“อนุดิษฐ์” ประกาศแปรสัญญาสัมปทานมือถือต้องให้เสร็จในปี 2555 ก่อน ทีโอที-กสท รายได้หดจากเงินสัมปทานที่หมดลง พร้อมสั่ง 3 ค่ายมือถือ รายงานปริมาณการใช้งาน มายังกสทช.อย่างต่อเนื่อง
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที เปิดเผยความคืบหน้าของนโยบายการแปรสัญญาสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ว่ามั่นใจภายในปี 2555 จะสามารถดำเนินการแปรสัญญาสัมปทานมือถือให้แล้วเสร็จให้ได้ เนื่องจากสัญญาสัมปทานมือถือของผู้ประกอบการแต่ละรายกำลังทยอยหมดลง ก่อนที่ปี 2556 กสท และทีโอที ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงไอซีทีจะสูญเสียรายได้จากสัญญาสัมปทานลง
โดยอยากเห็นความยุติธรรมเท่าเทียมกัน ภายหลังสัญญาสัมปทานหมดลง ซึ่งทางกระทรวงไอซีที ได้มีการหารือ กับเจ้าของสัมปทานคือบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) โดยกระทรวงได้กำหนดให้ทั้ง 2 หน่วยงานไปคิดแผน และให้ยึดตามนโยบายของกระทรวงไอซีทีที่แถลงต่อรัฐสภา ซึ่งได้ให้แนวทางการดำเนินงานให้สอดคล้องกับภาครัฐ และไม่ควรเกิดธุรกิจซ้ำซ้อน รวมถึงยึดความอยู่รอดขององค์กรเป็นหลัก และมีธุรกิจใหม่เพื่อเลี้ยงองค์กรก่อนปี 2556 เนื่องจาก 2 หน่วยงานดังกล่าวจะต้องนำส่งรายได้จากสัญญาสัมปทานทั้งหมดเข้าสู่กระทรวงการคลัง ตามพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ กำกับกิจการประกอบวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมพ.ศ.2553 (พ.ร.บ.กสทช.) ให้เสร็จภายในปี 2555
ทั้งนี้สัญญาสัมปทานกำลังจะทยอยหมดลงในอีก 2 ปี ข้างหน้าเริ่มจากสัญญาสัมปทาน ทรูมูฟ ที่จะสิ้นสุดลงในปี เดือน ก.ย.2556 ส่วนสัญญาสัมปทาน เอไอเอส จะสิ้นสุดในเดือน ก.ย. 2558 และดีแทค สัญญาจะสิ้นสุดเดือน ก.ย. 2562 ตามลำดับ
ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้มีมติจากคณะกรรมการ (บอร์ด) กสท ชุดเดิม ที่ได้อนุมัติในหลักการ และเงื่อนไขการขายเครื่อง และอุปกรณ์โทรคมนาคม หลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทานให้แก่ ทรูมูฟ ตามราคาประเมิน ณ วันสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน ตามข้อเสนอซื้อในราคา 10,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2554 ที่ผ่านมานั้น คงต้องกลับมาคิดทบทวนให้รอบคอบก่อน เนื่องจากมีมูลค่าทรัพย์สิน เป็นหมื่นล้าน ซึ่งเป็นไปได้ที่แผนดังกล่าวอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
นอกจากนี้ ไอซีทีได้เรียก 3 ค่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ และหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ 2 หน่วยงาน เข้าหารือร่วมกัน โดยมี 2 ประเด็นหลัก คือ เรื่องการให้บริการที่เกิดเหตุขัดข้องของผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านของดีแทค ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการ โดยเบื้องต้นจะต้องมีการรายงานการให้บริการที่เป็นปกติรวมถึงปริมาณการติดต่อสื่อสาร (ทราฟฟิก) ต่อ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ภายในปลายสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ม.ค. 55 เพื่อรับทราบ รวมถึง เอไอเอส และ ทรูมูฟ ในการทำแผนรองรับไม่ให้เกิดเหตุการดังกล่าวอีก
โดยมี นายวิเชียร เมฆตระการ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร บริษัท แอ็ดวานซ์ อินโฟเซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส นายดามพ์ สุคนธทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค และนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เข้าพบหารือในครั้งนี้
อีกทั้งยังได้หารือกันในเรื่อง การให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สารฟรี (Wi-Fi) ในเฟสที่ 2 ซึ่งจะขยายจุดให้บริการมากขึ้น โดยขอความร่วมมือโอเปเรเตอร์ เพื่อที่จะกระจายการให้บริการได้ครอบคลุมพื้นที่ให้ได้มากที่สุด โดยภาคเอกชนมีความยินดี ที่จะให้ความร่วมมือ อย่างไรก็ตามคาดว่าภายในเดือน ม.ค.2555 จะมีการหารือกันในเรื่องแผนงานดังกล่าวอีกครั้งอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
Company Relate Link :
ICT
ที่มา: manager.co.th