Author Topic: หวั่นวินโดวส์ 8 ทำอินเทลหืดจับปีนี้  (Read 803 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai




      นักวิเคราะห์คาดอินเทล (Intel) ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตชิปจะพบกับภาวะยากลำบากช่วงปี 2012 ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่กระแสระบบปฏิบัติการแห่งอนาคตของไมโครซอฟท์อย่างวินโดวส์ 8 (Windows 8) จะวาดลวดลายเต็มที่ ด้านไมโครซอฟท์ยังเดินหน้าเตรียมความพร้อมให้บริการร้านดาวน์โหลดแอปพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์วินโดวส์ 8 เพิ่มเติมเพื่อให้ทันการทดสอบกับวินโดวส์ 8 เวอร์ชันทดลองต่อไป
       
       กัส ริชาร์ด (Gus Richard) นักวิเคราะห์จากไปเปอร์ จาฟเฟรย์ (Piper Jaffray) ระบุในรายงานวิจัยว่าปี 2012 จะเป็นปีที่อินเทลอาจต้องเผชิญกับพิษยอดขายชะลอตัวเพราะการอั้นซื้อของผู้บริโภค โดยเฉพาะช่วงครึ่งหลังของปีซึ่งเป็นช่วงที่วินโดวส์ 8 เริ่มเปิดตัว
       
       อินเทลนั้นมักจะได้รับอานิสงส์ยอดขายเพิ่มจากการเปิดตัวระบบปฏิบัติการวินโดวส์รุ่นใหม่ของไมโครซอฟท์ เพราะชาวไอทีจะเลือกซื้อคอมพิวเตอร์พีซีเครื่องใหม่พร้อมระบบปฏิบัติการใหม่ซึ่งติดตั้งชิปอินเทลอยู่ภายใน แต่สำหรับกรณีวินโดวส์ 8 นักวิเคราะห์กลับมองว่าผู้บริโภคจะเลื่อนการซื้อพีซีออกไประยะหนึ่ง เพื่อให้มีความมั่นใจกับการเปลี่ยนแปลงในวินโดวส์ 8 ซึ่งพลิกโฉมการทำงานบนพีซีชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ
       
       จุดนี้นักวิเคราะห์อธิบายว่า วินโดวส์ 8 นั้นเปลี่ยนแปลงการทำงานของระบบปฏิบัติการครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ไมโครซอฟท์เริ่มทำตลาดวินโดวส์ 3.0 (Windows 3.0) ซึ่งเป็นการย้ายระบบจากการสั่งงานผ่านคำสั่งข้อความบน DOS มาเป็นการคลิกเมาส์ผ่านภาพเมนูกราฟิกหรือ graphical user interface แต่สำหรับวินโดวส์ 8 นั้นเป็นระบบปฏิบัติการที่จะรองรับระบบสัมผัสอย่างสมบูรณ์ (touch interface)
       
       จุดนี้ทำให้ช่วงครึ่งหลังของปี 2012 กลายเป็นช่วงเวลาที่อ่อนแอของการเปิดตัววินโดวส์ 8 ซึ่งผู้ใช้ที่ยังไม่มั่นใจจะยังไม่ตัดสินใจซื้อพีซีในระยะนี้ทันที ทั้งหมดทำให้ริชาร์ดมองว่าการเปิดตลาดของวินโดวส์ 8 ช่วงปีนี้จะเป็นปัญหาใหญ่ของอินเทล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีแนวโน้มชัดเจนว่า วินโดวส์ 8 จะทำให้เกิดความต้องการในตลาดพีซีต่อเนื่องอีกหลายไตรมาส ซึ่งกว่าที่อินเทลจะยิ้มได้ก็อาจต้องรอให้ถึงช่วงปี 2013 ก่อน เท่ากับปริมาณการอั้นซื้อพีซีในช่วงปีนี้ จะยิ่งมีโอกาสเกิดขึ้นสูงมากกว่าเดิม


