Author Topic: เอชพีสู้ศึกคอมพ์บางเบา  (Read 861 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46027
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


“เอชพี” เกาะกระแส โน้ตบุ๊ก “บางเบา” เปิดตัวไลน์โน้ตบุ๊กใหม่ 3 รุ่นตอบโจกย์กระแสตลาดที่ไอดีซีคาด 4 ปีข้างหน้ามีผู้ใช้ถึง 95 ล้านเครื่อง พร้อมส่ง “อัลตราบุ๊ก 13 นิ้ว” ตัวแรกที่เน้นตลาดองค์กร ยันเน้นรักษาสมดุลระหว่างส่วนแบ่งตลาดกับกำไร
       
       นายมอนตี้ หว่อง ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจเพอร์ซัลแนล ซิสเต็มส์ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ใหม่ในพอร์ทโฟลิโอคอนซูมเมอร์โน้ตบุ๊กของเอชพีที่จะเน้นการทำตลาดมากขึ้นในปี 2555 จะเป็นเรื่องของ ความบางเบา หรือธิน แอนด์ ไลท์ ซึ่งถือเป็นอีกกลุ่มตลาดหนึ่งที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในปีหน้าเชื่อว่าจะเป็นกระแสที่มากแรงมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดขึ้นมาของตลาดเซกเมนต์ใหม่ที่เป็นกลุ่มอัลตร้าบุ๊ก
       
       “จากการคาดการณ์ของไอดีซี ที่ระบุว่า โน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ในกลุ่มอัลตร้าบุ๊กจะมีการส่งมอบเข้าสู่ตลาดถึงมือผู้บริโภคภายในปี 2558 สูงถึง 95 ล้านเครื่อง”
       
       ล่าสุดทางเอชพีได้เปิดตัว "เอชพี โฟลิโอ13" ที่เป็นอัลตราบุ๊กรุ่นแรกที่ออกแบบมสำหรับตลาดองค์กร ด้วยประสิทธิภาพการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานสูงสุดถึง 9.5 ชั่วโมง มาพร้อมช่องสำหรับเชื่อมต่อมากมายทำให้ไม่ต้องพกอุปกรณ์ต่อเชื่อมจึงเหมาะกับกลุ่มผู้ใช้องค์กรที่ต้องโน้ตบุ๊กที่ต้องการความคล่องตัวในการเชื่อมต่อโดยเฉพาะพอร์ตแลนขณะที่อัลตร้าบุ๊กแบรนด์อื่นมีแต่ระบบสื่อสารไวไฟ
       
       ขณะที่ความบางของตัวเครื่องอยู่ที่ 0.75 นิ้ว หน้าจออัลตร้าสลิม 13.3 นิ้วแบบ HD BrightView และน้ำหนักพกพาสะดวกเพียง 1.5 กิโลกรัม ส่วนขุมพลังของ "เอชพี โฟลิโอ13" มาพร้อมหน่วยประมวลผล อินเทค คอร์ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชัน 2 ของอินเทล และยังให้สมรรถนะการทำงานด้วยเทคโนโลยี Intel Rapid Start ช่วยให้กินไฟน้อยลงเมื่อไม่ใช้งาน และเริ่มต้นใช้งานอีกครั้งได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดเวลามากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่อีกด้วย ในระดับราคา 39,990 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
       
       เอชพี พาวิลเลียน ดีเอ็ม4 โดดเด่นที่ระบบเสียงที่ใส่ซับวูฟเฟอร์ถึง 2 ตัวและเทคโนโลยี Beats Audio ใส่กราฟิกการ์ดจาก AMD Radeon HD discrete graphics ทำให้การใช้งานทางด้านกราฟิกแรงยิ่งขึ้น แบตเตอร์รี่ใช้งานยาวนานสูงสุด 7 ชั่วโมง ด้วยน้ำหนักไม่ถึง 2 กิโลกรัม ในราครา 33,990 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เพื่อแสดงถึงเทรนด์โน้ตบุ๊กบางเบา เอชพียังได้เปิดตัวโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ในระดับไฮเอนด์อีก 2 รุ่น ประกอบไปด้วย "เอชพี พาวิลเลียน ดีเอ็ม4" และ "เอชพี เอ็นวี่15"
       
