ฟ้าไม่เป็นใจ "ลีเดีย" แห้วอดฝึกเครื่องบิน ยันซื้อบ้าน 40 ล.ไม่เว่อร์ เสียค่าจอดเครื่องบินต่างหากปีละเกือบ 3 แสน
ฟ้าฝนไม่เป็นใจ “ลีเดีย” แห้วฝึกบินโชว์สื่อ เผยได้เข้าสอบเรียนบินแล้ว อีก 2 อาทิตย์รู้ผล เชิดใส่เสียงเมาท์ทำตัวรวยโอเว่อร์ สวนเสียเงินทั้งทีต้องเอาให้คุ้ม ไม่สนยังโดนเมาท์ไม่เลิก “เสี่ยแม้ว” จ่ายเงินซื้อบ้านให้ ส่วนกรณีเบี้ยวไกล่เกลี่ย “กฤษณ์ คอนเฟิร์ม” เจ้าตัวเผยไม่พอใจอีกฝ่ายที่ไม่สำนึกผิด จึงไม่คิดประนีประนอม และจะเดินหน้าสู้ให้ถึงที่สุด
หลังจับปากกาเซ็นสัญญาจองบ้านหรู พร้อมเครื่องบินส่วนตัวราคา 40 ล้านบาท ในโครงการ “เบสท์ โอเชี่ยน แอร์พาร์ค” ย่านพระราม 2 เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (25 ก.ย.) เจ้าหญิงอาร์แอนด์บี “ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา” พร้อมครอบครัว และนักร้องแร็พตี๋ “โจอี้ บอย” อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต ได้เข้าร่วมเป็นพยาน ในการเซ็นสัญญาร่วมระหว่างสารินซิตี้ กับบริษัทบางกอก เอวิเอชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด จากนั้นตามกำหนดการ 2 นักร้องชื่อดังจะต้องร่วมฝึกบินกับครูการบินเพื่อโชว์สื่อมวลชน พร้อมเยี่ยมชมทัศนียภาพของโครงการด้วยเครื่องบิน CESSNA 172 สำหรับ 3 ที่นั่ง
แต่โชคร้ายที่วันนี้ฟ้าฝนไม่เป็นใจ ฝนได้ตกเทกระหน่ำมาตั้งแต่ช่วงบ่าย ทำให้ไม่สามารถนำเครื่องขึ้นบินได้ ลีเดียจึงได้แต่แอ็คท่ากับเครื่องบินให้สื่อมวลชนได้บันทึกภาพ จากนั้นเจ้าตัวได้เผยถึงความตั้งใจที่มาร่วมงานวันนี้ว่า อยากจะบินชมทิวทัศน์ของโครงการ ที่กำลังจะเป็นบ้านของตัวเองในอนาคต และเรียนรู้การทำงานของเครื่องบินในเบื้องต้น ก่อนจะฝึกบินจริงในภายหลัง
“พ้อยท์ที่มาของวันนี้คือ จะขึ้นมาดูวิวทิวทัศน์ของที่นี่ และการทำงานของเครื่องบิน ซึ่งทางกัปตันจะโชว์ให้ดูว่า ในเครื่องมีอะไรยังไงบ้าง เพราะเดียยังไม่เคยได้ลองใช้เครื่องอะไรเลย เดียแค่ได้ไปสอบเบื้องต้นมา จะรู้ผลภายใน 2 อาทิตย์ แต่เรื่องการบังคับเครื่องยัง วันนี้ก็มาวันแรก แต่วันนี้คงยังไม่ได้ขับหรอก แค่คงได้ลองขึ้นไปดู”
“ถึงอากาศจะไม่ค่อยดีฝนตกแบบนี้ เดียก็มั่นใจและไม่รู้สึกเสียว ถ้ามีกัปตันขึ้นบินไปกับเราด้วย เพราะกัปตันค่อนข้างเก่ง เขาทำงานมากว่า 10 ปีแล้ว เราเลยค่อนข้างมั่นใจว่า มันไม่น่ามีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นก็คงได้เริ่มเรียนทฤษฎีกัน ไม่ว่าจะเป็นการดูอากาศ ดูเมฆว่าเป็นอะไรยังไง”
เผยสาเหตุที่ตัดสินใจซื้อบ้าน เพราะถูกใจข้อเสนอของโครงการ และราคาบ้านก็ต่ำกว่า 40 ล้านที่ตั้งไว้
