Author Topic: “เสก” รับพี้ยา-ตีเมีย บอก “จอห์น เลนนอน” ยังเสพเลย อ้างสนิทกับ “ทักษิณ”  (Read 925 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


“เสก” รับพี้ยา-ตีเมียเก่า บอก “จอหน์ เลนนอน” ยังเสพ เผยเหตุเสพเพราะเป็นอาร์ทติส แต่มั่นใจเสพแล้วเอาอยู่ วอนเด็กอย่าเลียนแบบและจะปรับปรุงตัว อ้างสนิท “ทักษิณ” และคนใหญ่คนโตอีกหลายคน “แหม่ม คัทลียา” ซวยโดนเสกเอาไปเปรียบเทียบว่าตนคงจะโกหกว่าเพิ่งจะรู้ว่าท้อง 5 เดือนไม่เป็นเพราะตนเองแมน จริงใจ ไม่โกหก
       
       หลังจาก “เสก โลโซ” ตกเป็นข่าวอื้อฉาว ถูก “กานต์ วิภากร ศุขพิมาย” อดีตภรรยา โพสต์รูปเสกกำลังเสพยา อีกทั้งยังแฉว่าถูกนักร้องดังซ้อม หนำซ้ำยังทอดทิ้งลูกเมียที่อยู่กินกันมากว่า 20 ปี รวมไปถึงพฤติกรรมความเจ้าชู้ของเสกที่ไปพัวพันกับผู้หญิงอีกหลายคน จนเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ ยาวนานติดต่อกันเป็นเวลาเกือบเดือน โดยที่เจ้าตัวเองก็หนีหน้าทำตัวเป็นขอมดำดินไม่ยอมออกมาเคลียร์ มีเพียงโพสต์ระบายเรื่องราวต่างๆ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของตนเองเท่านั้น
       
       ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา เสก โลโซ ก็ได้ออกมาเปิดแถลงข่าวด้วยตนเอง ที่หมู่บ้านนันทวรรณ ย่านวัชรพล ซึ่งเป็นบ้านของเจ้าตัว ท่ามกลางกองทัพนักข่าวที่ติดตามไปทำข่าวแทบทุกสำนัก โดยเสกได้ออกตัวว่าวันนี้จะเปิดโอกาสให้ถามได้ทุกเรื่อง
       
       “วันนี้ผมรู้สึกตื่นเต้น มีเรื่องหลายเรื่องที่จะมาเล่าให้ฟัง ก่อนอื่นผมต้องบอกว่าทุกอย่างอยู่ในพื้นฐานของความรัก ความเมตตา ความสมานสามัคคีกัน ไม่คิดที่จะมาหาเรื่องหรือว่าก่อเรื่องอะไรเลย ผมเชื่อเหลือเกินว่าตั้งแต่ระยะเวลาที่ผมทะเลาะกับภรรยาผมและมีข่าวมีคราวขึ้นมานั้น ผมบอกจริงๆ เลยว่าผมไม่ได้นิ่งนอนใจ ถ้าใครติดตามในเฟซบุ๊กของผมก็จะรู้ดี”
       
       “วันนี้ถามผมได้ทุกเรื่อง ผมจะตอบหมดทุกเรื่อง หากใครติดตามผมในเฟซบุ๊กจะรู้ดี นั่นคือช่องทางเดียวที่ผมได้พูดความจริง บอกตรงๆ พี่น้องนักข่าวเราก็เป็นพี่น้องกัน ผมคิดอย่างนี้เพราะผมอยู่ในวงการนี้มา 10 กว่าปีแล้วนะ ผมบอกเลยว่าหลายท่านก็เขียนข่าวที่ไม่ตรง ผมบอกตรงๆ ตัวผมเองไม่ค่อยได้อ่านข่าว แล้วก็ไม่ค่อยได้ดูทีวีเท่าไหร่ แต่จะมีเลขาฯ ผมมาบอก แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านอะไร”
       
       “มีอยู่วันนึงผมมีโอกาสได้เล่นคอนเสิร์ตที่อำนาจเจริญ เลขาฯ ผมชื่อว่าน้องอ้อมซึ่งก็เป็นแฟนกันด้วย เขาบอกว่าผมหนีไปประเทศลาว แล้วแม่ผมก็ไม่สบายอย่างหนัก ผมก็รู้สึกอะไรกัน มาเขียนอะไรแบบนั้น ผมก็ไม่ได้จะต่อว่าต่อขาน ผมมีความรู้สึกว่าทุกท่านที่นี้มีความรับผิดชอบในประเทศไทยเหมือนกัน ผมเองก็รับผิดชอบประเทศไทย รับผิดชอบตรงไหน ผมเองก็เป็นสื่อมวลชนเหมือนกัน เพราะฉะนั้นการเสนอข่าว การทำอะไรต่างๆ นั้นต้องอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องและความเป็นจริง เพราะฉะนั้นเวลาที่ผมเขียนเพลงต่างๆ นาๆ บอกตรงๆ 70-80 เปอร์เซ็นต์เป็นเรื่องจริง วันนี้ก็เลยอยากจะมาแถลงข่าวเพื่อให้ทุกคนได้เคลียร์กัน”
       
