ZTE Tania ZTE ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมด้วยประกาศอย่างเป็นทางการว่าปีหน้าจะมุ่งเป้าไปที่การผลิตสมาร์ทโฟนจากระบบปฏิบัติการวินโดวส์ โฟนเป็นหลัก แย้มตัวเลขค่าลิขสิทธิ์ที่ไมโครซอฟท์เรียกเก็บต่อเครื่อง อยู่ที่ 23-30 เหรียญฯ
ZTE ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแบรนด์ดังจากประเทศจีนเปิดเผยว่ากลยุทธ์หลักในปี 2012 ของบริษัทจะมุ่งเน้นไปยังสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ โฟน เป็นหลัก พร้อมกันนี้ ZTE ยังได้เผยเพิ่มเติมอีกว่าบริษัทจะเริ่มผลิตสมาร์ทโฟนระดับไฮ-เอนด์ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายในตลาดบนด้วย
ล่าสุด ZTE ได้ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ โฟน ตัวแรกนามว่า Tania เปิดตัวครั้งแรกที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ สำหรับสเปกของ Tania จะใช้หน้าจอขนาด 4.3 นิ้ว รองรับการทัชสกรีน หน่วยประมวลผลที่ใช้เป็น Qualcomm MSM8255 ความเร็ว 1GHz หน่วยความจำสำรอง 512MB หน่วยความจำภายใน 4GB
ZTE เผยตัวเลขค่าไลเซนส์ต่อเครื่องวินโดวส์ โฟน นอกจากจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ โฟน ตัวแรกแล้วทาง ZTE ยังได้เปิดเผยตัวเลขของค่าไลเซนส์ต่อเครื่องที่ ZTE ต้องจ่ายให้กับไมโครซอฟท์ด้วย
นาย Santiago Sierra ผู้จัดการสาขาในสหราชอาณาจักร ได้เผยว่า ZTE ต้องจ่ายค่าไลเซนส์ให้กับทางไมโครซอฟท์ต่อเครื่องเป็นจำนวนเงิน 23-30 เหรียญฯ (คิดเป็นเงินปอนด์ประมาณ 15-20 ปอนด์) ซึ่ง Sierra ได้กล่าวว่าด้วยเหตุนี้สมาร์ทโฟนของ ZTE จะมีราคาค่างวดที่แพงกว่าสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์
ทั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่บริโภคได้ทราบถึงตัวเลขของค่าไลเซนส์ที่ผู้ผลิตต้องจ่ายให้กับผู้พัฒนาหลัก ซึ่งในที่นี่คือไมโครซอฟท์ ส่วนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ของกูเกิลนั้นเป็นโอเพ่นซอร์สจึงไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
นอกจากนี้ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่าในจำนวนสมาร์ทสายพันธุ์แอนดรอยด์ที่จำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกากว่า 70% ได้มีการละเมิดลิขสิทธิ์ของไมโครซอฟท์ ซึ่งเพราะเหตุนี้กูเกิลจึงจำเป็นต้องซื้อกิจการของโมโตโรลาเป็นจำนวนเงิน 1.25 หมื่นล้านเหรียญฯ เพื่อเป็นการป้องกันตัวเองไม่ให้เกิดการละเมิดสิทธิบัตร
Company Related Link :
ZTE
ที่มา: manager.co.th