การสำรวจพบว่า การใช้งานอุปกรณ์ iOS อย่างไอโฟนนั้นขยายตัวรวดเร็วเหลือเกินช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา
ตลาดไอทีโลกวันคริสต์มาสที่ผ่านมาคึกคักสุดขีด ล่าสุดบริษัทวิจัยพบอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) และไอโอเอส (iOS) มีการเปิดใช้งานถึง 6.8 ล้านเครื่องในวันเดียว ไม่พอ ยอดการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันยังมีจำนวนมากกว่า 242 ล้านครั้งในวันเดียว
เรียกว่าคริสต์มาสนี้เป็นช่วงเวลาทองของอุปกรณ์แอนดรอยด์และไอโอเอสก็คงไม่ผิดนัก เพราะบริษัทวิจัย Flurry ประกาศตัวเลขคาดการณ์ว่าในวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา ยอดใช้งานอุปกรณ์ 2 ระบบปฏิบัติการใหญ่ของโลกอย่างแอนดรอยด์และไอโอเอสซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นราว 6.8 ล้านเครื่องในวันเดียว คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นถึง 353% จากยอด 1.5 ล้านเครื่องซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยจำนวนการเปิดใช้งานเครื่องใหม่ในช่วง 20 วันแรกของเดือนธันวาคม
ขณะเดียวกัน ยอดการใช้งานในคริสต์มาสปีนี้ ยังทุบสถิติคริสต์มาสปีที่แล้วซึ่งบันทึกไว้ที่ 2.8 ล้านเครื่อง
บริษัท Flurry ไม่มีข้อมูลแยกว่าใน 6.8 ล้านเครื่องนั้นเป็นอุปกรณ์แอนดรอยด์เท่าใด และเป็นไอโอเอสเท่าใด แต่เบื้องต้น ผู้บริหารกูเกิล "แอนดี้ รูบิน (Andy Rubin)" โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์โดยระบุว่า ยอดผู้ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) นั้นเพิ่มขึ้นอีก 3.7 ล้านรายในช่วงวันที่ 24-25 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งไม่ชัดเจนว่าเฉพาะวันคริสต์มาส สถิติแต่ละอุปกรณ์จะเป็นอย่างไร
ผู้บริหารกูเกิลยืนยันแล้วว่าในเวลา 2 วันช่วงคริสต์มาส มีอุปกรณ์แอนดรอยด์เปิดใช้งานใหม่สูงกว่า 3 ล้านเครื่อง
ก่อนหน้านี้ รูบินเคยประกาศว่ายอดการใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์นั้นเพิ่มขึ้นราว 700,000 เครื่องต่อวัน ขณะที่มีการประเมินว่า อุปกรณ์ไอโอเอสมีสถิติการใช้งานเพิ่มขึ้น 800,000 เครื่องต่อวัน ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับสถิติวันคริสต์มาสที่เกิดขึ้น
อนึ่ง อุปกรณ์แอนดรอยด์ในท้องตลาดขณะนี้ถูกวางจำหน่ายในรูปสมาร์ทโฟน ฟีเจอร์โฟน และแท็บเล็ตหลากหลายแบรนด์ ขณะที่อุปกรณ์ไอโอเอสคือไอโฟน (iPhone) ไอแพด (iPad) และไอพ็อดทัช (iPod Touch) ซึ่งผลิตโดยแอปเปิลเท่านั้น
ในมุมการโหลดแอปพลิเคชัน ข้อมูลจาก Flurry ระบุว่ายอดการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันในวันคริสต์มาสนั้นเกินหลัก 242 ล้านเครื่อง (รวมทั้ง 2 แพลตฟอร์ม) คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 125% จากค่าเฉลี่ยประจำวันช่วงเดือนธันวาคม ขณะที่คริสต์มาสปีที่แล้ว ยอดการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันมีจำนวนราว 150 ล้านครั้ง ถือเป็นการเติบโตก้าวกระโดดเพราะฐานผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก
Company Related Link :
Apple
Google
ที่มา: manager.co.th