       “หนึ่งก็คือ ไอ้ภาพที่เห็นวันนั้นเป็นภาพที่ผมไปอยู่ที่โรงแรมแมริออท ผมพาภรรยาไปเที่ยว ตัวผมเองไม่ทราบเลยว่าภรรยาผมไปทำการอย่างนั้นคือถ่ายรูป ถ้าผมรู้ผมไม่มีทางให้ถ่ายรูปแน่นอน ผมยอมรับว่าสิ่งนั้นเกิดขึ้นจริง แต่ตอนนี้ผมก็ได้รับปรับปรุง เมื่อวานนี้ผมก็ได้ให้เลขาฯ ผมแจ้งไปทางกองปราบปรามว่าผมยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง และผมจะแก้ไขให้ดีขึ้นด้วยสัตย์ของลูกผู้ชาย จะไปทำการทุกอย่างไม่ว่าสื่อไหน สถานที่ไหนอยากให้ผมได้รับใช้ผมยินดี”
       
       “คงจะไปเป็นพรีเซ็นเตอร์รณรงค์ต้านยาเสพติด ผมจะบอกให้นะครับ การเป็นพรีเซ็นเตอร์รณรงค์ต้านยาเสพติดนั้นผมเคยเป็นอยู่ สมัยก่อนจัสเซย์โน ซึ่งตัวผมเองคงไม่ได้มีภาพลักษณ์ที่ดีอะไรขนาดนั้น ผมเป็นร็อกแอนด์โรล ผมทำอะไรที่ขัดต่อตัวผม โกหกตัวผมเองผมไม่ทำ ผมไม่โกหกตัวผมเองแน่นอน ที่จะเข้าไปผมจะเข้าไปบอกให้รู้ว่ายาเสพติดให้โทษเป็นอย่างไร และจะช่วยต่อต้านยาเสพติดอย่างไร แล้วที่ทำ ผมทำด้วยความสัตย์จริงไม่มีโกหก การที่ผมจะไปบอกสื่อว่าต่อต้านยาเสพติด แต่ผมยังสูบบุหรี่บนเวที กินเหล้าบนเวที ผมทำไม่เป็น ผมเป็นลูกผู้ชาย ผมโกหกไม่เป็น”
       
       “ยาเสพติดเป็นเรื่องที่ไม่ดีล้านเปอร์เซ็นต์ แล้วผมไม่มีเจตนาที่จะให้ทุกคนได้ทำตามอย่างผม ชีวิตคนเรานั้นมีทั้งดีและไม่ดี เอาแบบผมในทางที่ดี ถ้าอันไหนที่ผมไม่ดีอย่าไปเอาอย่างผมเป็นอันขาด ผมเป็นอาร์ทติสท์ ที่แปลว่าศิลปิน ผมเป็นนักเขียน ผมใช้มันเพราะผมทำงานเพลง ผมใช้มันเพราะผมเอามันอยู่ เอามันอยู่ในที่นี้หมายถึงควบคุมมันได้ แต่คนส่วนใหญ่นั้นคอนโทรลไม่ได้ เกิดบ้าคลั่งหรืออะไรต่างๆ นานา แต่ผมบอกตรงๆ นะอย่าใช้มันเลยดีที่สุดเพราะคนที่ใช้มันแล้วเอามันอยู่คือคนที่มีจิตใจแบบผม ผมไม่สะทกสะท้านและผมไม่กลัวอะไร เพราะฉะนั้นผมเอามันอยู่แน่นอน แต่ผมจะบอกอย่างนี้ว่าต่อไปนี้ผมจะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ไม่บอกแล้วกันว่าในด้านอะไร แต่ผมจะขอรับผิดชอบในเรื่องเหล่านี้ครับ”
       
       ที่บอกว่าเป็นอาร์ติสท์แล้วยาเสพติดมันเกี่ยวข้องกับศิลปินยังไง?
       
       “อันนี้เรื่องใหญ่ ผมขอกราบ สิ่งนึงที่ผมเป็นนั้น ล่าสุดที่ผมโพสต์ในเฟซบุ๊กถ้าทุกคนได้อ่าน ถ้าแปลภาษาอังกฤษออก ผมบอกว่า ผมจะบอกให้นะ ถ้าทุกคนรักผม ยอมรับผมในสิ่งที่ผมเป็น ผมก็จะเป็นในสิ่งนี้ แต่ผมจะทำมันให้ดีขึ้น แต่ถ้ายอมรับในสิ่งนี้ของผมไม่ได้ ผมก็จะไปอยู่ที่ลอนดอนประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นเหมือนบ้านที่สองของผม ถามผมว่าทำไมต้องใช้สิ่งนี้ จอห์น เลนนอน โอเอซิสหรือวงอะไรต่างๆ นานา ต่างก็ใช้สิ่งนี้ แต่ผมบอกและย้ำคำเดิมว่าอย่าไปทดลองเป็นอันขาดเพราะเป็นอันตราย เด็กๆ ไม่ควรทดลอง”
       
       เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะต้องทำการบำบัดหรือว่าไปเลิกยาหรือเปล่า? เจ้าตัวก็เผยว่า….
       
