“กานต์” งัดหลักฐานจับโกหก “หงส์” น้องเสก พร้อมโชว์ใบมอบอำนาจฉบับใหม่ระบุ “เสก” ขอดูแลทรัพย์สินเอง ส่วนใบที่ “ทนาย” และหงส์ มีในมือถูกยกเลิกไปแล้ว เชื่อใบแรกเสกเขียนตอนเมายาไอซ์ เปิดฉากซัดกลับหงส์เอาสมองส่วนไหนคิดที่บอกว่าตนไม่ทำมาหากิน บอกอยู่กับเสกมาเป็น 10 ปี ช่วยทำงานทุกอย่าง ยกเว้นแต่งเพลงกับร้องเพลง ย้อนกลับเงินเสกหายจากบัญชีเกือบ 3 ล้าน ทำไมขอดูเอกสารแล้วไม่ให้ดู เผยทรัพย์สินเสกมีถึงหลักร้อยล้าน
สืบเนื่องจากที่ก่อนหน้านี้ “กานต์ วิภากร” อดีตภรรยาของ “เสก โลโซ” ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กของตนเองอย่างเผ็ดร้อนว่า มีเหลือบไรคอยจ้องเกาะกินทรัพย์สมบัติของเสก และเอกสารด้านการเงินไม่ว่าจะเป็นสมุดบัญชี เอทีเอ็ม และบัตรเครดิตหายไป พร้อมกับบอกว่า เสกหนีออกจากสถาบันธัญญารักษ์กลับมาหาลูกเมียเพราะเป็นห่วงครอบครัวและทรัพย์สิน กระทั่งเมื่อ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา ครอบครัวของเสกนำโดย “หงส์ ทยุตา ศุขพิมาย” น้องสาวและ “อุดม โปร่งฟ้า” ทนายของเสก ออกมาเปิดแถลงข่าวปฏิเสธไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เสกหนีออกจากสถานบำบัด พร้อมกับมีการเปิดฉากเปิดโปงว่า เหตุการณ์ความขัดแย้งทั้งหมดตั้งแต่ที่ “กานต์” ออกมาแฉเสกติดยา เพราะกานต์อยากได้บ้านกับรถบีเอ็ม แต่เสกยังไม่ได้แบ่งให้ ส่วน “หงส์” น้องสาวของเสกเองก็ออกโรงฉะกานต์เละว่า กานต์เกลียดทุกคนที่เข้ามายุ่งกับทรัพย์สินของเสก และถามกลับว่ากานต์และครอบครัวได้ทำมาหากินอะไรหรือเปล่า กลายเป็นศึกน้ำลายที่ดูจะไม่จบง่ายๆ
ซึ่งหลังจากที่มีการแถลงข่าวผ่านไปแค่วันเดียว ทางฝ่ายของกานต์ก็เปิดแถลงข่าวโต้กลับทันควันเช่นกัน โดยในวันนี้(12 มกราคม 2555) เจ้าตัวได้นัดสื่อมวลชนแถลงข่าวที่หมู่บ้านนันทวัน วัชรพล โดยมี พล.ต.ต ปรีชา แสงสายทิม คุณพ่อ และ รัชนีกร แสงสายทิม คุณแม่ รวมถึง “วิรังรอง” น้องสาว และ “เสือ เสฎกานต์” กับ “กวาง กรกวี” ลูกชายและลูกสาวของกานต์มาร่วมแถลงข่าวด้วย
