“ตุ๊ก ชนกวนันท์” ออกงานเดินแบบหาเงิน บอกตอนนี้เริ่มรับงานมากขึ้นและให้ “บ๊วย” มาเลี้ยงลูกสลับกันไป อึ้งฝ่ายชายให้สัมภาษณ์ที่ผ่านมามีปัญหาครอบครัวเพราะเริ่มไม่ยอมกัน บอกที่ผ่านมาอยู่ด้วยกันเพราะความรักไม่คาดคิดจะได้ยินสิ่งนี้ แต่ยังยืนยันจะประคับประคองครอบครัวให้ดีที่สุด หวังจะกลับมาเป็นครอบครัวเหมือนเดิม
ยังคงเป็นประเด็นที่หลายๆ คนสงสัยและยังจับตามมองกับสถานภาพความสัมพันธ์ของ “บ๊วย เชษฐวุฒิ วัชรคุณ” กับ “ตุ๊ก ชนกวนันท์ วัชรคุณ” ว่าเป็นยังไง เพราะถึงทั้งคู่จะยังไม่หย่าขาดจากกัน แต่ตุ๊กก็ประกาศรับงานเต็มตัวเพื่อหารายได้เลี้ยงลูก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตุ๊กแทบจะไม่รับงานเพราะต้องทำหน้าที่แม่บ้านอยู่บ้านเลี้ยงลูก โดยมีบ๊วยเป็นเสาหลักครอบครัวรับผิดชอบค่าเลี้ยงดูทั้งหมด ล่าสุดเจ้าตัวก็มาเดินแบบในเปิดตัวแบรนด์เสื้อผ้าน้องใหม่ KON
“เราสองคนก็ยังช่วยกันดูแลครอบครัว ดูแลลูกด้วยกันเหมือนเดิม หากวันไหนที่ตุ๊กติดงานแต่พี่บ๊วยว่างก็จะมาช่วยดูแลน้องแพรวกับน้องภูมิค่ะ อีกอย่างตอนนี้ตุ๊กกลับมารับงานบ้างแล้วค่ะแต่ก็ยังรับได้ไม่เต็มที่เหมือนก่อน เพราะว่าหน้าที่หลักก็ยังเป็นแม่อยู่ รับงานทียังต้องคำนึงถึงการเลี้ยงลูกเป็นหลัก และร่างกายก็ยังไม่ค่อยเฟิร์มดี เรายังต้องให้นมลูก ต้องทานอาหารให้ครบห้าหมู่ แต่ตุ๊กเป็นคนที่ว่าถ้าทานพอดีก็จะไมอ้วนมาก”
“การรับงานในแต่ละครั้งเราต้องคำนึงถึงตรงจุดนี้ด้วย พยายามไม่ให้กระทบกระเทือนกับตรงนี้ อย่างวันนี้จริงๆ งานมันแป๊ปเดียวค่ะไม่ได้เดินแบบซีเรียสมาก เขานัดก่อนงานประมาณชั่วโมงเดียวเอง ก็เลยพาน้องแพรวมาด้วย พอดีเจอพี่หนิง ศรัยฉัตร เขาก็พาลูกสาวมา ก็เลยมีเพื่อนเล่นค่ะ ส่วนงานละครก็มี รักคุณเท่าฟ้าเรื่องเดียวค่ะ คิวถ่ายอาทิตย์ละ 1-2 วัน บทไม่ได้ผาดโผนมาก”
“อย่างน้องแพรวเขาก็จะตื่นเต้นที่แม่แต่งตัวแบบนี้ คุณแม่ใส่หมวกที่มีเส้นผมหรอคะ(หัวเราะ) เราก็ชอบนะ รู้สึกดีค่ะ เพราะปกติไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย เราจะได้มีรูปเก็บไว้ดู เพราะเป็นเด็กผู้หญิงไงคะ อะไรที่เกี่ยวกับการแต่งเนื้อแต่งตัว จะชอบ อย่างทาเล็บเขาก็จะสนใจชอบคนแต่งตัวสวยๆ จริงๆ เราก็ไม่อยากให้เขาเป็นสาวมากเกินไป ก็จะห่วงตรงนี้เป็นพิเศษ”
ต้องเลี้ยงดูลูกถึงสองคน เหนื่อยแค่ไหน สาวตุ๊กก็ไม่ปริปากบ่นสักคำ เชื่อว่าความเหนื่อยในการเลี้ยงลูกมีไม่มาก ควรรีบตักตวง
“น้องภูมิลูกชายตอนนี้เป็นช่วงขวบปีแรก เป็นช่วงเริ่มมีพัฒนาการมีกลิ้งไปมาแต่ยังไม่คลานก็เลยยังไม่วุ่นมาก ตุ๊กว่าพัฒนาการตามวัยของเด็กก็ทำให้คนในบ้านได้ขำมีความสุข อย่างน้องแพรวเขาดูแลตัวเองได้แล้วและเขายังช่วยเราเลี้ยงน้องซึ่งช่วยได้มากเลย”