       “เอาเป็นว่าผมจะแก้ไขด้วยตัวผมเอง และอยู่ในการควบคุมดูแลของทางราชการหรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็นพี่ชายของผมที่เขามาดูแล ผมขออนุญาตกล่าวนามของท่านพันตำรวจเอก ประสพโชค พร้อมมูล ซึ่งเป็นรองผู้บัญชาการกองปราบ ผมเชื่อว่าหลายท่านเป็นห่วงเป็นใยในตัวผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่ชายผมที่ท่านไม่ได้มาดูแลผม ผมขออนุญาตกล่าวนามท่านพี่ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ผมต้องกราบขอบคุณพี่มาก ผมเชื่อเหลือเกินว่าพี่ก็ยังติดตามผมอยู่ นั่นก็คือพี่ทักษิณ ชินวัตร ผมขออนุญาตกล่าวนามพี่ด้วยนะครับ”
       
       “ผมพูดอย่างนี้เพราะอะไร ผมเป็นชายชาติทหาร ผมทำผิดผมยอมรับผิดและผมยินดีที่จะแก้ไข...เอาอย่างนี้ดีกว่านะครับ ผมสามารถแลกด้วยชีวิตเพื่อให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันดีขึ้น ประเทศนี้ดีขึ้นโดยพื้นฐานของความรัก ความเมตตาและความสงบสุข ทุกท่านคงได้เห็นผมแล้วไม่ว่าจะออกไปทำงานช่วยประชาชน แจกของอะไรต่างๆ ลูกน้องของผมก็ขนไปกันหมด บ้านผมน้ำท่วมผมก็ไปแจกของแจกอะไรกันไป และผมทำอย่างนี้มาตั้งแต่ผมเริ่มเข้าวงการใหม่ๆ”
       
       เจ้าตัวเผยรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถึงขึ้นร้องไห้
       
       “ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้สึกเสียใจ หรือไม่รู้สึกผิด ผมรู้สึกเสียใจ ผมเป็นลูกผู้ชาย ผมร้องไห้อยู่ ผมกลัวว่าน้องๆ จะไปเลียนแบบเอาเป็นแบบอย่าง แต่ที่ผมแคร์ความรู้สึกมากที่สุดนั่นก็คือลูกของผมทั้ง 3 คน น้องเสือ น้องกวาง แล้วก็น้องลอนดอน ภรรยาผมนั่นคงจะเป็นอีกเรื่องนึง รวมไปถึงคุณแม่ผมด้วย ตอนนี้ท่านก็ได้ย้ายมาอยู่กับผมแล้ว นั่นก็เป็นการคอนเฟิร์มว่าแม่ของผมไม่สบายไม่เป็นความจริง และสิ่งที่ผมได้มา ผมจะบอกให้สิ่งที่ทำให้ผมแข็งแรงคือแม่ของผมเพราะท่านเป็นคนที่จิตใจแข็งแรงมาก”
       
       “เรื่องนี้มีหลายคนเข้ามาเกี่ยวข้อง ผมได้บอกไปแล้วว่าอย่ามาเกี่ยวข้องกับครอบครัวกู เพราะว่ากูรักของกูนะจะบอกให้ ผมจริงใจ ผมเป็นนักเลง ผมเป็นนักร้อง ผมเป็นนักรักหรืออะไรก็แล้วแต่ ผมจริงใจกับทุกคน ผมถือว่าทุกคนเป็นพี่น้องกันหมด ผมทำได้หมดเพื่อทุกคน เรื่องของครอบครัวผม ผมจัดการได้ ชีวิตของคนสองคน ความรักระหว่างคนสองคน เอาเป็นว่าผมยอมรับผิดว่าที่ผ่านมาผมมีเมียมีสาวๆ มากมายต่างต่างนานา แต่ผมโกหกไม่เป็น เวลาผมมีผมก็เล่าให้เมียผมฟังหมด ซึ่งเมียผมก็จับได้ ผมเป็นคนรักใครผมก็รักจริงนะ อันนี้ผมยอมรับผิดแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์”
       
       เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างอดีตภรรยากับเสกเกิดขึ้นเพราะความเจ้าชู้?...“เอาเป็นว่าผมยอมรับผิดในเรื่องนั้น แต่ผมจะยอมเป็นสุภาพบุรุษบอกว่าผมรักเขา และผมยอมไม่กล่าวโทษโกรธแค้นอะไรเขา แม้กระทั้งที่เขาทำอย่างนั้นกับผม ผมถือว่าในช่วงที่เขาโมโหเขาก็ทำอย่างนั้นได้ เพราะฉะนั้นผมไม่ว่าอะไรเดี๋ยวผมจะเอาเขามาดูแลเอง”
       
       ยอมรับกับกานต์อดีตภรรยามีการทำร้ายร่างกายกันจริง ถึงขั้นเลือดตกยางออกมาแล้ว
       
       “มีอยู่แล้ว เอาอย่างนี้ ตอบแล้วเลิกถามเลยนะ แม้กระทั่งเขาเอาแก้วที่บาดมาข่วนผมเลือดอาบไหลเต็มตัวก็ยังเคยมี แต่อันนี้ผมไม่ได้บอกใคร ผมมีพยานนะ ไม่ว่าจะเป็นพี่จอร์จ พี่หนุ่ย อำพล ลำพูน พี่บิลลี่ โอแกน อยู่ด้วยกันหมด จะบอกให้ ฉะนั้นเลิกถามผมเรื่องนี้ ผมยอมรับว่ามีทำครับ ผมก็ต้องมาปรับความเข้าใจกับเขาให้เขาเข้าใจ ให้เขาเชื่อมั่นว่าผมรักเขาและผมรักครอบครัวเขา แต่สิ่งนึงที่เขาต้องทำก็คือรักครอบครัวผมด้วย ต้องรักแม่ผมด้วย พอคุณมีเมียแล้วเมียไม่รักแม่คุณแล้วคุณจะรักมันลงเปล่าวะ เพราะฉะนั้นต้องรักแม่ผม ต้องรักครอบครัวผมให้เหมือนกับที่ผมรักและดูแลพี่น้องคุณเพราะนั่นคือชีวิต ถ้าคุณทำอย่างนั้นไม่ได้ เราก็ไม่ต้องอยู่ด้วยกัน”
       