งานนี้ นอกจากกานต์จะโต้กลับอย่างถึงพริกถึงขิงแล้ว เจ้าตัวยังได้หอบหลักฐานไม่ว่าจะเป็นบันทึกการเข้าออกป้อมยามหน้าหมู่บ้าน ที่จดทะเบียนและบัตรประชาชนของรถที่เข้าออก รวมถึงใบสแตมบัตรจอดรถที่เข้ามาในหมู่บ้าน โดยมีใบสแตมของแท็กซี่ที่เสกนั่งจากรพ.กลับมาบ้าน และใบสแตมรถของหงส์ที่นั่งตามมาหาพี่ชายแล้ว กานต์ยังได้งัดหลักฐานหนังสือมอบอำนาจฉบับใหม่ที่เสกเขียนขึ้น เพื่อยกเลิกหนังสือมอบอำนาจฉบับเก่าที่ทนายและน้องสาวของเสกถืออยู่ โดยหนังสือมอบอำนาจฉบับใหม่ ได้ให้เสกเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินแต่เพียงผู้เดียว ไม่มีชื่อกานต์เข้าไปเกี่ยวในใบมอบอำนาจฉบับใหม่ พร้อมยืนยันที่ต้องออกมาพูดครั้งนี้ เพราะอยากจะปกป้องทรัพย์สินให้กับเสกเท่านั้น
“ที่ออกมาพูดในวันนี้ก็เพราะอยากให้ประชาชนรู้ความจริงทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มต้นกานต์ไม่เคยโกหกอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เสกเสพยา โพสต์ภาพไปซึ่งเขาก็ออกมายอมรับแต่โดยดี วันนี้เราจะมาพูดเรื่องที่เสกกลับเข้ามาที่บ้านเมื่อวันที่ 6 มกราคม ต้องบอกว่าเขาไม่ได้หนีออกจากโรงพยาบาล แต่ว่าเขามีปัญหาบางอย่างที่เขาต้องกลับมาเคลียร์ คือเขาคิดถึงน้องเสือ น้องกวาง แล้วก็ลอนดอน ซึ่งเป็นลูกของเขา และเขาก็อยากจะมาเคลียร์ปัญหาการเงินของเขา”
“ปัญหาหลักในการบำบัดของเสกตอนนี้ ที่ทำให้การบำบัดไม่ดีเท่าที่ควร เพราะเขากังวลเรื่องทรัพย์สินของเขา ซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ที่ใคร ก่อนที่เขาจะกลับมาเมื่อวันที่ 6 มกราคม เขาโทรมาหากานต์ประมาณ 2-3 วันติดกัน โดยที่ให้หมอโทรมาแจ้งให้โทรกลับไปที่ตึก(ธัญญารักษ์) แล้วก็ใช้โทรศัพท์ของคนที่เฝ้าเขาโทรมาเรื่อยๆ โทรมาปรึกษากรณีที่ว่าเรื่องเงิน เรื่องหนังสือบันทึกที่เขามอบอำนาจให้ทนาย และน้องเขาดูแลทั้งหมด เพราะเขาจะปรึกษาว่าจะทำยังไงกับหนังสือเล่มนี้ แล้วก็เงินทั้งหมดของเขาอยู่ที่ใคร”
เพื่อยืนยันคำพูดของตนเองว่า “เสก” กลับมาที่บ้านจริงๆ “กานต์” ยังได้หอบหลักฐานไม่ว่าจะเป็นบันทึกการเข้าออกป้อมยามหน้าหมู่บ้าน รวมถึงใบสแตมบัตรจอดรถที่เข้ามาในหมู่บ้านออกมาให้สื่อมวลชนดู
“เขาโทรหากานต์น่าจะวันที่ติดกัน 3 วัน ว่าเรื่องเงินเขาอยู่ที่ไหน ให้ไปรับเขากลับบ้านหน่อย กานต์ก็เลยเป็นคนโทรไปบอกหมอว่าเสกจะออกมานะ เขาพูดอย่างนี้นะ แล้วหมอเขาคงไปจัดการ แต่เช้าวันที่ 6 มกราคม เขาคงขี่จักรยานมาถึงหน้าโรงพยาบาลแล้วคงนั่งแท็กซี่ต่อมา ในวันนั้นน้องเสือกับน้องกวางเขารู้ว่าพ่อเขามา แล้วที่ป้อมยามมีบันทึกการเข้าออกของรถที่มาส่งเสกตอน 7 โมงเช้า แล้วรถของหงส์มา 8 โมง ของพี่แสน 8 โมงกว่า แล้วรถตู้ก็มารับเสกไปตอน 11 โมง พวกเขามาเพราะเอากระเป๋าสะพายมาคืนเสก เพราะเสกเขาร้องขอ แล้วเสกเขาก็เก็บไว้ในห้องนอน แล้วหลังจากนั้นหมอก็มาเอาตัวเสกกลับไป”
