ALi ยอมรับแต่งเพลง Na Young เพราะตัวเองเคยถูกข่มขืนเหมือนกัน

[Nick]

      หลังถูกโจมตีอย่างหนักกรณีใช้เรื่องราวของเด็กหญิงเหยื่อการข่มขืนมาแต่งเป็นเพลงในอัลบั้มชุดใหม่ ล่าสุดนักร้องสาว ALi ได้เปิดแถลงข่าวถึงบทเพลง Na Young อันอื้อฉาวของตนเอง พร้อมเผยเนื้อหาบางส่วนของเพลง ก็มาจากประสบการณ์ถูกข่มขืนของเธอเองเช่นเดียวกัน
       
       ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาบทเพลงที่ชื่อว่า Na Young ของนักร้องสาว ALi ต้องกลายที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อน เพราะมันมีชื่อเพลง และเนื้อหาที่อ้างอิงมาจากเรื่องจริงของเด็กผู้หญิงรายหนึ่งที่ตกเป็นเหยื่อของการข่มขืน และทำทารุณกรรมทางเพศอย่างร้ายแรง ที่เป็นข่าวสุดอื้อฉาวของเกาหลีใต้เมื่อ 3 ปีก่อน
       
       โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 2008 เมื่อชายที่ชื่อ โจดูซุน ได้ก่อเหตุข่มขืนเด็กสาววัย 8 ขวบในห้องน้ำของโบสถ์แห่งหนึ่ง จนคดีกลายเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตในสังคมเกาหลีใต้ ถูกนำเสนอเป็นประเด็นในสื่อ ซึ่งอาจจะเป็นคดีการข่มขืนที่อื้อฉาวที่สุดครั้งหนึ่งในประเทศ และเป็นที่รู้จักในฐานะ "คดีนายอง" ตามนามแฝงของเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
       
       ซึ่งการหยิบเรื่องราวดังกล่าวมาแต่งเป็นเพลง และใช้ชื่อระบุไปถึงบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริง ทำให้นักร้องสาว ALi ต้องถูกโจมตีอย่างหนัก แม้เจ้าตัวจะพยายามอธิบายว่าบทเพลงดังของตนเองถูกแต่งขึ้นมาเพื่อให้กำลังใจกับเหยื่อของการข่มขืน และเป็นเครื่องเตือนใจไม่ให้เหตุร้ายแรงเช่นนี้เกิดขึ้นอีกก็ตาม
       
       อย่างไรก็ตามยังมีคนอีกจำนวนมากที่เห็นว่าการใช้เรื่องราวอันแสนเจ็บปวดของผู้อื่นมาแต่งเป็นเพลงนั้นเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง รวมถึงนักแสดงสาว คิมเยจิน ที่ทวีตข้อความแสดงความเห็นถึงเรื่องนี้ว่า "ALi ฉันหวังว่าเธอจะเปลี่ยนชื่อเพลงเป็นอย่างอื่นไปซะ นี่มันไม่ใช่เพลงให้กำลังใจแล้ว เรียกว่าไม่ถูกศีลธรรมจรรยาด้วยซ้ำไป" เช่นเดียวกับชาวเน็ตจำนวนมากมายที่กล่าวโจมตีนักร้องสาวรายนี้
       
       ในเนื้อเพลงส่วนที่มีใจความว่า ‘เธอทิ้งขว้างความเยาว์วัยไป, ขายร่างกาย, ขายจิตวิญญาณ ถูกขโมยชีวิตที่ไร้หนทางไปจากตัวเธอเอง’ เป็นส่วนที่มีปัญหาและถูกวิจารณ์มาก จนตัวของ Ali ต้องอธิบายความถึงสิ่งที่เธอต้องการจะสื่อว่า "ฉันอยากจะชี้แจงว่านี่ไม่ได้สื่อความหมายไปถึงเหยื่อ แต่เป็นการพูดถึงคนที่กระทำการข่มขืน และจิตใจอาชญากรไร้ยางอายของเขาค่ะ ซึ่งมันผิดที่ฉันเอง ที่ไม่สามารถ่ายทอดความหมายและสื่อออกไปด้วยถ้อยคำที่ถูกต้องได้ แต่หวังว่าทุกคนจะเชื่อ ว่าตอนที่ฉันเขียนเนื้อเพลงพวกนี้ ฉันไม่ได้มีเจตนาจะกล่าวโทษเหยื่อผู้เสียหายอย่างแน่นอน"
       
       จนในวันที่ 14 ธ.ค. ALi และ Trophy Entertainment ต้นสังกัดของเธอจึงได้ตัดสินใจลบเพลง Na Young ออกจากอัลบั้มชุดใหม่ของเธอทั้งในแบบออนไลน์ และแผ่นซีดี พร้อมแถลงแสดงความเสียใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ
       