       “จริงๆ แล้วที่ผมทำไม่ว่าจะเป็นการเซ็นใบหย่าหรือทำอะไรต่างๆ เพราะความต้องการของเขา ไม่เชื่อคุณลองไปถามเขตสายไหมหรือเขตไหนก็ได้ ผมไปทำอยู่ตั้ง 2-3 ที่ สุดท้ายเขาก็ไม่ยอมหย่า ผมก็ยื้อเอาไว้ว่าอย่าไปหย่าเลย พ่อแม่เองเขาก็ไม่อยากให้ผมหย่า อยู่มาวันนึงเขาต้องการอีกแล้ว นี่ก็เป็นครั้งที่ 3 แล้วผมก็ต้องทำ เพื่อความต้องการของเขา ถามพี่บูลย์(ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม) ได้ก่อนจะหย่า ผมนอนอยู่ในห้องสัปหงก ตื่นขึ้นมาผมก็โทร.หาพี่บูลย์ว่าผมมีเรื่องใหญ่อยากจะปรึกษา พี่บูลย์ผมจะหย่า แกก็ตอบกลับว่าเดี๋ยวค่อยคุย ผมก็บอกว่าขอคุยกับพี่หน่อยได้มั้ย พี่บูลย์บอกว่าพี่กำลังจะบินกลับเดี๋ยวค่อยคุยกันเพราะว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ ก็ไม่เป็นไร”
       
       เจ้าตัวเผยถึงจะมีข่าวฉาวระดับประเทศแต่ก็ยังมีงานต่อเนื่อง พร้อมกับลาก “แหม่ม คัทลียา” มาเปรียบเทียบว่าตนคงจะโกหกว่าเพิ่งจะรู้ว่าท้อง 5 เดือนไม่เป็นเพราะตนเองแมนจริงใจไม่โกหก
       
       “ผมมีแฟนคลับอยู่ตลอดเวลา ผมมีงานคอนเสิร์ตอยู่ตลอดเวลา เพราะผมเชื่อว่าประชาชนเขาเข้าใจผม เขารักผมถึงแม้ว่าผมจะผิด เอาอย่างนี้น้องแหม่ม คัทลียา เขาเป็นเพื่อนผม เป็นน้องที่รู้จักกัน เป็นเพื่อนที่รู้จักกันกับศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง ผมยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าสมมติว่าเขาบอกว่าเป็นแบบนี้แล้วมาออก เพิ่งรู้ว่าท้องได้ 5 เดือน กูทำไม่เป็นหรอกไอ้เหี้ยจะบอกให้ เข้าใจมั้ยว่าผมเป็นคนจริงๆ เข้าใจมั้ยว่าผมโกหกไม่เป็น อันนี้ขอโทษด้วยที่พูดถึงน้องแหม่มเรื่องนั้น ผมหมายถึงว่าผมเป็นคนจริงๆ และผมก็มีงานตลอดเวลา เพราะประชาชนเข้าใจว่าผมไม่โกหกเขาอยู่แล้ว ผมยอมรับและผมจะแก้ไข มันก็เป็นเช่นนั้นเอง”

        บอกได้เคลียร์กับแกรมมี่แล้ว พร้อมขู่อย่าแฉตนอีก ไม่อย่างนั้นจะแฉกลับบ้าง ทั้งนี้ เสกยังประกาศตัดขาดแกรมมี่ ลั่นที่ผ่านมาเป็นการทดแทนบุญคุณแล้ว
       
       “เขาก็เพิ่งมานั่งกินข้าวกับผมเมื่อประมาณ 4-5 วันที่แล้ว พี่เล็ก บุษบา พี่เจือ ผมจะบอกให้เรื่องมันเกิดขึ้นอย่างนี้ว่ามีคนดักฟังโทรศัพท์ผม ขับรถตามผม ถามลูกน้องผมดูได้ ผมจะไปเล่นคอนเสิร์ตก็มาดักหน้าดักหลังตามผม ผมเป็นนักเลงนะ ผมก็ชักปืนยิงไป 3 นัด จนถึงขั้นที่ผมทนไม่ได้แล้ว ผมถึงเรียกทุกคนมาแถลงข่าว เพราะผมคิดว่าพี่น้องทุกคนที่เป็นนักข่าว ทั้งทหาร ตำรวจ เป็นพี่น้องผมหมด และเชื่อว่าผมพูดเรื่องจริง”
       
       “ผมก็บอกว่าโอเคเรา (กับแกรมมี่) เข้าใจกันแล้วเราก็จะหยุดการแอ็กชั่นในทุกๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ผมรู้ว่าใครทำอะไร ถ้าไม่หยุด ผมก็ต้องทำแบบนี้ ผมจะบอกให้นะครับว่านี่คือชีวิตผม ถ้าคุณเอาผมไปแฉเสียๆ แล้ว อย่าให้ผมแฉคุณบ้างก็แล้วกัน ผมถือว่านี่เป็นการทดแทนบุญคุณคุณ ผมจะไม่แฉหรือบอกกล่าวว่าอะไรคุณต่างต่างนานา ว่าคุณจะผิดหรือถูกยังไง ถือว่าทดแทนบุญคุณกัน พี่ทำให้ผมมีชื่อเสียงทุกวันนี้ ผมทำเพลง คุณก็โปรโมต เพียงแต่คุณกับผมจบกันวันนี้แค่นั้นเอง”
       
       ต่อจากนี้จะไม่มีความสัมพันธ์กับแกรมมี่แล้ว?
       
