“น้ามด” ทำใจอาจไม่ได้เงินคืน จวก “นาธาน” ปากบอกว่าสำนึกแต่พอออกจากคุกไม่เห็นโผล่หน้ามาตกลงเรื่องเงิน แถมไปออกรายการอ้างรับโทษติดคุกแล้ว เตรียมปรึกษาทนายบังคับเอาเงินหากนาธานมีงานมีรายได้
ได้รับอิสระภาพออกมาเป็นที่เรียบร้อยในส่วนของอดีตนักร้อง "นาธาน โอร์มาน" หลังถูกคุมขังเป็นเวลานาน 9 เดือนในคดีฉ้อโกง
โดยทันทีที่พ้นโทษออกมาดูเหมือนเจ้าตัวจะกลายเป็นที่สนใจขึ้นมาทันที มีหลายรายการติดต่อให้ไปเป็นแขกรับเชิญชนิดที่ต้องเรียกว่า "เดินสาย" ซึ่งในทุกครั้งที่เจ้าตัวไปให้สัมภาษณ์ดูเหมือนว่าสิ่งหนึ่งที่อดีตนักร้องคนนี้บอกเสมอคือ ตนชดใช้กรรมแล้ว ตนสำนึกแล้ว ทว่าพอถูกถามเรื่องหนี้สินจำนวนกว่า 7 แสนบาทที่ติดค้างคู่กรณี “น้ามด สิทธิพร โคตรอุดมพร” เจ้าตัวก็มักจะบ่ายเบี่ยงที่จะให้รายละเอียดแต่อย่างไร
เริ่มตั้งแต่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา นาธานก็ได้โฟนอินเข้ารายการ “แฉแต่เช้า” บอกว่า ตนเองได้รับโทษติดคุกไปแล้ว ส่วนเรื่องหนี้สินน้ามดเป็นเรื่องส่วนตัว ใครที่คิดแทนก็ให้เอาเงินไปใช้น้ามด พอข่าวนี้เผยแพร่ออกมาไปนาธานก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วบ้านทั่วเมือง
ต่อมาวันที่ 14 ธันวาคม นาธานได้ตกปากรับคำจะเดินทางมาเปิดใจที่ช่อง "Mango" ของเนชั่น แต่พอถึงเวลานัดหมายเจ้าตัวกลับไม่มาพร้อมกับบอกว่า ติดธุระให้ติดต่อมาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ แต่พอเช้าวันรุ่งขึ้นนาธานดันไปโผล่หน้าออกรายการเช้าดูวู๊ดดี้ที่ช่อง 9 ซะงั้น และปฏิเสธที่จะไปออกรายการที่ช่อง Mango
การสัมภาษณ์ในรายการ "เช้าดูวู๊ดดี้" คราวนี้นาธานซอฟต์ลงกว่าเดิม เพราะบอกว่าสำนึกและจะชดใช้เงินให้น้ามดแต่ก็ยังไม่วายตั้งคำถามว่า แล้วที่ธานที่ติดคุกล่ะ ? เท่านั้นไม่พอยังบอกว่า ใครจะไม่ให้อภัยก็ไม่เป็นไรขอให้พ่อหลวงให้อภัยก็พอแล้ว นี่เป็นการสัมภาษณ์ครั้งที่ 2 แล้วที่นาธานกล่าวอ้างแบบนี้หลังจากที่ให้สัมภาษณ์ในรายการวิทยุแฉแต่เช้าอีเอฟเอ็ม พร้อมกับบอกว่า จะกลับตัวกลับใจเป็นคนดี ถ้าเป็นแบบนั้นทุกคนคงอนุโมทนาสาทุด้วย แต่ถ้าเป็นคำพูดที่กล่าวอ้างมหากาพย์อาจจะยังไม่จบอย่างแน่นอน
