Author Topic: ควอลคอมม์เชื่อคนไทยหันใช้ 3G เพิ่มปีหน้า  (Read 905 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46027
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


จอห์น สเตฟาแนค

      ควอลคอมม์ ฟันธง 12 เดือนข้างหน้า แนวโน้มคนไทยซื้อมือถือ 3G มากกว่า 2G หลังราคาอุปกรณ์ 3G ปรับตัวลง โดยร่วมมือกับโลคอลแบรนด์ในประเทศหนุน เผยตลาด 3G ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โตแบบเหลือเชื่อ พุ่งกว่า 4 เท่าภายใน 5 ปี เตรียมขยายตลาดสแนปดากอนลงตลาดแท็บแล็ตและโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์เพิ่ม หลังเป็นเจ้าสมาร์ทโฟน
       
       นายจอห์น สเตฟาแนค ประธานบริษัท ควอลคอมม์ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก กล่าวถึงแนวโน้มตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ในประเทศไทยผ่านเว็บแคมว่า เป็นแนวโน้มที่ดีที่ประเทศไทยจะมีใบอนุญาตคลื่นความถี่ 2.1 กิ๊กะเฮิตรซ์ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทยจะมีประสบการณ์เหมือนกับประเทศอื่นที่เปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G กันแล้ว
       
       “เชื่อว่า ในเวลา 12 เดือนข้างหน้า อัตราการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2G จะเริ่มน้อยลง โดยจะหันมาใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G เพิ่มขึ้น”
       
       ที่ผ่านมาทางควอลคอมม์ได้มีการเข้าไปพูดคุยกับหน่วยงานอย่างคณะกรรมการกิจการการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G มากขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังได้ทำงานร่วมมือกลุ่มโรงงงานผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศจีนและไต้หวัน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่โลคอลแบรนด์ในแถบประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิกได้เป็นอย่างดี เนื่องจากชิปเซต “สแน็ปดากอน” เป็นชิปเซตสามารถบรรจุเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชันหน่วยประมวลผลข้อมูลหรือซีพียู จีพีเอส หน่วยความจำ โมเด็ม มัลติมีเดีย ฯลฯ เข้าไว้ภายในชิปตัวเดียว ซึ่งทำชิปเซตมีขนาดที่เล็กลงได้ถึง 10-20% ประหยัดพลังงานได้ถึง 35% รวมไปถึงประหยัดต้นทุนได้ถึง 10-20%
       
       “ในประเทศไทยทางควอลคอมม์ได้มีการทำงานร่วมกับโลคอลแบรนด์ไม่ว่าจะเป็นเวลคอม จีเน็ท และไอโมบาย”
       
       นายจอห์น กล่าวอีกว่า จากการที่ทางควอลคอมม์มีความร่วมมือกับทางโรงงานผู้ผลิตรายใหญ่ดังกล่าว ทำให้โลคอลแบรนด์ในแต่ละประเทศสามารถมีศักยภาพในพัฒนาโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ในราคาที่ผู้ใช้งานในแต่ละประเทศสามารถซื้อหาได้ในราคาที่ถูกกว่า
       
       ที่สำคัญ จากการที่ในภูมิภาคนี้มีการใช้งานคลื่นความถี่ในการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จำนวนมาก จึงมีความเป็นจำเป็นที่หน่วยงานที่กำกับดูแลการใช้คลื่นความถี่ดังกล่าวจำเป็นต้องบริหารการใช้คลื่นความถี่ให้เหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งนั่นหมายถึงการเอื้อก่อให้เกิดความคุ้มค่าในทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ราคาของเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่มีราคาที่ถูกลง
       
       นายจอห์น กล่าวว่า เวลานี้มีผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วโลกอยู่ถึง 5.7 พันล้านเครื่อง ซึ่งถือเป็นแพลตฟอร์มที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สำหรับแพลตฟอร์มที่มนุษย์สร้างขึ้นมา และประมาณ 80% ของงผู้ใช้มือถือมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โดยมีการประเมินว่า อัตราการเติบโตของโทรศัพท์เคลื่อนที่ในช่วง 5 ปีข้างหน้าจะเติบโตถึง 30% เนื่องจากว่า โทรศัพท์เคลื่อนมีประสิทธิภาพในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้นั้นเอง
       
       ปัจจัยหนุนที่ทำให้โลกการสื่อสารไร้สายเติบโต มีด้วยกัน 3 เรื่อง หนึ่ง ดีไวซ์ ที่ตอบโจกย์การใช้งานตั้งแต่สมาร์ทโฟนจนถึงโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ สอง ความพร้อมของแอปพลิเคชัน และสาม เรื่องของเครือข่ายให้บริการที่จะต้องครอบคลุมพื้นที่การใช้งาน
       
       จากการที่ทางคอลลคอมม์เป็นมีสิทธิบัตรในนวัตกรรมต่างๆ เป็นของตนเองจำนวนมากทำให้ควอลคอมม์สามารถผลิตชิปเซต “สแนปดากอน” ให้ตอบสนองกับความต้องของตลาดได้หลายหลาย โดยมีให้เลือก 4 ซิสเต็มส์ ประกอบไปด้วย เอส1 เป็นซิสเต็มส์ที่ออกแบบมาสำหรับตลาดสมาร์ทโฟนในระดับแมส เอส2 เป็นซิสเต็มส์สำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เอส3 สำหรับตลาดที่ต้องการใช้งานแบบมัลติทาสกิ้งและกลุ่มตลาดเกม และเอส4 สำหรับตลาดอุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ ในอนาคต
       
       ปัจจุบัน สแนปดากอนถือเป็นผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฎิบัติการแอนดอยด์ โดยมีกว่า 225 โมเดล มากกว่า 30 บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่เลือกใช้ชิปเซตของควอลคอมม์ในตลาดปัจจุบัน
       
       ”ตลาดแท็บแล็ตและโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์เป็นอีกตลาดหนึ่งที่มีศักยภาพสูงโดยคาดว่าจะมีการขายเข้าไปในตลาดในอีก 4 ข้างหน้ามีมากกว่า 600 ล้านเครื่อง ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่ควอลคอมม์จะใช้สแนปดากอนบุกเข้าไปในตลาดังกล่าว” โดยเฉพาะในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือตลาดเกิดใหม่ที่คาดว่าภายในปี 2558 จะมีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ 3G ประมาณ 1.4 พันล้านเครื่อง”
       
       สาเหตุที่ควอลคอมม์มองตลาดดังกล่าว เนื่องจากเป็นตลาดดังกล่าวจะมีความต้องการชิปเซตที่รองรับการใช้งานแบบเคลื่อนที่มากขึ้น จึงทำให้มีความต้องการชิปเซตที่รองรับการใช้งานดังกล่าวได้
       
       “ทางควอลคอมม์ไม่ได้มองแค่สภาพแวดล้อมใดสภาพแวดล้อมหนึ่งเท่านั้น แต่มองในลักษณะ End to End มากกว่า”
       
       Company Relate Link :
       Qualcomm

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)