       “ผมมีความสัมพันธ์ สิ่งนึงที่เขาอยากจะมีความสัมพันธ์กับผม คือ ส่งคนมาขอโทษผม แล้วคุณทำอะไรก็ขอโทษผม บอกด้วยถ้าคุณไม่ได้ทำ แก้ตัวกับผม ผมเป็นลูกผู้ชาย ผมเดิมพันด้วยชีวิต (เขาทำอะไร?) ผมไม่บอกว่าเขาทำอะไรแล้วกัน มันเป็นเรื่องที่ผมรู้กับนายผม (สรุปเสกกับแกรมมี่คือจะมีการทำงานของตัวเอง?) ไม่ๆ ผมยังทำงานกับแกรมมี่อยู่ ชุดนี้ยังขายกับแกรมมี่ เอางี้ ถ้าคุณไม่เคลียร์กับผม เราจบกัน จบกันนี่หมายถึงต้องอธิบายให้ผมเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมต้องทำแบบนี้ต่างต่างนานา”
       
       อันนี้คือเรื่องที่ดักฟังโทรศัพท์ แล้วยังมีคนขับรถตาม?...“อะไรเหล่านั้น ผมรู้ดี เอางี้ถ้าผมเข้าใจผิดมาหาผมที่บ้านแล้วคุยกัน เราพี่น้องกันนะครับ เรื่องมันเกิดขึ้นมาตั้งนานแล้ว 5-6 เดือน เป็นปีแล้ว”
       
       ผู้สื่อข่าวย้อนถามกรณีมีการอ้างว่าเสกได้โพสต์ข้อความยกของทุกอย่างให้ลูกอีกคนนึง ทำให้ “กานต์” อดีตภรรยาโกรธก็เลยแฉทุกอย่าง แต่ทันทีที่ได้ยินคำถาม เจ้าตัวก็ถามกลับว่าเอามาจากไหน แล้วจู่ๆ ก็เปิดประเด็นเรื่อง “ป่าน ปรางค์ฉัตร” พริตตี้สาวที่เป็นประเด็นกันอยู่ โดยยืนยันว่าฝ่ายหญิงเป็นเมียอีกคน
       
       “เอามาจากไหนครับ ถามใครมา มีอัดไว้รึเปล่า ไหนเอามาดูหน่อย ขอดูหน่อยผมไม่เคยได้ข่าว เอางี้ผมพูดเรื่องน้องป่านดีกว่า น้องป่านเป็นภรรยาผมอีกคนนึง จะบอกว่าผมก็เป็นคนเจ้าชู้ (หัวเราะ) ผมเป็นคาสโนวา (แต่คุณแม่น้องป่านออกมาบอกว่าไม่ใช่?) โอ๊ย คุณนายแป๊ดนี่บ้ามาก เคยมากินสุกี้บ้านผม ผมให้ทองเขาไปเส้นนึงเมื่อประมาณ 2-3 อาทิตย์ที่แล้ว”
       
       “เอาอย่างนี้แล้วกัน จริงๆ แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นกับน้องป่านอย่าไปโกรธแค้นน้องเขา เพราะเขายังเป็นเด็ก เขาอาจจะมีคนใช้เขาให้เขามาทำอะไรต่างต่างนานา มันเกิดขึ้นเพราะเขามาบอกผมว่าเขาแท้ง แล้วผมเลยไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ด้วยความเป็นลูกผู้ชายเพราะผมเองก็รักลูก ถ้าท้องกับผมแล้วแท้ง กูไม่ใช่เป็นควายนะชิบหาย ผมก็ต้องรักลูกผม ผมก็แสดงความเป็นศิลปิน ผมก็บอกว่าผมขอวันนี้ให้กับภรรยาของผมน้องป่านและลูก กานต์มันก็ขึ้นเลยทันที”
       
       วันที่มีรูปหลุด วันนั้นเสกเองก็กำลังแสดงคอนเสิร์ตที่เซ็นทรัลเวิลด์ ก็ยังร้องเพลงให้กับภรรยาใหม่และลูกที่จากไป?
       
       “ใช่ครับ ผมหมายถึงน้องป่าน และวันนั้นนั่นแหละที่น้องป่านมากินสุกี้เอ็มเคกับผม ผู้การกองปราบฯ ก็อยู่ที่นี่ ท่านคงไม่เอาตำแหน่งหรือยศมาโกหกพวกท่านหรอก ผมเชื่อว่าน้องป่านเป็นคนจริง แต่เขาอายุยังน้อย อาจจะมีคนใช้ให้มาทำนั่นทำนี่ ทำไมผมถึงคิดอย่างนั้นเพราะน้องป่านมาบอกผมว่าเขาท้อง ผมเองก็ไม่ค่อยเชื่อว่าท้อง ผมก็เลยพาไปตรวจที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ท้องยังไม่ถึง 2 เดือนไปอัลตราซาวนด์มาแล้วเจอลูก เจอเด็กมีลูกตา เป็นตัว ผมก็ด้วยความรักลูก นี่พูดเรื่องจริง ผมก็ไม่สนใจ แต่จริงๆ แล้วผมรู้ว่าไม่ถึง 3-4 เดือนมันไม่เห็นเด็กหรอก แต่ด้วยความรักลูก ผมก็ดีใจจนน้ำตาไหล”
       