“อย่างสมมติว่าเราไปอาบน้ำหรือเข้าห้องน้ำครึ่งชั่วโมง เขาก็สามารถจัดการน้องได้ เขาจะมีจังหวะของเขา เห็นน้องเริ่มจะร้องไห้ เขารู้ว่าต้องทำยังไงให้น้องหยุดร้องน่ารักมากค่ะ เลี้ยงลูกก็เหนื่อยนะแถมเหนื่อยเป็นสองเท่าเพราะว่ามีลูกสองคน (หัวเราะ) ทำให้เราสนุกและมีความสุขกับการเลี้ยงดูพวกเขา ตุ๊กคิดว่าความเหนื่อยแบบนี้มีไม่นานหรอก อีกหน่อยเขาจะโตขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นตักตวงทำเข้าไปเลยค่ะ”
เผยสถานการณ์ครอบครัวหลังจากที่ “บ๊วย” ได้ให้สัมภาษณ์น้ำตาคลอไปเมื่อหลายสัปดาห์ที่แล้ว ขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร
“รู้สึกว่าพออัดรายการเสร็จพี่บ๊วเขาก็โทรมาบอกว่า ไม่ได้รู้ตัวมาก่อนว่าจะถูกสัมภาษณ์ ตุ๊กก็รับฟังไว้ค่ะ ความคืบหน้าตอนนี้ยังไม่มีอะไรเพิ่มเติม ส่วนสภาพจิตใจตอนนี้ดีขึ้น แต่ก็มนุษย์นะคะ ก็มีขึ้นมีลง เราต่างพยายามประคองกันไป ส่วนที่บอกว่าพี่บ๊วยไม่อยากให้ออกมาพูด ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นคงจะดีกว่า เพราะเขารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เรื่องมันยาวมีอะไรหลายๆ อย่างต้องคุยกันดีๆ เรื่องมันเปลี่ยนแปลงได้ทุกวัน บางเรื่องก็ต้องปรึกษากันเยอะๆ ฉะนั้นถ้าพูดบ่อยๆ ก็อาจจะไม่สะดวก”
คาดไม่ถึงว่า “บ๊วย” จะให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุที่ทำให้มีปัญหากันเป็นเพราะไม่ยอมกัน บอกที่ผ่านมาอยู่ด้วยความรัก
“ในส่วนที่บ๊วยบอกว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับมือที่สาม เป็นเรื่องความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนจากเคยยอมกันเป็นไม่ยอม จริงๆ แล้วตุ๊กก็ไม่เคยรู้มาก่อนสำหรับเรื่องนี้ แต่รู้สึกว่าที่ผ่านมาเราอยู่ด้วยกันด้วยความรัก ไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องยอมหรือไม่ยอม มันอยู่กันด้วยความรักมาตลอด ก็ไม่นึกว่าวันนี้จะมาได้ยินคำแบบนี้ค่ะ”
“ส่วนเรื่องการหย่าเราต้องใช้เวลาปรึกษากันนิดยังไม่มีข้อสรุปใดๆ ตอนนี้สำหรับความคิดตุ๊กนะคะ ต้องทำให้ดีที่สุดปรับให้มากที่สุด อะไรทำได้ทำทุกอย่างค่ะ ถ้าคิดว่าทำแล้วดีสำหรับครอบครัว แต่ที่พูดคือต้องทำกันทั้งสองคน ความหวังจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมนั้นสำหรับตุ๊กมีความหวังอย่างเต็มเปี่ยม ยังไม่ปิดโอกาสถ้าปรับจูนกันได้ก็สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้เสมอ เพราะครอบครัวเราไม่ได้มีกันแค่สองคน ครอบครัวเรามีสี่คนค่ะ”
ที่มา: manager.co.th