       เอชพี พาวิลเลียน ดีเอ็ม4 โดดเด่นที่ระบบเสียงที่ใส่ซับวูฟเฟอร์ถึง 2 ตัวและเทคโนโลยี Beats Audio ใส่กราฟิกการ์ดจาก AMD Radeon HD discrete graphics ทำให้การใช้งานทางด้านกราฟิกแรงยิ่งขึ้น แบตเตอร์รี่ใช้งานยาวนานสูงสุด 7 ชั่วโมง ด้วยน้ำหนักไม่ถึง 2 กิโลกรัม ในราครา 33,990 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
       
       เอชพี เอ็นวี่ 15 เป็นโน้ตบุ๊กระดับพรีเมี่ยมมาพร้อมคีย์บอร์ดเรืองแสง Radiance Backlit ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Advanced Proximity Sensor ทำให้ตอบสนองการใช้งานเมื่อผู้ใช้อยู่ใกล้เครื่องโน้ตบุ๊ก โดยไฟที่แป้นพิมพ์ก็จะสว่างขึ้น และไฟที่แป้นพิมพ์ก็จะหรี่ลงเมื่อผู้ใช้งานออกไปจากบริเวณหน้าจอ
       
       ระบบเสียงของเอชพี เอ็นวี่ 15 เ เป็นอีกฟีเจอร์หนึ่งที่ทางเอชพีเพิ่มปรับปรุงให้ทรงพลังขึ้น ด้วยลำโพงในตัวถึง 6 ตัว และซับวูฟเฟอร์อีก 2 ตัว ผสานเทคโนโลยี Beats Audio เทคโนโลยีเพื่อคุณภาพเสียงที่ พัฒนาขึ้นโดยเอชพีและ Beats by Dr. Dre ให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสถึงทุกอารมณ์แห่งการรับฟัง คุณภาพเสียงระดับสตูดิโอ นอกจากนี้ที่ตัวเครื่องยังมีปุ่มหมุนปรับระดับเสียงแบบอนาล็อกที่ดีไซน์ออกมาอย่างลงตัว และสามารถทำงานร่วมกับ Beats AudioTM Manager ได้อย่างไร้รอยต่อ ให้ผู้ใช้งานสามารถปรับระดับเสียงได้อย่างง่ายดายและแม่นยำเพียงปลายนิ้ว ในราคา 57,990 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
       
       “ทั้ง 3 รุ่น เป็นโน้ตบุ๊กในไลฟ์ผลิตภัณฑ์ใหม่ปี 2555 ของเอชพีที่เน้นตลาดลูกค้าองค์กร เพราะด้วยคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับการทำงาน และยังเป็นอุปกรณ์ที่ใช้หลังจากทำงานได้ แน่นอนมาพร้อมกับกระแสของธิน แอนด์ ไลท์ที่กำลังมาแรงในปีหน้า”
       
       นายหว่องกล่าวถึงแนวทางการตลาดในปีหน้าให้ฟังว่า ทางเอชพียังจะคงสร้างความสมดุลระหว่างส่วนแบ่งตลาดกับกำไร จะเห็นว่า ไม่ได้ลงมาเล่นราคาเท่าไรนัก โดยปีหน้าจะเน้นการตลาดในระดับกลางจนถึงระบบบน เพื่อให้สามารถทำกำไรได้พร้อมๆ กัน โดยไม่จำเป็นต้องขายสินค้าในราคาต่ำที่สุดเท่านั้น ดังจะเห็นได้จากผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ผ่านมาของเอชพีที่มีผลกำไรดีที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับผู้ค้าพีซีรายอื่นๆ
       
       “ถึงแม้ส่วนแบ่งตลาดจะเป็นสิ่งสำคัญก็จริง แต่ในขณะเดียวกันประสบการณ์ของผู้ใช้ต่อสินค้าก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญเช่นกัน เป็นเหตุผลที่ทำให้เอชพีเน้นการสร้างความสมดลระหว่างส่วนแบ่งตลาด และการสร้างผลกำไร ซึ่งเราจะไม่ได้เน้นขายของถูกอย่างเดียวเพื่อให้ได้ส่วนแบ่งตลาดเยอะๆ แต่เราจะขายของให้ได้กำไรด้วย"
       
       ส่วนเป้าหมายการเติบโตในปีหน้านั้น นายหว่องกล่าวว่า เอชพียังตั้งเป้าเติบโตเป็น 2 เท่าของตลาด โดยไอดีซีระบุว่า ตลาดพีซีมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 8-10%
       
       Company Related Link :
       HP

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)