       “บอกตรงๆ โอเคเป็นลูกน้องป่านก็เป็นลูกพี่ โอเครักกัน ก็พาเขามาอยู่ที่บ้าน ซื้อรถให้เขาคันนึง แต่ตอนนี้เอาไปซ่อมอยู่เพราะเมียผมทุบ รถที่โดนทุบเป็นรถของน้องป่านไม่ใช่รถของน้องอ้อม ของอ้อมนี่ผมซื้อให้อีกคันนึง(หัวเราะ) ที่ซื้อให้เพราะด้วยความที่ผมรักเขา แล้วเขาก็บอกว่าเขาท้อง ผมจะไปปล่อยให้เมียผมนั่งแท็กซี่ได้ยังไง ผมก็ซื้อให้เขา แต่เมียผมตามมาเห็นก็ทุบ”
       
       “ผมเป็นคนรักประเทศ และผมมีผู้ใหญ่ที่รักใคร่ชอบพอกัน อีกสักแป๊บนึงถ้าผมไม่คาดหวังเกินไปพี่น้องเจ้าของโอสถสภาจะมาร่วมร้องเพลงด้วยกันที่นี่ ส่วนกับแกรมมี่ถ้าคุณไม่เคลียร์กับผมคือจบกันล้านเปอร์เซ็นต์ ผมให้ลูกน้องไปขนของของผมเรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นคุณต้องมาเคลียร์กับผม เคลียร์กับผมแบบลูกน้องกับนาย พี่เป็นนายผมครับพี่ พี่ส่งใครมาก็ได้ครับ พอเคลียร์เสร็จแล้วผมจะโทรหาพี่ แต่เพลงเราก็ยังทำอยู่ด้วยกัน”
       
       “ผมเป็นหุ้นส่วนชีวิตกับแกรมมี่นะ ผมทำเงินให้กับแกรมมี่มากกว่าพันล้านเอาอย่างนี้ดีกว่าเพราะฉะนั้นผมขอร้องนะครับ เชื่อผม เชื่อใจผม ผมทำงานได้ ผมไม่ได้เมาแล้วเพ้อเจ้อ ผมไม่ได้เป็นคนที่ไร้ความสามารถไม่ใช่เลย ผมทำอย่างนี้มาทั้งชีวิตผม ผมเป็นลูกชาวนา ผมเป็นคนจน ผมโกหกไม่เป็นหรอกครับ ถ้าผมบอกว่ารักคุณแล้วผมไม่รักคุณ ผมพูดแบบนั้นไม่เป็นหรอกผมจะบอกให้”
       
       เรื่องค่ายเป็นจุดแตกหักด้วยหรือเปล่า?
       
       “คงไม่ใช่เรื่องนั้นทั้งหมดโดยรวม ซึ่งผมขอสงวนไว้แค่นี้ก่อน เพื่อ...ผมบอกแล้วไงครับ ผมตอบแทนบุญคุณพี่ท่านเหมือนกัน เพราะว่าท่านก็ได้ช่วยผมโปรโมทอะไรต่างต่างนานามา แล้วก็เคยทำงานมาด้วยกัน อีกท่านนึงนะที่ผมจะขอบคุณท่านมาก ซึ่งท่านอาจจะไม่เคยรู้ว่าผมซาบซึ้งใจมาก มันมีหลายอย่างผมจะบอกให้พี่น้องครับ มันมีหลายอย่างการไม่คุยกัน ไม่อธิบายกัน และไม่ยอมคุยกันนี่เป็นเรื่องที่แย่มาก นั่นคือพี่อัสนี โชติกุล ผมรักพี่เขามาก แล้วตอนนี้ก็หนีหายจากกันไปอยู่ที่เบียร์สิงห์”
       
       “ผมจะบอกเลยว่าผมรักพี่มาก แต่เขาไม่คุยไม่เคลียร์กับผมว่า... ไม่รู้อะไร เขาไม่มีเหตุผล ผมบอกตรงๆ พี่เขาฉลาดขนาดนั้นทำไมไม่คุยกัน คุยแบบพี่น้องกัน หรือจริงๆ แล้วคนทั่วไปทุกคนก็เป็นแบบนี้วะผมงงชิบหายเลย ทำไมเวลาที่ผมมีอะไรผมต้องไปคุยกับเขาเคลียร์กับเขาว่ากูเป็นแบบนี้ แบบนี้ ผมคิดว่าการคุยกันเคลียร์กันบอกกันว่ารักกัน จริงใจต่อกัน ผมว่าสิ่งเหล่านี้มันเป็นสิ่งที่คนยิ่งใหญ่เขาทำกัน ผมเชื่อว่าผมเป็นผู้ยิ่งใหญ่คนนึง นี่ที่พูดไม่ได้หลงตัวเองนะเพราะว่าผมเป็นคนจริง”
       
       ปกติคนที่เขามีปัญหากับแกรมมี่เพลงที่เป็นลิขสิทธิ์เก่าๆ จะเอามาร้องไม่ได้ อย่างนี้จะมีผลกระทบกับงานโชว์มั้ย?
       
       “เอางี้ผมทำให้มันร้องได้แล้วกัน เพลงทุกเพลงเป็นของประชาชนคนไทย เป็นของโลกนี้ ไม่มีใครมาห้ามผมร้องเพลงผมไม่ได้เพราะเพลงทุกเพลงผมเป็นคนแต่งเอง ทั้งเนื้อร้อง ทำนอง แล้วก็เรียบเรียง โดยตอนที่เป็นโลโซผมก็เป็นโปรดิวเซอร์เองทั้งหมด โดยมีพี่ป้องมาช่วยบ้าง ผมเป็นโปรดิวเซอร์ผมแต่งและทำเองทั้งหมด ไม่มีใครในโลกนี้ห้ามให้ผมร้องเพลงของผมได้ นอกเสียจากคุณมายิงผมให้ตายห่าแค่นั้นเอง”

