เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
หลังจากสยามดาราได้ตีแผ่เรื่องราวชีวิตของน้องไทเกอร์ เด็กชายธนากร พิศนุภูมิ อายุ 11 ปีอดีตดาราเด็กจากละครเรื่องฝนเหนือ ทางช่อง 7 และเคยแสดงหนังเรื่อง ผีเลี้ยงลูกคน ที่มี อั้ม - พัชราภา ไชยเชื้อ เป็นนักแสดงนำ ปัจจุบันมีชีวิตที่ตกยาก ต้องมานั่งอ่านกลอนขอทานบริเวณป้ายรถเมล์อนุสาวรีย์ชัย เพื่อหาเงินค่าเทอม เพราะเห็นแม่เครียดหนักหลังได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่ ที่ดินปลูกดอกมะลิขายจมน้ำหมดตัว
ล่าสุด วานนี้ (8 ธันวาคม) รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ช่วงเจาะข่าวเด่น ของสรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้นำ น้องไทเกอร์ พร้อมกับนางปลายรุ่ง พิศนุภูมิ มารดา ไปออกรายการ เพื่อสอบถามถึงที่มาที่ไป และเหตุผลของการที่ น้องไทเกอร์ ต้องไปอ่านกลอนขอทานเช่นนี้
โดย น้องไทเกอร์ กล่าวด้วยอาการสะอื้นไห้ ว่า ที่ตนต้องมาอ่านกลอนขอทานเช่นนี้ ก็เพราะต้องการนำเงินมาซื้อหนังสือแคลคูลัสระดับ ม.ปลาย เนื่องจากตนต้องการสอบแข่งขันคณิตศาสตร์ระดับประเทศอีกครั้ง หลังจากเคยสอบมาก่อนหน้านี้ พร้อมทั้งบอกว่า อยากได้เงินไปเป็นค่าเทอม เพราะใกล้จะเปิดเทอมแล้ว แต่เงินยังไม่มีจ่าย เห็นแม่เครียดจากที่ดินปลูกดอกมะลิจมน้ำหมดตัวแล้ว ก็รู้สึกสงสารแม่และอยากจะแบ่งเบาภาระบ้าง
ทั้งนี้ ในการไปขอทาน น้องไทเกอร์ ก็จะมีกล่องรับบริจาคเงินที่มีข้อความข้างกล่องที่เจ้าตัวเขียนเอง และคุณแม่ช่วยเขียนบ้าง ทำให้ทราบว่า ค่าใช้จ่ายเรื่องการเรียนของน้องไทเกอร์สูงมากถึงปีละ 80,000 บาท โดยคุณแม่บอกว่า เป็นเพราะเรียนห้องอัจฉริยะที่สาธิตฯ จุฬา พร้อมทั้งบอกว่า ยังไม่ทราบว่าควรจะทำอย่างไรจริง ๆ หลังไร่มะลิที่ลงทุนลงแรงไป ทำเองทั้งหมด ต้องโดนน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ตอนแรกไม่รู้ว่าน้องไทเกอร์ไปเป็นขอทาน เพราะมีพี่ที่รู้จักบอกว่าจะช่วยเหลือ ก็พาน้องไทเกอร์ออกไป แต่ปรากฏมารู้ภายหลังว่าลูกต้องไปขอทาน รู้สึกใจหายมาก สงสารลูก ไม่คิดว่าลูกอายุแค่นี้ต้องมาทำขนาดนี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากออกรายการเรียบร้อยแล้ว คุณสรยุทธ ได้พาน้องไทเกอร์ไปเปิดบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขา อาคารมาลีนนท์ ไว้ด้วย เพื่อเป็นช่องทางรับเงินบริจาคจากผู้ใจบุญที่มีความประสงค์ช่วยเหลืออดีตดาราเด็กตกอับนี้ด้วย
ทางด้าน คุณแม่ของน้องไทเกอร์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่เริ่มได้รับการช่วยเหลือจากหลายฝ่าย ทำให้ได้ออกรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ รู้สึกสดชื่น และมีกำลังใจต่อสู้ชีวิตต่อไป ไม่รู้สึกว่าอยู่ในโลกมืดกับลูกชายอีกต่อไปแล้ว ขอบคุณทุกคนที่ยื่นมือเข้ามาช่วย ลูกชายตนจะได้เรียนหนังสือต่อไป ได้มีทุนการศึกษา และซื้ออุปกรณ์การเรียน ไม่ต้องอยู่อด ๆ อยาก ๆ ตั้งใจเรียนหนังสือ หาเลี้ยงตนเอง สามารถยืนอยู่ด้วยลำแข้งของตนเองได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
