย
"เป้าหมายของเบลกิ้นคือมีส่วนแบ่งตลาดในประเทศไทยมากกว่า 30% ในกลุ่มอุปกรณ์เสริมอินเตอร์แบรนด์ จากราคา และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในระดับกลางถึงบนเป็นหลัก โดยเชื่อว่าปัจจับเสริมจะมาจากการปรับราคาของอุปกรณ์ไฮเอนด์อย่างแอลอีดีทีวี เครื่องเล่นบลูเรย์ที่ปรับราคาลง และการเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟน "
กลุ่มเป้าหมายของเบลกิ้น จะเป็นวัยรุ่น ทันสมัย ที่ต้องการผลิตภัณฑ์เสริมมาเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน และเชื่อว่าจากการปรับเปลี่ยนสัญลักษณ์แบรนด์ จะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มากขึ้น จากเดิมที่ใช้เพียงตัวอักษร มาใช้เป็นสัญลักษณ์รูปคนที่สื่อถึงความเข้าใจผู้บริโภคในการออกแบบผลิตภัณฑ์
ความโดดเด่นของอุปกรณ์เสริมแอปเปิลของเบลกิ้น นอกจากในแง่ของประสิทธิภาพแล้ว ยังมีการนำนวัตกรรม ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์อย่างเช่น กริบที่ทำให้มีปุ่มชัตเตอร์ถ่ายภาพ ไมโครโฟนรับเสียง หรือรีโมทถ่ายภาพอัตโนมัตเป็นต้น
ส่วนอุปกรณ์ความบันเทิงในบ้าน จะเน้นไปที่กลุ่มผลิตภัณฑ์เครือข่ายไร้สาย ที่นำเทคโนโลยี WiDi จากอินเทล มาพัฒนาให้สามารถส่งสัญญาณภาพและเสียงคุณภาพสูงผ่านเครือข่ายไร้สาย จากอุปกรณ์ต้นทางไปยังหน้าจอโทรทัศน์ โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อสายสัญญาณ
ปัจจุบัน เบลกิ้น ทำตลาดในประเทศไทยผ่าน 3 ดิสทริบิวเตอร์หลัก โดยวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านหน้าร้านค้าราว 500 สาขาทั่วประเทศ และคาดว่าภายในปีนี้จะมีเพิ่มขึ้นอีกราว 50% ไม่รวมกับการเปิดคอนเซปต์สโตร์เพื่อแสดงโซลูชันสินค้าของเบลกิ้น ที่กำลังอยู่ในช่วงมองหาพาร์ทเนอร์ร่วมกัน
Company Relate Link :
Belkin
ที่มา: manager.co.th