จากสถิติล่าสุดที่รายงานออกมาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา พบว่า ในเดือนกันยายนนี้ ยอดจำนวนผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วโลกที่ติดไวรัสประเภทมัลแวร์มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดือนสิงหาคมถึงร้อยละ 15
โดยปัจจุบัน อัตราเฉลี่ยของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ที่พบปัญหาไวรัสมัลแวร์ทั่วโลกมีเกณฑ์อยู่ที่ 59 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้ใช้ทั้งหมด ซึ่งนับว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่มีการตรวจพบมาในรอบปี โดยมีรายชื่อประเทศกว่า 29 ประเทศที่มีอัตราการติดไวรัสอยู่ในเกณฑ์สูง อาทิ ประเทศไต้หวันมาเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งมีอัตราการติดไวรัสอยู่ที่ 69.1 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาคือ รัสเซีย, จีน และสเปน โดยประเทศสหรัฐอเมริกานั้น ติดอยู่ในอันดับที่ 9 หรือคิดเป็นอัตรา 58.25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจากการศึกษาไวรัสที่ตรวจพบในสหรัฐฯ พบว่า Trojan และ Adware เป็นไวรัสประเภทมัลแวร์ที่มีอันตรายมากที่สุด รองลงมาคือ worm และ virus โดย Luis Corrons ผู้อำนวยการของสถาบันวิจัย PandaLabs กล่าวว่า จากสถิติที่ปรากฎออกมานี้ แสดงให้เห็นว่า พวกแฮกเกอร์มีความสามารถและมีการพัฒนาที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยพวกแฮกเกอร์นี้ เปรียบเสมือนอาชญากรบนโลกไซเบอร์ที่มุ่งแสวงหาช่องทางใหม่ๆในการหารายได้บนความเดือดร้อนของผู้อื่น
ที่มา: pantip.com