       “ผมเองมีสัญญาหมดครับ มาคุยกันได้เลย ถ้าคุณเป็นคนจริงๆ ถ้าคุณเป็นนักเอนเตอร์เทนเนอร์จริงๆ ถ้าคุณเป็นบริษัทเอนเตอร์เทนเนอร์จริงๆ คุณต้องยอมรับในเรื่องนี้ว่าคุณเกิดมาเพื่อสร้างความสุขให้ประชาชน คุณไม่มีทางไปห้ามให้เจ้าของเพลงเขาร้องเพลงของเขาได้หรอก เพราะเขาก็รักของเขา แม้กระทั้งเขาไม่ได้เขียนเพลงเอง คุณก็ไม่มีสิทธิ์ไปห้ามเขา ถ้าคุณเป็นนักเอนเตอร์เทนจริงๆ คุณต้องทำแบบนี้ คุณไม่ได้รักแค่เงิน ถ้าคุณไปห้ามเขาร้องนั่นคือคุณรักแค่เงิน แล้วไอ้การรักแค่เงินมันไม่สร้างอะไรหรอก ก็เพราะเงินนี่แหละ ส้นตีน เงินตัวเดียว มันทำให้ทุกอย่างเสียหายไปหมด ผมจะบอกให้”
       
       ตกลงแล้วอะไรคือประเด็นระหว่างเสกกับแกรมมี่?
       
       “ผมจะบอกให้นะว่า สิ่งนี้อาจเป็นเรื่องเล็กสำหรับผมด้วยซ้ำไป สิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้นั่นก็คือเรื่องของจิตใจของคน จิตใจของมนุษย์ นั่นคือเงินมันไม่ใช่สิ่งที่พิเศษหรือสำคัญที่สุดหรอก เงินมันมาทำลายความสัมพันธ์ ทำลายความรัก ทำลายความเป็นคน คุณไม่มีทางเอาไปได้หรอกเงินถ้าคุณตายห่าไปแล้ว มึงอย่าคิดแค่เอาเงินอย่างเดียว ไม่ว่าจะเรื่องธุรกิจหรืออะไรก็แล้วแต่”
       
       “ผมเป็นทุกข์จะตายห่า คิดถึงลูกคิดถึงเมีย คนจะมายิงผมเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แล้วผมก็ไปทะเลาะกับคนโน้นคนนี้ต่างๆ นานาเพราะว่าเรื่องเหล่านี้ แต่ผมก็ยังต้องให้ความสุขคนด้วยการโพสต์ข้อความลงไปเพื่ออยากจะให้ทุกคนมีความสุข คุณติดตามเฟซบุ๊กผมแล้วคุณจะรู้ แล้วนั่นผมทำด้วยความสัตย์จริง ชีวิตผมตั้งแต่เกิดผมมาบนโลกนี้ ผมมีหน้าที่ให้ความสุขกับคน”
       
       เจ้าตัวบอกทำกำไรให้แกรมมี่เป็นพันล้าน แต่สิ่งที่ตนได้รับก็คือความสุข
       
       “ผมได้รับความสุข สุขมากกว่าความไม่สุข มันก็มีไม่สุขบ้าง ผมว่าคนเราไม่มีใครที่จะสุขอยู่ตลอดหรอก เรามีแฟนคนนึงถามหน่อยมันจะทำให้เราสุขตลอดเหรอ มันก็อาจจะมีกุ๊กกิ๊กบ้าง ผมเองก็เป็นแบบนั้น ชีวิตคนก็เหมือนกัน เคยทำงานด้วยกันมันก็เหมือนคนร่วมชีวิตกัน วันไหนเราไม่พอใจกันเราก็แยกจากกัน แต่เราต้องแยกจากกันด้วยดี มาเคลียร์กัน เขาได้เงิน ผมได้เงิน ถ้าแกรมมี่ไม่ให้เงินผมจะมีเงินมาสร้างบ้านหลังใหญ่โตขนาดนี้ได้ยังไง ผมมีรถพอร์ช มีบีเอ็มดับเบิลยูซีรีส์ 7 มีลูกมีเมีย ลูกเรียนโรงเรียนนานาชาติ ผมต้องขอบคุณเขา ทำไมผมจะไม่รู้จักบุญคุณเขา ผมต้องรักเขา แต่สิ่งที่ผมอยากทำคือ ผมอยากให้เขารู้ว่าผมเองก็มีหัวใจเหมือนกันนะโว้ยไอ้เ..ย ผมเองมีหัวใจและผมก็รักทุกคน”
       
       แล้วที่คนมาดักฟังโทรศัพท์พอจะทราบสาเหตุมั้ย?
       
       “ผมรู้ว่าคนทำมันรู้ว่าผมรู้ ผมไม่บอกหรอกว่ามันเป็นใคร ผมรู้ว่าผมมีศัตรูกับใคร ผมถึงรู้ว่าใครทำ เพราะผมไม่เคยเป็นศัตรูกับใครในชีวิต ไม่มีใครรังเกียจผมหรอก ถ้าผมตายห่าไปก็มีแค่คนเดียวที่จะยิงผม ผมรู้ว่าใครเป็นคนทำ เพราะฉะนั้นมันเลยไม่กล้าทำอะไรผม ผมไม่เคยมีศัตรู ฉะนั้นใครทำอะไรผม พี่น้องผมรู้หมด ผมแจ้งความทุกอย่าง กองปราบฯ เขารู้หมด อย่าคิดว่าเขาไม่รู้ อย่าคิดว่าผู้ใหญ่บ้านเมืองนี้เขาไม่รู้นะครับจะบอกให้ ฉะนั้นทำอะไรอย่าคิดว่าใหญ่อยู่คนเดียว คนอื่นเขาก็ใหญ่เหมือนกัน ที่เขาไม่ได้ออกมาทำอะไรเพราะเขาไม่อยากออกมารังแกใคร ตัวผมไม่เคยรังแกใครก่อน และผมก็จะไม่ยอมให้ใครมารังแกผม คนผิดเนี่ยผมไม่ยอม”
       