เสือ ลูกชายเสก: “วันนั้นผมอยู่บ้านแต่ไม่ได้เจอพ่อครับ มีแค่ได้ยินเสียง เขาก็เล่นเปียโนร้องเพลง ที่ไม่ได้วิ่งออกมาดูคุณพ่อเพราะคนวันนั้นเยอะ และไม่อยากยุ่งอะไรมาก ก็เป็นห่วงคุณพ่อครับ แต่ไม่ค่อยได้ติดตามข่าวเท่าไหร่ ก็ยอมรับว่าไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ในชีวิต”
กวาง ลูกสาวเสก : “เห็นค่ะ แต่ไม่ได้คุย ก็เป็นห่วงคุณพ่อเหมือนกัน”
กานต์ : “ก็อย่างที่บอกค่ะ กานต์มีหลักฐานที่ป้อมยาม ถึงแม้คนที่อยู่ส่วนใหญ่จะเป็นคนของกานต์ ซึ่งมันก็จริงนะ แต่ว่ากานต์ก็พูดเรื่องจริงตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ไม่เคยโกหก ไม่เคยสร้างเรื่องอยู่แล้ว”
“เขากลับบ้านเพราะอยากเคลียร์เรื่องกระเป๋าสะพายที่เก็บบุ๊คแบงค์ บัตรเครดิต บัตรเอทีเอ็ม ตราประทับ สมุดเช็คทุกอย่าง แล้วกุญแจรถปอร์เช่ของเขาก็อยู่ในนั้น ซึ่งเสกเขาจะหวง เขาจะติดตัวของเขาอยู่ตลอด ต้องบอกว่าจริงๆ แล้วเสกไม่ได้ถึงขั้นเบลอ จริงๆ ในใจของเสกเขาครุ่นคิดแต่ว่า เงินเขาอยู่ที่ไหนเขาคิดถึงลูก เขาคิดถึงว่าเงินเขาอยู่ที่ไหน มียอดเท่าไหร่ เขาบอกว่าให้เคลียร์ให้เขาหน่อย แต่กานต์จะไปเคลียร์ยังไงเพราะว่าทุกอย่างมันไม่ได้อยู่ที่กานต์ แล้วโทรไปถามทนายเขาบอกว่าเขาให้ไม่ได้แล้วกานต์จะไปเคลียร์ยังไง”
''อย่างเมื่อวันที่ 6 มกราคม ที่เขากลับมา เขาก็ได้โทรเรียกทางญาติเขาให้เอากระเป๋ามาคืนเขา ทางญาติเขาก็แห่กันเอากระเป๋ามาคืนเขา แล้วกระเป๋าใบที่เขาขอคืนมาจะอยู่ในห้องนอนของเขา ทางแม่บ้านที่ดูแลบ้านก็ได้ล็อคห้องเอาไว้ เพื่อไม่ให้ใครเข้า น้องสาว(หงส์)เขาก็พยายามจะงัดประตูห้องเข้าไป แต่ว่าน้องสาวเขาแอบเก็บกุญแจห้องนอนกานต์ไว้ดอกนึง ก็เอาไปไข ค้นเอากระเป๋าของเสกกลับไปอีกเหมือนเดิม ก็ตั้งแต่ตอนนั้นกานต์ก็ยังไม่เจอเสกเลย เพราะว่าเขาไม่ให้เยี่ยม ซึ่งตอนที่กานต์ไปเยี่ยมเสกล่าสุดคือวันที่ 5 ก็ไม่เคยพูดอะไรที่จะทำให้พี่เสกกังวลเลย เวลาไปเจอเสกทุกครั้งเขาจะอารมณ์ดีเล่านั่นเล่านี่ให้ฟังตลอด”