       อย่างไรก็ตามการตัดสินใจดังกล่าวก็ไม่สามารถหยุดยั้งกระแสวิจารณ์ที่เกิดขึ้นได้ จนกระทั่งล่าสุดในวันที่ 16 ธ.ค. ALi จึงได้จัดการแถลงข่าวขึ้น พร้อมเปิดเผยว่าเธอเองคือเหยื่อของการถูกข่มขืนมาก่อนเช่นเดียวกัน
       
       "เมื่อเดือน มิ.ย. 2008 ฉันเองเคยถูกข่มขืนโดยเพื่อนรุ่นน้องในกลุ่มค่ะ" ALi กล่าวพร้อมน้ำตาถึงเหตุการณ์ที่สร้างความเจ็บช้ำให้เธอมาจนถึงปัจจุบัน "มันเหมือนชีวิตพังทลาย เจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ฉันถูกชกที่หน้าอย่างแรงมากจนโหนกแก้มแตก และต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล 4 เดือน ทุกอย่างมันเกิดขึ้นในรถตอนที่ฉันไม่รู้สึกตัว"
       
       "เขา, อาชญากรคนนั้นถูกจับกุมตัวและเรื่องไปถึงชั้นศาล ในขั้นต้นเขาต้องรับโทษจำคุก 2 ปี รอลงอาญา 4 ปี กับการทำงานบำเพ็ญประโยชน์ 200 ชั่วโมง แต่เพราะไม่มีพยานและหลักฐาน สุดท้ายเขาก็พ้นผิดจากโทษการทำร้ายร่างกายไปได้ค่ะ"
       
       "ฉันพยายามอุทธรณ์เพราะรู้สึกว่าโทษมันเบาไปกับสิ่งที่เขาทำ ส่วนชายคนนั้นก็อุทธรณ์เหมือนกัน เพราะเขายังอ้างว่าตัวเองบริสุทธิ์ ฉันเองก็ยังไม่ได้รับคำข้อโทษจากเขาแม้แต่คำเดียว ตอนนี้คดีก็ยังดำเนินต่อไป ซึ่งฉันเชื่อนะคะว่าการขอโทษ คือการปฏิบัติที่ถูกต้องที่สุดสำหรับโทษข่มขืนแบบนี้"
       
       ALi ยังอธิบายว่าในตอนแรกเธอคิดว่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับตลอดไป แต่ยอมรับว่าการทำแบบนั้นไม่สามารถลบรอยแผลในหัวใจของตนเองไปได้ จึงแต่งเพลง Na Young ขึ้นมาด้วยความเชื่อที่ว่า จะเป็นการเยียวยาแก่ Na Young ตัวจริงที่ต้องเจ็บปวดเช่นเดียวกับเธอ และอยากจะกระตุ้นเตือนถึงปัญหาการข่มขืน แต่สุดท้ายทุกอย่างไม่ได้เป็นไปอย่างที่เธอคิด "น่าเสียดายเพราะวิธีที่ฉันสื่อสารออกมามันไม่ได้เรื่อง และทำให้เกิดปัญหาขึ้นมา" ALi ยอมรับผิด
       
       "สุดท้ายฉันทำให้ Na Young และครอบครัวของเธอไม่พอใจ เช่นเดียวกับคนอีกมากมาย เพราะความไม่ระมัดระวัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ จึงอยากจะขอโทษอีกครั้งค่ะ หวังว่าการก่อเหตุข่มขืน ที่ปฏิบัติกับผู้หญิงเหมือนสัตว์ ถือเป็นอาชญากรรมขั้นร้ายแรงจะหมดไปจากโลกเสียที"
       
       "เมื่อบ้านคุณถูกปล้น คุณสามารถระบายกันทุกคนได้ว่าตัวเองได้ตกเป็นเหยื่อ จนรู้สึกโล่งใจ แต่เหยื่อของการข่มขืนต้องเก็บความเจ็บช้ำไว้เป็นความลับของตัวเองตลอดชีวิต ฉันเองก็รู้สึกกังวล และเจ็บปวดอยู่เสมอ" ALi กล่าวถึงประสบการณ์ส่วนตัวของเธอ พร้อมยืนยันว่าหลังจากนี้ตนเองจะต่อสู้เพื่อสิทธิของผู้หญิงต่อไป
       
       "ฉันจะใช้ทั้งชีวิตต่อสู้เพื่อสิทธิของผู้หญิง และต่อสู้กับอาชญากรรมการข่มขืน ... ต้องขอโทษอีกครั้งที่ทำให้หลาย ๆ คนเป็นกังวล และสร้างปัญหามากมาย ขออภัยจริง ๆ ค่ะ"

ที่มา: manager.co.th