ด้านน้ามดเองพอฟังนาธานให้สัมภาษณ์อ้างตนเองได้ติดคุกชดใช้ไปแล้ว และยังไม่รู้จะได้เงินคืนหรือไม่ก็ออกอาการปลง ได้แต่ขอให้นาธานนึกถึงสิ่งที่น้ามดเคยช่วยเหลือให้ข้าวให้น้ำให้ที่พักอาศัย และขอให้หาเงินมาใช้หนี้ แต่งานนี้คงต้องดูกันยาวๆ เพราะถึงน้ามดจะถือคำสั่งศาลในมือ ถ้านาธานมีทรัพย์สินที่ไหน หรือมีรายได้น้ามดก็สามารถถือคำสั่งศาลไปยื่นเพื่อบังคับเอาเงินส่วนนั้นได้ แต่ถ้านาธานทำธุรกรรมผ่านมามือคนอื่นโดยไม่ใช้ชื่อตนเองล่ะ ? และในเมื่อไม่มีทรัพย์สินหรือรายได้ให้บังคับเอาเงิน จะไปฟ้องร้องอีกก็ไม่ได้ เพราะตามหลักแล้วศาลจะไม่รับฟ้องร้องคดีเดิม
“ตั้งแต่เขาออกจากคุกก็ได้ข่าวว่าเขาไปพักที่โฮมสเตย์ที่เชียงคานนี่แหละ แล้วก็ไปโผล่ที่ซอย 9 เชียงคาน คนที่รู้จักกันเขามาบอกถ้าน้ามดไปหาก็คงจะเจอแต่น้ามดไม่อยากพบหน้า ส่วนเขาพอออกจากคุกก็ไม่ได้ติดต่อมาว่าจะยังไงทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็เขียนจดหมายมาหาน้ามด บอกว่าเขาสำนึกผิดกราบขอโทษน้ามด กราบขอโทษตา กราบขอโทษยาย กราบขอโทษแม่แหม่ม และน้องๆ (ลูกน้ามด) น้ามดคงจะเจ็บปวดลำบาก น้ามดก็ลำบากสิจะไม่ลำบากได้ไง น้ามดไม่มีอะไรเหลือเลย และเขาก็บอกว่า เขาจะคืนเงินน้ามดให้ครบทุกบาททุกสตางค์ถึงจะต้องใช้เวลาแต่ก็จะต้องหาเงินมาให้ครบ 7 แสนกว่าบาท”
“น้ามดรู้สึกว่าเขาปากกับใจไม่ตรงกัน ปากบอกว่าสำนึกแต่จริงๆ ไม่สำนึก ถ้าพูดแบบนี้มันแค่พูดคำว่าสำนึกเฉยๆ มันไม่ได้พูดออกมาจากใจ ฟังที่เขาพูดแล้วก็เสียใจไม่รู้จะได้เงินคืนหรือเปล่าเพราะเราก็ลำบากทั้งครอบครัวเพื่อหาเงินใช้หนี้ การติดคุกของเขาเป็นการรับโทษทางอาญา เขาทำผิดเขาก็ต้องได้รับโทษ แต่ในส่วนแพ่งที่จะต้องคืนเงินเขาก็ต้องคืนเงินไม่เกี่ยวกับการติดคุก”
“ศาลเขาบอกว่ามีอายุความ 10 ปีถ้านาธานมีทรัพย์สินที่ไหนให้น้ามดเอาคำสั่งศาลไปยึดได้เลย แต่นาธานไม่มีอะไรเลยจะให้ไปยึดเอาอะไร ของนาธานที่อยู่ที่บ้านก็ไม่มีมูลค่าเราก็ไม่ได้อะไร แต่ถ้านาธานมีรายได้เราก็สามารถไปเอาเงินตรงนั้นมาได้ ตอนนี้ก็มีข่าวว่าเขาจะออกพ็อกเก็ตบุคหรือเล่นหนังนาธานก็อยากให้เล่นเขาจะได้เอาเงินมาใช้หนี้ แต่น้ามดคงต้องปรึกษาทนายก่อนว่าถ้าเขามีงานมีรายได้เราจะทำยังไงได้บ้างเพื่อให้ได้เงินส่วนนั้น”
“วันนี้น้ามดก็ทำใจพอสมควร เพราะถ้าเขาไม่ให้เราจะไปฟ้องอีกก็ไม่ได้ ถ้ามันมีจิตสำนึกก็อยากจะให้หาเงินมาคืนซะ แต่ถ้าไม่มีจิตสำนึกต่อให้มีร้อยล้านมันก็ไม่เอาเงินมาคืน ก็หวังว่าจะมีจิตสำนึกให้นึกถึงใครที่เคยรักเคยหาข้าวหาน้ำเคยให้ที่พักที่อาศัย ใครที่เคยดูแลนาธาน แต่คิดว่าเขาคงไม่สำนึกหรอก เห็นมาเดินถนนคนเดินที่เชียงคานหน้าน้ามดมันยังไม่มามองเลย”
ที่มา: manager.co.th