เมื่อวานนี้ บริษัทอินเทลเปิดเผยว่า รายได้ในไตรมาสที่สี่ของบริษัทอาจจะลดลงกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้า เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์ฮาร์ดไดร์ฟอย่างหนัก จนส่งผลให้บริษัทรับรายได้ในไตรมาสที่สี่เพียง 13.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือบวกลบไม่เกิน 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้าที่ประมาณไว้ถึง 14.2-15.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
นอกจากนี้ บริษัทอินเทลยังได้ตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมอีกว่ายอดขายของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลคาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามลำดับในไตรมาสที่สี่ แต่อย่างไรก็ดี ตลาดพีซีทั่วโลกเริ่มมีสินค้าคงคลังลดน้อยลงแล้ว ประกอบกับการจัดซื้อไมโครโปรเซสเซอร์ที่ก็ขาดแคลนเนื่องมาจากเหตุการณ์น้ำท่วมในประเทศไทย ซึ่งบริษัทก็คาดว่าจะยังไม่ได้รับผลกระทบในช่วงปัจจุบันนี้ แต่มันอาจจะส่งผลต่อเนื่องไปยังการผลิตฮาร์ดดิสก์ที่จะถูกจำกัดในปี 2012 ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวได้ส่งผลให้หุ้นของอินเทลตกลง 5% เหลือเพียง 23.76 เหรียญสหรัฐฯ ในการซื้อขายล่าสุด แต่อย่างไรก็ดี อินเทลไม่ได้เป็นเพียงบริษัทเดียวที่ได้รับผลกระทบจากการผลิตที่ชะลอตัว โดยตามรายงานจากวอลล์สตรีท เจอร์นัลได้เปิดเผยว่า บริษัทคู่แข่งอย่างเอเอ็มดี ก็ต้องประสบชะตากรรมเดียวกันกับหุ้นที่ซื้อขายลดลง 4.9% ปิดที่ 5.27 เหรียญสหรัฐฯ สวนทางกับบริษัทกราฟฟิคชิฟอย่าง Nvidia ที่ทะยานถึง 4.1% หรืออยู่ที่ 14.29 เหรียญสหรัฐฯ
Source : TechSpot
ที่มา: pantip.com