“พอวันที่ 6 หลังจากที่เสกกลับโรงพยาบาลไปแล้ว กานต์ก็ได้โทรไปหาทนายคือคุณอุดมบอกว่า กานต์ขอตรวจสอบทรัพย์สินของเสกว่าทำไมเสกถึงได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้นัก เพราะตั้งแต่เขาไปบำบัดตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม เขาก็เอากระเป๋าไปตั้งแต่วันนั้นเลย ก็ไม่มีใครได้ตรวจสอบ ก็เคยโทรไปทวงเขาเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ว่าในสิทธิ์ของคนเป็นแม่ขอแค่ดู แต่เขาก็ไม่ยอม วันที่ 6 มกราคม ก็โทรไปอีก เขาก็บอกกับเราว่า ให้ไม่ได้ น้องกานต์อยากทำอะไร ก็ทำไปเถอะ”
“หลังจากนั้นกานต์ก็เลยไปโพสต์ข้อความ เพราะปัญหาที่คุณหมอบอกเองว่าปัญหาที่แท้จริงของการรักษาคือการที่เขากังวลเรื่องทรัพย์สิน แล้วอีกอย่างหนึ่งที่อยากให้ทางญาติเขาทราบด้วยว่า ลูกทั้ง 3 คนนี้ เป็นคนในครอบครัวเขาหรือเปล่า อยากให้เขาคิดตรึกตรองให้ดีว่านี่ใช่ครอบครัวเขาไหมหรือว่าเฉพาะคนชื่ออ้อม”
พร้อมกันนี้เจ้าตัวยังได้งัดหลักฐานใบมอบอำนาจให้ดูแลทรัพย์สินฉบับใหม่ออกมาตบหน้า “ทนาย” และ “หงส์” น้องสาวเสก พร้อมบอกเสกเซ็นยกเลิกบันทึกฉบับเก่าที่ทนายกับน้องสาวมีในมือแล้ว ก่อนจะตบท้ายอย่างมั่นใจว่า วันที่เสกเขียนใบมอบอำนาจครั้งแรกให้ทนายกับน้องสาวเจ้าตัวเมายาไอซ์แน่นอน
“สิ่งที่อยากจะให้ดูอีกอย่างในวันนี้คือ จดหมายที่เสกได้เซ็นไว้ ยกเลิกเมื่อวันที่ 5 วันนั้นเขาเรียกกานต์ให้เข้าไปหาเพราะเขากังวลกับสัญญาที่เขามอบอำนาจให้น้องเขาและทนายในการดูแลทรัพย์สินของเขาทั้งหมด (เขารู้ว่ามีปัญหาเรื่องนี้?) ใช่เขารู้ตลอด แล้วหมอเป็นคนโทรบอกกานต์ว่าปัญหาของเขาในการรักษาคือจุดนี้ กานต์ก็เลยเข้าไปเมื่อวันที่ 5 ก็คือไปคุยกับเขา เขาก็บอกว่าทำยังไงก็ได้ที่จะฉีกสัญญาฉบับนี้ กานต์บอกว่าสัญญาฉบับนี้ฉีกไม่ได้เพราะมันเป็นแค่ก๊อปปี้ เขาก็ถามเราว่าแล้วเขาจะทำยังไง เขาก็เลยให้เราร่างจดหมายขึ้นมาใหม่ เป็นจดหมายยกเลิกหนังสือเล่มนี้ โดยที่เขาจะเป็นคนที่จะดูแลทรัพย์สินแต่เพียงผู้เดียวไม่เกี่ยวกับใคร”
“วันที่ 5 ที่กานต์เข้าไป เขาอารมณ์ดีค่ะ คือไม่ว่าจะเขียนฉบับนี้หรือฉบับนี้ เขาก็ยังมีฤทธิ์ของยาอยู่ ฉบับนี้คือฤทธิ์ของยาไอซ์แน่นอน(ฉบับแรกที่ให้ทนายและน้องสาวดูแล) แต่ฉบับนี้อาจจะเป็นฤทธิ์ของยาที่หมอให้(ฉบับใหม่) ลายมือในหนังสือฉบับล่าสุดเป็นลายมือของกานต์ แล้วเขาก็เป็นคนเซ็น เขาบอกกานต์ว่าให้ช่วยทำยังไงก็ได้ ให้อันนี้เป็นโมฆะ แต่วันนั้นเขาอารมณ์ดีค่ะ กานต์ไปตั้งแต่ประมาณ 