CES2012 ยกพล "อัลตราบุ๊ก"

[Nick]

จัดขึ้นเป็นธรรมเนียมทุกปีสำหรับงานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคครั้งใหญ่ CES 2012 ปีนี้หลายค่ายส่งสัญญาณยกพลกองทัพคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กพกพาพันธุ์บางพิเศษ"อัลตราบุ๊ก (Ultrabook)"บุกตลาดอย่างพร้อมเพรียง คาดอัลตราบุ๊กรุ่นใหม่มากกว่า 60 รุ่นจะถูกเปิดตัวในงานนี้ บนราคาสบายกระเป๋า 1,000 เหรียญหรือต่ำกว่า 30,000 บาท
       
       Shawn DuBravac นักวิเคราะห์ของสมาคมอุตสาหกรรมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค (Consumer Electronics Association) กล่าวในงานประชุมกลางกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ว่าอัลตราบุ๊กมากกว่า 30-50 รุ่นกำลังจะถูกเปิดตัวในงาน CES 2012 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกาช่วงสัปดาห์หน้า โดยเชื่อว่าอินเทลจะส่งประธานบริษัทมากล่าวเปิดตัวชิป Ivy Bridge รุ่นล่าสุด พร้อมแสดงแพลตฟอร์มชุดชิปเซ็ตสำหรับผนึกในอัตราบุ๊กอย่างเต็มตัว
       
       ล่าสุด นักวิเคราะห์รายอื่นเชื่อว่าอัลตราบุ๊กที่ถูกเปิดตัวในงาน CES 2012 จะมีจำนวนมากกว่า 50 รุ่นที่ DuBravac ประเมินไว้ โดยนอกจากแบรนด์ใหญ่ระดับโลก แบรนด์ผู้ผลิตพีซีรายย่อยในตลาดก็จะหันมาทำตลาดอัลตราบุ๊กด้วยเช่นกัน
       
       อัลตราบุ๊กนั้นเป็นรูปแบบคอมพิวเตอร์พกพาที่ถูกสร้างสรรค์บนความสำเร็จของแมคบุ๊กแอร์ (MacBook Air) คอมพิวเตอร์แมคอินทอชพกพาขนาดบางเฉียบของแอปเปิล โดยอัลตราบุ๊กถูกเรียกขานว่าเป็นแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์พกพาที่มีขนาดบางและประสิทธิภาพสูงของอินเทล (Intel) ซึ่งวางตลาดพร้อมระบบปฏิบัติการวินโดวส์ (Windows)
       
       Matthew Wilkins หัวหน้าทีมนักวิเคราะห์แพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ของบริษัทวิจัยไอเอชเอส (IHS) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอินฟอร์เมชันวีค (InformationWeek) ว่าความนิยมในตลาดแท็บเล็ตนั้นทำให้ส่วนแบ่งตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กลดลง แต่ไม่มีผลใดๆ กับแมคบุ๊กแอร์ นี่เองที่ทำให้ผู้ผลิตพีซีต้องปรับตัวและสร้างตลาดใหม่เพื่อทดแทนรายได้จากโน้ตบุ๊กที่ลดลง นั่นคือการส่งอัลตราบุ๊กเพื่อตอบโจทย์ตลาดตลอดปีนี้
       
       ที่ผ่านมา เอซุส (Asus), เลอโนโว (Lenovo), เดลล์ (Dell) และเอชพี (HP) ล้วนเปิดตัวอัลตราบุ๊กสู่ตลาดแล้ว โดยปี 2012 นี้บริษัทวิจัยไอเอชเอส ไอซัปพลาย (IHS iSuppli) เชื่อว่าอัลตราบุ๊กจะครองส่วนแบ่งตลาดพีซีโลกมากกว่า 13% ของยอดจัดส่งคอมพิวเตอร์ทั่วโลก เพิ่มจากสัดส่วน 2% ที่ทำได้ในปี 2011
       