       ที่สำคัญ ผู้จำหน่ายแอปพลิเคชันสำหรับเครื่องพีซียังต้องใช้เวลาเปลี่ยนแปลงสินค้าของตัวเองเพื่อรองรับวินโดวส์ 8 อีกมาก ทำให้ในระยะแรกเริ่ม แอปฯต่างๆ อาจยังไม่มีความพร้อมให้ผู้บริโภคใช้งานบนวินโดวส์ 8 ทำให้ทุกอย่างต้องใช้เวลากว่าจะถึงยุคทองของวินโดวส์ 8 อย่างที่หลายคนฝัน
       
       ขณะนี้ ไมโครซอฟท์ยังไม่เปิดเผยกำหนดวันวางจำหน่ายวินโดวส์ 8 ที่แน่นอน ซึ่งเบื้องต้นคาดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ไมโครซอฟท์จะจัดงานเปิดตัวในช่วงไตรมาส 3 ก่อนที่พีซีและอุปกรณ์วินโดวส์ 8 จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเต็มรูปแบบช่วงคริสต์มาส ซึ่งจะลากยาวมาถึงปี 2013 ต่อไป
       
       คุณสมบัติเบื้องต้นของวินโดวส์ 8 ที่ถูกเปิดเผยก่อนหน้านี้คือ การมาพร้อมมุมมอง 2 รูปแบบคือ Metro Style สำหรับการใช้นิ้วสัมผัสหน้าจอและ Desktop View สำหรับการใช้เมาส์ควบคุมตามปกติ ทำให้วินโดวส์ 8 สามารถใช้งานทั้งบนแท็บเล็ตที่ใช้ชิป ARM คอมพิวเตอร์พีซี คอมพิวเตอร์เน็ตบุ๊ก และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัสหรือใช้ผ่านเมาส์และคีย์บอร์ดแบบเก่าได้ แถมยังสามารถทำงานบนชิป Intel ATOM รุ่นแรกที่มีแรม 1GB ได้อย่างราบรื่น ตัวซอฟต์แวร์มีระบบทำงานพร้อมกันหลายหน้าต่างหรือ Multi tasking ที่ปรับปรุงให้ดีขึ้น และสามารถใช้กับแอปฯ ที่รองรับ Windows 7 ได้ทุกตัว



       ที่สำคัญ วินโดวส์ 8 จะมาพร้อมร้านดาวน์โหลดแอปฯซึ่งมีชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า Windows Store ซึ่งล่าสุดไมโครซอฟท์เผยว่า Windows Store จะรองรับการซื้อแอปฯ บน 239 ประเทศ ผู้ใช้จะสามารถซื้อแอปฯด้วยสกุลเงินท้องถิ่น 74 ประเทศ ซึ่งรวมประเทศไทยด้วย
       
       นักพัฒนาจาก 41 ประเทศ (รวมประเทศไทย) จะสามารถจำหน่ายแอปฯบนร้าน Windows Store ได้ โดยอัตราการลงทะเบียนเป็นนักพัฒนาแอปฯกับไมโครซอฟท์จะอยู่ที่ 1,490 บาทต่อปีต่อคน ส่วนผู้ลงทะเบียนในรูปแบบบริษัทมีค่าสมาชิกราว 3,000 บาทต่อปี โดยไมโครซอฟท์จะโอนรายได้ทั้งแบบการซื้อบนสโตร์หรือการซื้อในแอปฯ (in-app) เข้าบัญชีธนาคารหรือบัญชี PayPal ในสกุลเงินบาท
       
       สำหรับความเคลื่อนไหวในมุมอินเทล รายงานล่าสุดระบุว่าแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 ซึ่งอินเทลและไมโครซอฟท์จับมือกันพัฒนาขึ้นนั้นอาจจะมีราคาราว 599-899 เหรียญ (ราว 18,000-27,000 บาท) ขณะนี้แท็บเล็ตดังกล่าวถูกเรียกในชื่อ Clover Trail-W ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อลดต้นทุนการผลิตลง
       
       Company Related Link :
       Microsoft
       Intel

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)