5 โมงถึง 2 ทุ่มครึ่งก็กลับ เราก็ไม่ได้มีเจตนาอะไร เพราะของทุกอย่างมันคือของเสกทั้งหมด ส่วนในเรื่องที่จะฟ้องเรื่องสินสมรส กานต์ต้องรอให้เสกหายก่อน ซึ่งกานต์กับเสกก็คุยก็เคลียร์กันด้วยดี กานต์ไม่มีทางฟ้องเขาหรอก เพราะคิดว่าเขาจะเคลียร์ให้ตามสัญญาหย่าอยู่แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างลูกทั้ง 3 เขาก็มีสิทธิ์”
“อาการล่าสุดที่เจอเขาก็ไม่ได้ดีขึ้นมาก แต่เจอเขาทีไรเขาก็ยังร่าเริง ก็ไม่ได้เกรี้ยวกราดอะไร แต่พอวันที่ 8 เขาโทรมาหากานต์หลายครั้งบอกให้กานต์ไปรับ ซึ่งเราก็ไม่ได้ไปแต่โทรหาคุณหมอกลัวว่าเขาจะออกมาอีก”
เผย “เสก” บอกว่าจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าได้ทำหนังสือมอบอำนาจฉบับแรกให้ทนายกับน้องสาวไว้
“เขาบอกว่าเขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำ ว่าเขาเซ็นและอีกครั้งที่เขาพูดบอกว่าที่เขาให้เซ็นเนี่ย เขาให้ดูแค่วันที่ 10 ธันวาคม วันเดียว แล้วเขาก็ถามกานต์ว่าอย่างนี้มันหมายความว่า เขาเอาทรัพย์สินของเราไปได้ทั้งหมดเหรอ เขาก็เลยบอกว่าทำยังไงก็ได้ให้ทำจดหมายฉบับนี้ขึ้นมา (มีใครเป็นพยานในวันที่ทำจดหมายมั้ย?) ไม่ค่ะ กานต์อยู่กับเสกกับน้อง 3 คน มีหมอเดินเข้าออก พยาบาลเข้าออก ส่วนหมอคงไม่ทราบค่ะ เพราะว่าถ้าเกิดเขาไม่เอาฉบับเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ออกมา กานต์ก็ไม่เอาฉบับนี้ออกมาเหมือนกัน ออกมาเพื่อจะให้เสกแย้งกับฉบับเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ทั้งหมดคือผลประโยชน์ของเสก ไม่ใช่ของกานต์”
เมื่อถามถึงเรื่องที่ทนายบอกว่า หนังสือมอบอำนาจฉบับที่ให้น้องสาวมีสิทธิ์ดูแลทรัพย์สินได้ให้กับทางผู้ใหญ่แกรมมี่ดูด้วย และกานต์ก็ยินยอมไปแล้ว? เรื่องนี้กานต์เคลียร์ว่า…
“วันที่ไปพบแกรมมี่กานต์ก็ไปพบกับเขาด้วย เพราะเขาเป็นคนขอร้องให้กานต์ไปเองบอกว่ากานต์ควรจะไปด้วย เขาไม่ได้ให้ผู้ใหญ่ทางแกรมมี่เป็นพยาน เขาแค่เอาหนังสือมาแจกให้ครบทุกคน ให้เห็นว่าเขามีสิทธิ์อันนี้เต็มรูปแบบ กานต์ก็เลยเอาจดหมายอันนี้มาแย้งว่าเขาไม่มีสิทธิ์แล้ว เสกมีสิทธิ์คนเดียว ไม่เกี่ยวกับกานต์ด้วย ส่วนเรื่องกระเป๋าไม่ได้สังเกตว่าวันนั้นเขาเอาไปหรือเปล่า”
ตอนนี้ต่างคนต่างก็มีหนังสือมอบอำนาจในมือ ส่วนพยานก็เป็นคนของตัวเองทั้งคู่ ได้ปรึกษาทนายเรื่องนี้หรือยัง?