       สาเหตุที่ทำให้อัลตราบุ๊กไม่ประสบความสำเร็จในปีนี้ สำนักข่าวดิจิไทมส์ (DigiTimes) รายงานว่าเกิดขึ้นเพราะผู้ผลิตอัลตราบุ๊กกำลังเผชิญกับภาวะต้นทุนการผลิตอัลตราบุ๊กสูงจนไม่สามารถกำหนดราคาอัลตราบุ๊กให้เป็นเมนสตรีมได้ในปี 2011 ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ปัญหาเศรษฐกิจซึ่งทำให้คนทั่วโลกต้องระมัดระวังการใช้จ่ายนั้นมีผลกระทบต่อตลาดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มาก ทำให้ตลาดอัลตราบุ๊กไม่ขยายตัว
       
       ไอเอชเอสเชื่อว่าตลาดอัลตราบุกจะขยายตัวต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีนับจากนี้ โดยมีโอกาสที่สัดส่วนตลาดอัลตราบุ๊กจะเพิ่มเป็น 43% ในปี 2015 ถือเป็นตัวเลขคาดการณ์ที่สูงกว่า 40% ที่อินเทลประเมินไว้ บนแรงผลักดันสำคัญคือราคาที่ต่ำกว่า 850 เหรียญสหรัฐ (ราว 25,500 บาท)
       
       ขณะเดียวกัน การเติบโตของตลาดแมคบุ๊กแอร์นั้นน่าประทับใจมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยแอร์สามารถครองส่วนแบ่งรายได้มากกว่า 28% ของยอดขายสินค้าตระกูลแมคบุ๊กในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจาก 8% ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
       
       นอกจากอัลตราบุ๊ก สินค้าที่คาดว่าจะเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในงาน CES 2012 ยังมีอีกหลายประเภท หนึ่งในนั้นคือแท็บเล็ตซึ่งคาดว่าจะมีอิทธิพลมากขึ้นในตลาดการศึกษาและองค์กรธุรกิจมากขึ้น โดยไมโครซอฟท์ (Microsoft) ถูกคาดว่าจะเปิดตัวแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 (Windows 8) ในงานนี้ เพราะงานในปี 2010 ซีอีโอไมโครซอฟท์ใช้ CES เป็นเวทีเปิดตัว HP Slate ส่วนในปี 2011 ก็ใช้เป็นเวทีพูดถึงแท็บเล็ตวินโดวส์ 7 เช่นกัน
       
       นอกจากนี้ กูเกิลทีวี (Google TV) ก็เป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่คาดว่าจะเปิดตัวในงานนี้ โดยอาจจะมาในนามผู้ผลิตรายใหม่อย่างแอลจี (LG) และซัมซุง (Samsung) บนสถาปัตยกรรมชิปใหม่ (อาจเป็นชิป ARM) ซึ่งจะทำให้กูเกิลทีวีมีราคาที่ต่ำกว่ารุ่นปัจจุบันซึ่งใช้ชิปอินเทล เชื่อว่ากูเกิลทีวีจะได้รับความสนใจท่ามกลางนานาทีวีอัจฉริยะที่จะยกพลมาโชว์ตัวในงานเช่นกัน
       
       นอกจากนี้ สมาร์ทโฟนพันธุ์ใหม่ก็มีคิวจะเปิดตัวในงานนี้เช่นกัน เช่นโซนี่อีริกสัน (Sony Ericsson) ซึ่งจะโชว์ตัวสมาร์ทโฟน Xperia รุ่นใหม่ หรือซัมซุง-อินเทลที่มีข่าวว่าจะสร้างสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการอะตอมที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 (Android 4.0) รวมถึงสมาร์ทโฟน 4G หรือ LTE ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟนจากโนเกีย (Nokia) ซึ่งคาดว่าจะเรียกเสียงฮือฮาอย่างถล่มทลาย
       
       Company Related Link :
       CES

ที่มา: manager.co.th