Author Topic: 'ซัมซุง' คุยผู้นำมือถือไทย ทิ้งห่างโนเกียมากกว่า 10%  (Read 1356 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai




      'ซัมซุง' มั่นใจกวาดเรียบผู้นำตลาดโทรศัพท์ และแท็บเล็ต คาดปีนี้ตลาดรวมโทรศัพท์ทะลุ 13 ล้านเครื่อง ส่วนสินค้าที่สร้างรายได้หลักให้แก่หน่วยธุรกิจยังคงเป็นสมาร์ทโฟน ที่เติบโตขึ้นมาพร้อมกับความแพร่หลายของ 3G พร้อมก้าวไปข้างหน้าจากผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกกลุ่มลุกค้า
       
       นายวิชัย พรพระตั้ง ผู้อำนวยการธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า ขนาดตลาดรวมโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปีนี้ของไทยเชื่อว่าจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 10% หรือประมาณ 13-14 ล้านเครื่อง จากตลาดรวมปีที่แล้วอยู่ที่ 12-13 ล้านเครื่อง และซัมซุงต้องการเป็นผู้นำในทุกตลาดของโทรศัพท์ ตั้งแต่ฟีเจอร์โฟน สมาร์ทโฟนแม้กระทั่วตลาดใหม่อย่างแท็บเล็ต
       
       "ปีที่ผ่านมาซัมซุงมียอดขายเติบโตสูงถึง 102% รายได้หลักมาจากยอดขายสมาร์ทโฟนถึง50% ขณะที่เป็นแท็บเล็ตราว 20% แต่ถ้ามองในส่วนขนาดตลาด เวลานี้ซัมซุงถือเป็นผู้นำตลาดมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยมีส่วนแบ่งตลาดทิ้งอันดับสองมากกว่า 10% นั่นแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำตลาดอย่างเด็ดขาดของซัมซุงและถือเป็นปีที่ประสบความสำเร็จของสินค้าในตระกูลกาแล็กซี"
       
       ขณะที่ภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนโลกนั้น ทางการ์ทเนอร์รายงานว่า แพลตฟอร์มสมาร์ทโฟนในช่วงไตรมาส 3 ปีที่ผ่านมา สมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์มีส่่วนแบ่งตลาดสูงถึง 53% รองลงมาเป็นซิมเบียน 17% และไอโอเอส 15% ซึ่งซัมซุงสามารถทำยอดขายสมาร์ทโฟนได้ทั่วโลกเป็นอันดับหนึ่ง โดยมียอดขายกว่า 300 ล้านเครื่องทั่วโลก
       
       "สัดส่วนของระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนในประเทศไทยไม่แตกต่างจากตลาดโลกมากนัก เพียงแต่ตลาดล่างที่เป็นฟีเจอร์โฟนถือว่า ยังมีฐานที่กว้างมาก ทำให้สมาร์ทโฟนอาจมีส่วนแบ่งตลาดโดยรวมราว 20-30% ปัจจัยสำคัญที่ทำให้สมาร์ทโฟนเติบโตน่าจะอยู่ที่การมาของ 3G"
       
       กลยุทธ์หลักของซัมซุงในปีนี้ ยังเน้นไปที่การวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมในทุกๆ เซกเมนต์ ในขณะเดียวกันซัมซุงยังเชื่อว่า สเปิกของดีไวส์ยังไม่สามารถตอบโจทย์การใข้งานได้ทั้งหมดจึงต้องมีการพัฒนาโซลูชันเสริมให้แก่ทั้งผู้บริโภค และลูกค้าในระดับองค์กร อย่างเช่น การนำซัมซุงฮับใส่มาในสมาร์ทโฟน เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร โซเชียลเน็ตเวิร์ก เพลงและเกม รวมถึงบริการอย่าง แชตออน ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแชตข้ามแพลตฟอร์มที่ใช้งานร่วมกับฟีเจอร์โฟนได้ด้วย ระบบการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายอย่างออลแชร์ และนวัตกรรมอีกมากมาย
       
       "แท็บเล็ต เป็นอีกหนึ่งตลาดที่เชื่อว่าจะมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการในตลาดที่ยังเพิ่มขึ้น ซึ่งซัมซุงมีผลิตภัณฑ์ที่จะมาตอบโจทย์ จากขนาดหน้าจอที่หลากหลายไล่ตั้งแต่กาแลกซี โน้ต ที่ขนาดหน้าจอ 5.3 นิ้ว แท็บ 7 นิ้ว 7.7 นิ้ว 8.9 นิ้ว และ 10.1 นิ้ว"
       
       สิ่งที่ทำให้ซัมซุงมั่นใจในตลาด ก็คือ การที่ซัมซุงถือเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนแทบจะทุกชนิด ทำให้สามารถใช้เทคโนโลยีของตนเองในการผลิตอุปกรณ์อย่างฟีเจอร์โฟน สมาร์ทโฟน แท็บเล็ตได้ภายในบริษัท และช่วยให้สามารถผลิตและจัดส่งสินค้าได้รวดเร็วขึ้น จากการส่งสินค้าโดยตรงจากเกาหลีมาที่ประเทศไทยทันที
       
       ในส่วนของงบการทำตลาด ในไตรมาส 1 ปีนี้ ซัมซุงวางไว้ที่ราว 6-10% ของยอดขาย ในแต่ละไตรมาสจะไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับการสินค้าและการโปรโมทในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งในปีนี้ก็เริ่มจากแต่งตั้ง ณเดช คูกิมิยะมาเป็นแบรนด์แอมบลาสเดอร์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันจากภาพลักษณ์วัยรุ่นที่ทันสมัย
       
       ทั้งนี้ ยังเน้นไปที่การเพิ่มช่องทางจำหน่าย ในแง่ของการให้ความรู้ผู้บริโภคเกี่ยวกับสมาร์ทโฟน จากเดิมที่มีอยู่ราว 100 จุดทั่วประเทศให้กลายเป็นมากกว่า 1,000 จุดในปีนี้ ทั้งในรูปแบบของแบรนด์ช็อป หน้าร้านขนาดเล็กรวมถึงการจัดกิจกรรมให้ความรู้แก่ผู้บริโภคควบคู่ไปด้วย
       
       ล่าสุด เปิดตัว กาแล็กซี แท็บ รุ่นใหม่อย่าง 7.7 นิ้ว ที่มาพร้อมจอแบบ Super AMOLED Plus บาง 7.89 มิลลิเมตร หน่วยประมวลผลดูอัลคอร์ 1.4 GHz ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอย์ 3.2 ที่สามารถอัปเดตเป็น 4.0 ได้ในอนาคต สามารถใช้โทรศัพท์ได้ กำหนดราคาเปิดตัวไว้ที่ 19,900 บาท

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)