“ยังไม่ได้ปรึกษาทนายความอะไร แต่อยากจะนำเสนอออกสู่ประชาชนว่าจริงๆ เสกไม่ได้เป็นบ้า หรือไม่ได้ตาย ที่จะมามอบทรัพย์สินให้ใครดูแล เหตุผลอะไรที่เขาจะมามอบทรัพย์สินให้คนอื่นดูแล ส่วนตัวเสกเองเป็นคนที่เซ็นเรื่องทรัพย์สินยากมาก เขาเป็นคนที่รอบคอบมาก ก็ยังงงว่าเขาเซ็นจดหมายฉบับนั้นขึ้นมาได้ยังไง ไม่ใช่วิสัยของเขา”
บอกตอนแรกกับทางครอบครัวเสกก็คุยกันดี เพิ่งจะไม่กินเส้นกันตอนเสกเข้ารับการบำบัด
“ตอนแรกก็มีการคุยกันดีว่าจะพาเสกเข้าบำบัด แล้วเสกก็ยินยอมที่จะไปบำบัดอยู่แล้ว แต่หลังจากที่เสกเข้าบำบัดเขาก็จะกันเราเข้าอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งไม่รู้เหตุผลเหมือนกัน ถ้าเขาอยากจะมาเคลียร์ ก็มาเคลียร์ได้ค่ะ พร้อมเคลียร์ค่ะ”
ยืนยันว่า “เสก” บอกกับตนว่าเงินหายจากบัญชีเกือบ 3 ล้าน ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เสกเป็นกังวลมาก
“เสกเป็นคนบอกว่ามันมียอดที่เขาเบิกเงินออกไป 2 ล้านบาท แล้วก็ 7 แสนบาท แล้วอีกครั้งก็ 2 แสนบาท ซึ่งเขาไม่รู้ว่ายอดเหล่านี้เอาไปจ่ายค่าอะไร เขาก็เลยอยากจะทราบ กานต์ก็ไม่รู้จะเคลียร์ให้ได้ยังไง เพราะสมุดบุ๊คแบงค์ก็ไม่ได้อยู่กับกานต์ บัญชีรายรับรายจ่ายกานต์ก็ไม่ได้ทำอยู่แล้ว ยอดนี้เขาบอกกับกานต์ว่าตอนก่อนเข้าบำบัด (คิดว่าใครขโมย?) ตอนนั้นมันมีคนหลายคนที่เข้ามากานต์ก็ไม่รู้ว่าใครหยิบไปค่ะ ที่หายไปคือกระเป๋าค่ะ”
“เรื่องเงิน 2 ล้านกับ 7 แสนอะไรนั่นกานต์ก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าเสกเขาคิดไปเองหรือเปล่า ก็เลยต้องขอเช็คไปที่ทนาย แต่เขาก็ไม่ให้เราดู เราไม่ต้องการเอากระเป๋าหรือสมุดบัญชีเขามาเก็บ แต่แค่จะเอามาดูเฉยๆ ว่ามันหายไปจริงอย่างที่เขาพูดหรือเปล่า ก็ยอมรับว่าเป็นห่วงอาการเขา และก็เป็นห่วงเรื่องทรัพย์สินที่เขากังวลด้วย ประกอบกับที่เราคลางแคลงใจด้วยว่าทำไมไม่ให้เราดู เพราะถ้าเกิดเอาเรื่องของทายาทในความชอบธรรมน้องเสือกับน้องกวางก็มีสิทธิ์ที่จะต้องเห็นได้”