       “ผมแจ้งความไปนานแล้วหลายครั้ง ทั้งให้ลูกน้องแจ้งความและผมแจ้งความเอง กับรองผู้การผมก็แจ้งความ มีอยู่วันนึงผมเล่นที่ขอนแก่น ตำรวจมาเต็มบ้าน เวลาผมอยู่ไม่มีใครกล้าเข้ามาหรอก อย่ามาสร้างความวุ่นวายกัน เมื่อคืนนี้ผมเพิ่งแชตกับเลขาฯ ผม ผมก็มีโลกส่วนตัวของผม เวลาที่ผมสั่งงานผมก็ใช้บีบี ไอโฟนสั่งงาน มีคนนึงที่ผมนับถือมากคือคุณสมพงษ์ ชิงดวง วันนั้นนั่งกันอยู่ที่ร้านซาเล้ง ท่านบอกกับผมว่าอย่าไปกลัวคนชั่ว แล้วอย่าให้คนชั่วได้ดี เพราะฉะนั้นพี่น้องทุกคนที่อยู่ที่นี่จงฟังเถิด อย่าไปสนับสนุนคนชั่ว อย่าให้เงินเขาซื้อเราได้ ผมจะบอกให้นะ ทุกคนเป็นห่วงเป็นใยผมหมด บางท่านให้ลูกน้องมา บางท่านให้คนหาเบอร์ผมแล้วติดต่อผมกลับต่างๆ นานา ผมมีพี่น้องที่รักผมเยอะ เพียงแต่ผมไม่ทำอะไรเท่านั้นเอง”
       
       “ผมมีทั้งทหาร ตำรวจที่มาดูแลผม อย่างเหน่งเป็นทหารของผม เป็นทหารของพระราชาของเรา แต่ที่ต้องมีคนมาดูแลเพราะเขามาทำกับผมแบบนี้ เพราะถ้าสมมติมันจะมาจ่อยิงกบาลผมเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ผมมีปืนอยู่กระบอกเดียว ผมสู้มันไมได้หรอก ฉะนั้นผมมีเขี้ยวมีเล็บ ทุกคนห่วงผมหมด พี่แอ๊ด คาราบาว พี่เสถียร เขาก็บอกว่ามันคงไม่กล้าทำอะไรถึงขนาดนั้นหรอก มันไม่กล้า ไอ้พวกนี้แ..งขี้ขลาด ผมจะบอกให้ เขามาระรานบ่อยมาก ถามลูกน้องผมดูได้ทุกคน ผมไม่ได้พูดเพ้อเจ้อ (มีคนมาดูแลนานยัง?) ก็พอมีคนคอนเฟิร์มว่ามันจริง ผมก็เลยต้องมีคนดูแล”
       
       “ลูกทั้ง 3 คน เดี๋ยวผมจะไปรับเขามา เดี๋ยวผมกลับมาจากบุรีรัมย์แล้วผมจะไปรับเขามาไม่ต้องห่วง ผมจะเอามาดูแลหมดเลยทั้งลูกทั้งเมียผม แต่ว่าก็ยังไม่ได้ตกลงอะไร เมียผมโทร.มานี่ผมก็ไม่ได้รับโทรศัพท์ ผมเองก็หยิ่งเหมือนกันนะจะบอกให้ พูดจริงๆ นะครับว่า ผมรู้จักทั้งพี่ทักษิณ ทั้งพี่เนวิน ผมบอกเลยว่าผมเป็นคนที่รักประเทศไทย และผมเป็นคนที่รักความสมานฉันท์ หลายครั้งที่ผมมีความรู้สึกว่าพี่น้องทะเลาะกัน”
       
       “ผมเชื่อว่าพี่เนวินเขาก็เป็นน้องของพี่ทักษิณอะไรต่างๆ นานา เขาทะเลาะกันผมก็ไม่รู้จะเอายังไง ที่ผมพูดเรื่องนี้เพราะผมจะไปเล่นคอนเสิร์ตที่บุรีรัมย์ แล้วผมจะโทร.หาพี่เนวิน แล้วผมบอกเลยว่าผมรักพี่ทุกคน และผมเป็นคนของประเทศไทย ผมเลือกข้างไม่ได้หรอกว่าผมจะอยู่ฝ่ายไหน จะแดงหรือว่าเหลือง ผมอยากให้ทุกคนรักกันเพราะผมเป็นคนไทย”
       
       นี่มันเรื่องการเมืองหรือเปล่า?... “เอาเป็นว่าพอแค่นี้แล้วกันครับ”
       
       หลังแถลงข่าวเสร็จเจ้าตัวยังได้เปิดมินิคอนเสิร์ตโชว์เพลงใหม่ให้สื่อมวลชนได้ฟัง 3-4 เพลงกันด้วย ก่อนจะร้องเพลง “สุดใจ” ของ “พงษ์สิทธิ์ คำภีร์” ให้ฟัง พร้อมกับบอกว่าเป็นเพลงที่ใช้ร้องจีบ “กานต์” อดีตภรรยา ซึ่งในระหว่างร้องเพลงนี้เองเจ้าตัวก็ถึงกับปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)