HP Deskjet Ink Advantage
HP ENVY e-All-in-One
HP LaserJet
HP Designjet T series
เอชพี ก้าวผ่านน้ำท่วม เชื่อตลาดธุรกิจการพิมพ์ยังเติบโตได้อีกมากในปีหน้า ชูปัจจัยการเปลี่ยนแปลงจากอนาล็อกไปสู่การพิมพ์บนโลกดิจิตอล หวังแพลตฟอร์ม e-Print ช่วยรับตลาดคลาวด์ที่กำลังได้รับความนิยม คาดปีหน้าเติบโตมากกว่า 10%
นายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจภาพและการพิมพ์ บริษัท ฮิวแลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจการพิมพ์ว่า ยังมีการเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากคอนเทนต์ที่มีมากขึ้นจากเดิม 10 เท่า ในช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น ถ้าคอนเทนต์โต การพิมพ์ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
"อัตราการเติบโตของ เอชพี ในปีนี้เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นส่วนผลิตภัณฑ์ อิงค์ แอดเวนเทจน์ 32% เลเซอร์ ออล อิน วัน 67% เมเนจน์ พรินท์ เซอร์วิส 44% และ กราฟิกโซลูชัน 23% และคาดว่าในสิ้นปีหน้าก็จะสามารถรักษาอัตราการเติบโตที่ตัวเลข 2 หลักเช่นเดิม"
โดยแบ่งปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจภาพและการพิมพ์เติบโตคือการเข้ามาของอุปกรณ์โมบิลิตี ไม่ว่าจะเป็นโน้ตบุ๊ก พีซี แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน ที่คาดว่าจะมีสัดส่วนของสินค้าไอทีถึง 60% และมีความต้องการในการพิมพ์มากกว่า ฟิกซ์ดีไวส์ถึง 2 เท่า
"ข้อมูลล่าสุดของไอดีซีระบุว่าในประเทศไทยมียอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนในปีนี้ราว 3.5 ล้านเครื่อง จากยอดดังกล่าวจึงเชื่อว่ายังมีผู้บริโภคจำนวนมากที่ต้องการเครื่องพิมพ์ที่สามารถสั่งพิมพ์จากสมาร์ทโฟนได้ทันที"
ส่วนการผลัดเปลี่ยนระบบการพิมพ์จากระบบอนาล็อก เนื่องจากในปัจจุบันงานพิมพ์ส่วนใหญ่ยังใช้แบบอนาล็อกอยู่ เมื่อมีการก้าวข้ามสู่การใช้งานพิมพ์ดิจิตอลก็จะเป็นปัจจัยหนุนให้ตลาดเครื่องพิมพ์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายคือเทรนด์ของคลาวด์ ที่ทางเอชพีจะเน้นการพัฒนา e-Print ไปเรื่อยๆ ทั้งพับบลิคคลาวด์ ไพรเวทคลาวด์
"เอชพีเชื่อว่าภายในสิ้นปี 2012 จะมีเครื่องพิมพ์ที่รองรับการทำงานผ่านคลาวด์ 50 ล้านเครื่อง จาก 10 ล้านเครื่องในปี 2010 ซึ่งจะส่งผลให้รูปแบบการให้บริการมีมากขึ้น เพราะนักพัฒนาสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันให้เหมาะสมกับการใช้งานที่หลากหลายได้"
นอกจากนี้ยังมีการทำตลาดในรูปแบบของ Pay Per Click ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ กราฟิกพรินเตอร์ ช่วยให้ลูกค้าองค์กรขนาดกลางและเล็ก ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่อง มาเป็นในรูปแบบการเช่า และคิดตามจำนวนการพิมพ์แทน
ส่วนในแง่ของผลกระทบจากน้ำท่วม นั้นบริษัทแม่ในต่างประเทศเข้าใจถึงสถานการณ์ และเนื่องจากเป็นช่วงปิดปีงบประมาณของกลุ่มธุรกิจภาพและการพิมพ์ ในช่วงสิ้นเดือนตุลาคม ทำให้เอชพีไม่ได้รับผลกระทบมาก เพราะบริเวณที่เสียหายหลักๆจะอยู่ในภาคกลาง
นายกฤษณ์ กิตติทัตต์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย กลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์ กลุ่มธุรกิจภาพและการพิมพ์ ให้ข้อมูลว่า ช่วงที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วม จะได้รับผลกระทบตกลงบ้างในส่วนของภาคกลาง แต่ในภาคอื่นๆทั้ง เหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และใต้ ยังขายได้เรื่อยๆ เชื่อว่าหลังจากช่วยน้ำท่วมเมื่อมีการเปิดภาคเรียน ความต้องการของตลาดก็จะกลับมาอีกครั้ง
"อุทกภัยที่เกิดขึ้น ทางเอชพีต้องก้าวข้ามไป ไม่ใช่มองว่าจะกระทบกับยอดขายแน่นอน ทำให้ต้องมีการเพิ่มพนักงานในตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น และโฟกัสไปยังตลาดที่มีสิทธิจะโตได้" นายวัตสัน กล่าวเสริม
Company Relate Link :
HP
ที่มา: manager.co.th