http://www.siamdara.com/hotnews/111209_2065.htmlแม่ ''ไทเกอร์'' ปลื้มมีคนเหลียวแลลูก
''ไทเกอร์'' กับแม่ปลื้มใจ มีคนยื่นมือช่วยเหลือ มีกำลังใจต่อสู้ชีวิต ไม่รู้สึกเหมือนอยู่ในโลกมืดอีกต่อไป ขอบคุณสยามดาราตีแผ่ชีวิต ''สรยุทธ'' พาออกรายการพร้อมเปิดบัญชีธนาคารให้ ผู้ประกาศวิก 3 เอ็นดูในความตั้งใจเรียนลงขันช่วยค่าอุปกรณ์การเรียน
หลังจากสยามดาราตีแผ่เรื่องราวชีวิตน่าสงสารของ ''น้องไทเกอร์'' เด็กชายธนากร พิศนุภูมิ วัย 10 ปี อดีตดาราเด็กละครเรื่องฝนเหนือ ทางช่อง 7 สี และ หนังเรื่องผีเลี้ยงลูกคน ที่มี ''อั้ม'' พัชราภา ไชยเชื้อ นางเอกซูเปอร์สตาร์ เป็นนักแสดงนำ มีชีวิตตกยากต้องมานั่งอ่านกลอนขอทานบริเวณป้ายรถเมล์อนุสาวรีย์ชัย เพื่อหาเงินค่าเทอม และซื้อหนังสือ และอุปกรณ์การเรียนด้วยตนเอง หลังเห็นแม่เครียดหนักหลังได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่ ที่ดินปลูกดอกมะลิขายจ่มน้ำหมดตัว
ความคืบหน้าเรื่องนี้เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 54 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ช่วงของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้นำ ''น้องไทเกอร์'' พร้อมกับนาง ปลายรุ่ง พิศนุภูมิ มารดา ไปออกรายการ เพื่อสอบถามถึงที่มาที่ไป และเหตุผลของการที่ ''น้องไทเกอร์'' ต้องไปอ่านกลอนขอทานอีกครั้ง โดยระหว่างที่เตรียมตัวออกรายการ เหล่าผู้ประกาศข่าวช่อง 3 ต่างรู้สึกเห็นอกเห็นใจ และสงสารอดีตดาราเด็กต่างพากันนำเงินมามอบให้ ในจำนวนนั้น ''เอิ้น'' ปานระพี รพิพันธุ์ ควักกระเป๋าให้ 2,000 บาท นอกจากนี้หลังจากออกรายการเรื่องเล่าเรียบร้อยแล้ว สรยุทธ ยังได้พา ''น้องไทเกอร์'' ไปเปิดบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขา อาคารมาลีนนท์ ไว้ด้วย เพื่อเป็นช่องทางรับเงินบริจาค จากผู้ใจบุญที่มีความประสงค์ช่วยเหลืออดีตดาราเด็กตกอับ
นางปลายรุ่งกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่สยามดารานำเรื่องของลูกชายมาตีแผ่ จนเริ่มได้รับการช่วยเหลือจากหลายฝ่าย ทำให้ได้ออกรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ รู้สึกสดชื่น และมีกำลังใจต่อสู้ชีวิตต่อไป ไม่รู้สึกว่าอยู่ในโลกมืดกับลูกชายอีกต่อไปแล้ว ที่ผ่านมารู้สึกเหมือนอยู่ในโลกแคบๆ เพียงลำพังไม่รู้จะหันไปทางไหน ไม่รู้จะไปขอความช่วยเหลือใคร ขอบคุณทุกคนที่ยื่นมือเข้ามาช่วย ลูกชายตนจะได้เรียนหนังสือต่อไป ได้มีทุนการศึกษา และซื้ออุปกรณ์การเรียน ไม่ต้องอยู่อยากอดๆ อยากๆ
ที่มา kapook.com