กสท ฝันกลางวัน หวังรายได้จากสัญญามือถือรูปแบบใหม่จากกลุ่มทรู ปีนี้ 1.9 หมื่นล้านบาท ส่วนผลประกอบการตัวเอง ปี 2554 หากไม่มีส่วนแบ่งรายได้ ขาดทุนบักโกรก 1.7 พันล้านบาท
นายวิโรจน์ โตเจริญวาณิช รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม กล่าวว่า กสท มีรายได้จากการทำสัญญาธุรกิจโทรศัพท์มือถือรูปแบบใหม่เพื่อให้บริการ 3G ระหว่างกสท กับกลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.2554 รวมทั้งสิ้น 1,400 ล้านบาท ซึ่งมีกำไรกว่า 300 ล้านบาท หรือ 23% ของรายได้ และคาดว่าในปี 2555 จะมีรายได้จากสัญญาดังกล่าวถึง 19,000 ล้านบาท
ส่วนสาเหตุที่ทำให้รายได้จากสัญญา 3G เพิ่มขึ้นอย่างมาก เป็นเพราะว่าทรูขยายสถานีฐานอย่างรวดเร็ว ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิมที่กำหนดไว้ว่า 3 ปี จะมี 5,000 สถานีฐาน แต่เพียงปีนี้ปีเดียว ทรูก็จะะมีสถานีฐานรวมกัน 14,000 แห่งทั่วประเทศ จากปัจจุบันอยู่ที่ 4,000 สถานีฐานเท่านั้น ซึ่งถือว่าเร็วมาก
'สาเหตุที่รายได้จากสัญญา 3G เพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากเชื่อว่ากลุ่มทรู จะเปิดตลาด และเร่งส่งเสริมการขายมากยิ่งขึ้น เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาด 3G'
อีกทั้งในปีนี้กสท จะเร่งทำตลาดแบรนด์ My โดยตั้งเป้าจะมีผู้ใช้บริการ 600,000 เลขหมาย จากปัจจุบันมี 4,000 เลขหมายเท่านั้น ขณะที่รายได้จากการให้บริการโทรศัพท์มือถือภายใต้แบรนด์ My ในปี 2554 มีประมาณ 30 ล้านบาทส่วนปี 2555 คาดว่ามีรายได้ 1,800 ล้านบาท
ขณะที่ในปี 2554 กสท มีรายได้รวม 52,712 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการให้บริการของกสท 17,207 ล้านบาท รายได้จากสัญญาสัมปทานโทรศัพท์มือถือ 35,505 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ 8,617 ล้านบาท ทั้งนี้หากไม่นำรายได้ในส่วนสัญญาสัมปทานมือถือมาคำนวนเป็นรายได้รวมแล้ว จะทำให้กสทจะขาดทุนถึง 1,776 ล้านบาท
ดังนั้นกสท จึงจำเป็นต้องเร่งหารายได้อื่นขึ้นมาทดแทนจากรายได้จากสัญญาสัมปทาน ซึ่งกสท อยู่ระหว่างการปรับปรุงโครงสร้างองค์กร และการเร่งหารายได้เพิ่มทั้งจากบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ การให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (ดาต้า) และการให้บริการโทรศัพท์มือถือ รวมไปถึงการให้บริการโครงข่ายความเร็วสูงผ่านไฟเบอร์ออปติก (FTTx)
Company Relate Link :
CAT
ที่มา: manager.co.th