ส่วนเรื่องที่ “หงส์” บอกว่ามีคนปลอมลายเซ็นเช็คของเสก “กานต์” ปฏิเสธไม่ได้ทำเพราะตั้งแต่หย่ากันเอกสารทางการเงินทุกอย่างก็อยู่ที่เสกหมด…“อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะว่าไม่ได้ถือสมุดเช็คบุ๊คแบงค์ของเขามาตั้งแต่หย่ากับเขา เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ปีที่แล้ว สมุดเช็คก็ไม่ได้อยู่กับกานต์ สมุดบัญชีก็ไม่ได้อยู่กับกานต์ เพราะเสกจะเป็นคนดูแลของเขาเอง”
ท้าให้น้องเสกฟ้อง เพราะตนไม่ได้พูดอะไรผิด…“ก็ให้เขาฟ้องไปค่ะ กานต์ก็สู้คดีไป เพราะว่าไม่ได้พูดอะไรผิดหรือเสียหายหรือว่าไม่จริง เมื่อก่อนความสัมพันธ์กับครอบครัวเสกก็ปกติค่ะ เราก็คุยกันแล้วก่อนที่จะเข้ามาบำบัด ก็คุยกันทุกวันแต่พอหลังบำบัดกลับมาตั้งตัวเป็นฝ่ายตรงข้ามกัน อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน”
ถึงกับของขึ้นพร้อมสวนกลับ “หงส์” น้องสาวเสก หลังออกปากจวกว่า “กานต์” ไม่ยอมทำมาหากิน
“เรื่องนี้ไม่ทราบว่าเขาเอาสมองส่วนไหนคิด เพราะว่าเราอยู่กับเสกมา 10 กว่าปี ก็คือช่วยเสกทำงานทุกอย่างยกเว้นขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีแล้วก็แต่งเพลง นอกนั้นกานต์ทำหมดทุกเรื่องใครๆ เขาก็ทราบดี แล้วก็ช่วยกันเก็บเงินจนกระทั่งมีทุกวันนี้”
“อยากจะบอกว่ากานต์ไม่ได้มาทะเลาะเรื่องเงินทอง ก่อนหน้านี้กานต์เองก็เปิดประเด็นไปชัดเจนอยู่แล้ว ว่ารอให้เสกหายก่อน เรื่องระหว่างกานต์กับเสกไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าเลี้ยงดู หรือสินสมรสทุกอย่างก็คือรอเสกหายก่อนน่าจะเคลียร์กันได้ ไม่ถึงขั้นต้องฟ้องหรอก แล้วที่มาแถลงวันนี้ก็เพื่อจะรักษาผลประโยชน์ให้เสก เพราะว่าเสกเขากังวล ถึงขั้นออกมาจากโรงพยาบาลวันที่ 6 เพราะเหตุนี้”
พร้อมซัดปิดท้ายเรื่องที่ทนายเอาคลิป “เสก” ออกมาเผยแพร่…“กานต์ไม่เห็นด้วยที่เขาเอาคลิปไปออกทีวี สภาพไม่น่าดูจะเอาไปให้ประชาชนเห็นทำไม ไม่สมควร กานต์เองก็ไม่อยากให้ลูกเห็น ยังจะรอให้เสกอาการดีกว่านี้ค่อยพาลูกไปเยี่ยม”
ทั้งนี้กานต์ยังได้เผยถึงทรัพย์สินของเสกว่า รวมทั้งหมดแล้วไม่น่าจะต่ำกว่า 100 ล้านบาท
ที่มา: manager.co.th