“เดียได้เซ็นจองบ้านไว้แล้ว เซ็นตั้งแต่วันแถลงข่าววันนั้น แต่โครงการกว่าจะขึ้นก็อีกปีครึ่ง กว่าจะได้เห็นบ้านเป็นรูปเป็นร่าง และกว่าจะได้ย้ายเข้ามาอยู่ ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นชื่อของเดียเอง แต่ทางครอบครัวช่วยกันผ่อน เพราะเดียเองคงรับมือไม่ไหว (หัวเราะ) ส่วนราคาของบ้านก็ตามข่าว 40 ล้าน แต่ของเดียที่ได้ดิวไว้ จะได้ถูกกว่าราคาที่ตั้งไว้ แต่เขาจะให้ประมาณเท่าไหร่ เดี๋ยวคงต้องคุยกับทางเจ้าของโครงการอีกที เพราะเขายังไม่สรุปมาเลยว่าอะไรยังไง”
“ที่เดียตัดสินใจซื้อเพราะชอบ เราเองดำน้ำก็ดำมาแล้ว ขับรถก็ขับมาแล้ว ก็เลยคิดว่าทำไมไม่ลองขับเครื่องบินดูบ้าง เพราะว่าโอกาสก็มาแล้ว และได้เรียนบินฟรีกับทาง BAC ซึ่งเป็นโครงการที่แจ่มมาก เราก็ได้ไปเรียนที่โรงเรียน ซึ่งโรงเรียนเขาก็ดี และทางโครงการก็มีข้อเสนอดีๆเข้ามา คือเขาจะมีรันเวย์ให้เราอยู่แล้ว ซึ่งเป็นโครงการที่เรียกว่าเจ๋งมาก ในเซ้าท์อีสท์เอเชียนี้ยังไม่มี”
“รันเวย์นี้เครื่องบินเล็กสามารถขึ้นลงได้ แล้วเราสามารถบินไปต่างจังหวัดได้สะดวก พอลงปุ๊บก็จะมีที่จอดเครื่องบินมาคู่กับบ้าน ส่วนตัวเครื่องบินก็จะมาพร้อมกับบ้าน แต่ไม่ได้เป็นเครื่องบินใหญ่ขนาดเครื่องบินเจ็ท มันเป็นเครื่องบินขนาดเล็กนั่งได้ประมาณ 2-4 ที่นั่ง เดียคิดว่าคงจะขับอยู่ในประเทศนี่แหละ กว่าจะบินไปถึงเชียงใหม่ก็ใช้เวลา 3 ชั่วโมงแล้ว เพราะเครื่องบินลำเล็กจะบินช้ากว่าเครื่องบินใหญ่”
เชิดใส่เสียงเมาท์ทำตัวรวยโอเว่อร์ บอกเสียเงินทั้งทีก็ต้องเอาให้สุดๆ พร้อมย้ำอีกรอบซื้อบ้านด้วยเงินน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง
“คิดว่าไม่เว่อร์ไปนะคะ วันนี้พี่โจอี้ บอยยังมาเลย เพราะพี่โจ้เองก็อยากเรียน เดียว่ามันแล้วแต่ความชอบของคนมากกว่า เดียคิดว่าซื้อทั้งทีลงทุนทั้งที ก็ต้องทำให้ถึงที่สุด ไม่อย่างนั้นก็เปลืองตังค์เนอะ”
“ส่วนเรื่องที่มีคนเมาท์ว่ามีคนสนับสนุนซื้อบ้านหลังนี้ให้เดีย เป็นท่านไหนเหรอคะ....จากใครคะ ไม่มีหรอก ที่ได้มานี่จากป๊าและคุณแม่ ที่อยู่ข้างหลังเรานี่แหละ มันเป็นการตัดสินใจของครอบครัว แล้วเราเองก็ได้รับการสนับสนุนจากอาเคี้ยว ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการ แล้วก็พี่โก้ที่เป็นเจ้าของ BAC เขาก็สนับสนุนให้เรามาเรียน และอยากให้มาอยู่ที่นี่มากกว่า”
ส่วนเรื่องเบี้ยวนัดศาลและไม่ขอไกล่เกลี่ยกับหมอดูชื่อดัง “กฤษณ์ คอนเฟิร์ม” เนื่องจากไม่พอใจคำพูดของอีกฝ่ายที่ไม่สำนึกผิด ยันจะเดินหน้าเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
“เดียไม่ได้ไป เพราะคิดว่ามันผ่านจุดนั้นมาแล้ว แล้วที่ต้องประนีประนอมเนี่ย เป็นคดีที่เขาฟ้องลีเดียกับพี่แมทมาว่า เดียไปหมิ่นประมาทเขา เพราะฉะนั้นเดียเนี่ยแหละที่จะต้องเป็นคนไปขอประนีประนอมกับเขา ไม่ใช่ว่าเขาไปขอประนีประนอมกับเดีย ถ้าเขาอยากประนีประนอมให้จบๆเรื่อง เขาก็ต้องถอนฟ้องไป ไม่ใช่เดีย เดียก็เลยคิดว่าคดีของเดียศาลได้รับฟ้องไปแล้ว ก็ต้องเดินหน้าต่อไป”
“ตอนนี้ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของศาลไป ที่เดียคิดว่ามันเลยจุดที่ประนีประนอมกันแล้ว เพราะตอนที่ไปเบิกความในศาลที่ผ่านมา เขาบอกว่าเขาไม่ผิด เขาไม่สำนึกผิด เขาไม่เคยทำอย่างนั้น ไปดูที่เบิกความในศาลได้เลยว่า เขาบอกว่าไม่ผิด ไม่สำนึกผิด ไม่เคยออกมาขอโทษ ไม่เคยออกมาอะไรเลย เดียรู้สึกว่าถ้าเขาออกมาพูดว่าไม่สำนึกผิด เดียก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว”
“ทางป๊ากับแม่ก็รู้สึกว่า ที่ผ่านมาทั้งหมดคุณโกหกเหรอหรือยังไง เพราะไม่ว่าเขาจะไปออกรายการ วู้ดดี้เกิดมาคุย หรือออกสัมภาษณ์ที่ไหนๆ เขาก็จะบอกว่าผมขอโทษ ผมรู้สึกผิด แต่พอมาเบิกความกลับบอกผมไม่สำนึกผิด ผมไม่ผิด ผมไม่ทำ เพราะฉะนั้นเดียก็คิดว่ามันเลยมาแล้วที่จะต้องไปประนีประนอมกัน ส่วนพี่แมทก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็แล้วแต่เรา เดี๋ยววันที่ 2 ต.ค.ทางศาลก็จะนัดฟังว่า ตกลงจะรับหรือไม่รับฟ้องคดีที่เขาฟ้องเรามา ก็เดี๋ยวไปรอฟังทีเดียว เดียยังไม่แน่ใจเลยว่าวันนั้นจะต้องไปศาลเองหรือเปล่า”
สำหรับโครงการ “เบสท์ โอเชี่ยน แอร์พาร์ค” ย่านพระราม 2 ซึ่งจะเป็นบ้านสุดหรูในอนาคตของ “ลีเดีย” เป็นโครงการที่มีพื้นที่ทั้งหมด 1800 ไร่ มูลค่าประมาณหมื่นล้านบาท โดยแบ่งโครงการออกเป็น 2 เฟส สร้างบ้านเฟสละ 27 หลัง ประกอบไปด้วยบ้านและเครื่องบิน รันเวย์ และหอบังคับการ ในราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาทขึ้นไป โดยรุ่นของเครื่องบินที่นักร้องสาวจะได้เป็นเจ้าของนั้น เป็นเครื่องอุลตร้าแบบเบาราคาตกอยู่ที่ 2-3 ล้านบาทขึ้นไป ใช้บินภายในประเทศเท่านั้น ซึ่งหากลีเดียต้องการจะบินไปไหน ต้องมีการส่งไฟลท์แพลนแจ้งไปยังหอบังคับการก่อน จากนั้นเจ้าหน้าที่จะมาเช็คเครื่องให้ก่อนขึ้นบิน ส่วนการจอดเครื่องบินขนาดเล็ก นักร้องสาวต้องเสียเงินจ่ายค่าจอดในราคา 2.5แสนบาทต่อปี
นอกจากนี้ภายในบริเวณโครงการยังมีสนามกอล์ฟ 2 สนาม สปอตคอมเพล็กซ์ และสตูดิโอกองถ่าย ระบบการทำงานและการป้องกัน จะเป็นระบบออโตเมติกตั้งแต่ป้อมยามทางเข้าจนถึงบ้าน ภายในบ้านจะมีโทรทัศน์วงจรปิดทุกมุม และเชื่อมต่อไปยังศูนย์เซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นการทำงานที่รองรับโลกในอนาคต เหมาะสำหรับคนที่มไลฟ์สไตล์ชอบการบินและตีกอล์ฟ ซึ่งขณะนี้สามารถขายโครงการไปได้แล้ว 10 เปอร์เซ็นต์
ที่มา: manager.co.th