Author Topic: เกร็ดความรู้ที่ดีต่อชีวิต  (Read 2367 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline IT

  • V.I.P.
  • Gold Member
  • *
  • Posts: 1175
  • Karma: +6/-0
  • Gender: Male
  • Assist. I.T. Manager
    • mv

เกร็ดความรู้ที่ดีต่อชีวิต เมื่อวานดูข่าวช่อง 3   มีข่าวนึงที่ทำให้ต้องหันมาตระหนักถึงบางอย่างใกล้ตัว

1. เรื่องขวดน้ำพลาสติกที่บรรจุน้ำดื่มที่ขาย ๆ กันตามห้างสรรพสินค้าเซเว่นอีเลฟเว่น  รวมทั้งที่ไปเติมน้ำมันครบ 800 แถมน้ำ 1 ขวด อะไรทำนองนั้น 
ปัจจุบันเพิ่งมีคนตายเพราะการนำขวดพลาสติกดังกล่าวไปบรรจุน้ำดื่มครั้งแล้วครั้งเล่า   โดยสารพิษชนิดหนึ่ง   สามารถละลายออกมาปะปนกับน้ำดื่ม   เนื่องจากขวดประเภทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ครั้งเดียว   อายุการใช้งานสั้น ๆ เท่านั้น  ดังนั้นจึงไม่สมควรเสียดาย   นำมาบรรจุน้ำดื่มอีก   
รวมทั้งน้ำที่มากับขวด   หากแม้ว่าเปิดกินไม่หมดแล้วเก็บไว้ในรถยนต์   ซึ่งรถดังกล่าวอาจจอดที่ ๆ ร้อน ๆ ความร้อนก็มีผลกับสารพิษที่มากับขวดได้ ดังนั้นเมื่อเปิดดื่มแล้ว ควรดื่มให้หมดภายในระยะเวลา 1  สัปดาห์ โดยเฉพาะหากเก็บขวดนั้นไว้ที่ร้อน ๆ ถ้าเก็บที่อุณหภูมิห้องจะปลอดภัยกว่า

2. ม่านพลาสติกที่แขวนในห้องน้ำเพื่อกั้นพื้นที่แห้งกับเปียก 
 มีข่าวแจ้งมาว่ามีนักจุลววิทยาคนนึงในต่างประเทศ   เค้าสังเกตว่าที่ม่านพลาสติกมีคราบดำ   ๆ   ทีแรกเค้าคิดว่าเป็นคราบสบู่   เค้าลองขูดแล้วเอาไปส่องกล้อง   ปรากฏว่าคราบดำ ๆ ดังกล่าวเป็นแบตทีเรียชนิดร้ายแรง   ที่เติบโตโดยอาศัย   การผายลม   การเลอ   การไอ   จาม   ของมนุษย์เรานี่แหละ   เป็นอาหารอย่างดีของมัน   เค้าแนะนำว่า เราควรถอดไปซัก   อาทิตย์ละครั้ง   หรือ   เดือนละ  2 ครั้งก็ได้   หรือถ้าไม่มีเวลาก็เดือนละครั้งก็ยังดี   นอกจากนี้เค้าเตือนว่า   อะไรที่เป็นพลาสติกก็เข้าข่ายเหมียนกัลลลล....ล
โดยเจ้าเชื้อโรคเนี่ยมันจะเข้ามาทำอันตรายเราก็ต่อเมื่อ   เราป่วย   มีบาดแผล   คนแก่   คนที่ผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ แล้วต้องกินยากดภูมิคุ้มกัน   

3. เรื่องคนนอนดึก
เราควรพักผ่อนเข้านอนเวลา  3   ทุ่ม   เนื่องจากร่างกายเราต้องการเวลาในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ   ขับของเสียตามอวัยวะต่าง ๆ   ย่อยอาหารให้หมด   ถ้ากินมื้อหนักตอนกลางคืน แถมนอนดึกอีก   รับรองว่าอ้วนพุงพุ้ย แน่นอน   ไขมันเผาผลาญไม่หมดมันเลยสะสมอ่ะ   ?ต่ถ้านอนดึกเลี่ยงไม่ได้   เพราะขนงานมาทำ   หรือติดงานอะไรก็ตาม   ควรปฏิบัติดังนี้
3.1 งดเนื้อสัตว์   เช่น   เนื้อวัว   เนื้อหมู   ไก่   เพราะย่อยยาก ลำไส้ต้องทำงานหนัก   
3.2   หากเราอยากกินเนื้อสัตว์   ก็ควรช่วยลำไส้ด้วยการเคี้ยวให้ละเอียด   ยิ่งเคี้ยวละเอียด   ยิ่งดี จะได้แบ่งเบาภาระลำไส้   
3.3   ดื่มน้ำขิง ผสม น้ำผึ้ง อุ่น ๆ   หรือ   น้ำอุ่นธรรมดา + น้ำผึ้ง   หรือถ้าไม่มีอะไรเลย   น้ำอุ่นธรรมดา สัก  1 แก้วก็ได้ เหมียน   กัลลล...ล   
3.4   เวลานอน   ควรทำให้ช่วงท้อง  /   ฝ่าเท้าอุ่น   โดยการห่มผ้า
3.5   ที่จริงมื้อดึก   ควรเป็นมื้อเบา ๆ อย่างเช่น   ผัก   ผลไม้   นม   ไข่   เนื้อปลา   จะดีกว่า
3.6 ควรเลี่ยงน้ำเย็น   น้ำอัดลม   เพราะเพิ่มภาระให้ระบบภายในร่างกาย   ร่างกายเราต้องความร้อนเพราะช่วยในการย่อยอาหาร   หากดื่มแต่น้ำเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังมื้ออาหาร   จะทำให้ร่างกายเราต้องพยายามปรับอุณหภูมิ   ให้อุ่นเหมาะสมก่อน   แล้วจึงนำไปใช้   การดื่มน้ำอัดลมก็ไม่มีประโยชน์อะไร   เพิ่มกรดให้ร่างกาย   แถมมีน้ำตาลที่สะสมตามร่างกายอีก

**** ถ้าอยากกินเนื้อสัตว์   ควรกินเวลา   7.00 น - 9.00   น. เนื่องจากกะเพาะเรามีสภาพเป็นกรดสูงมากที่สุด   ดังนั้นมื้อเช้าจะจำเป็นมาก ๆ ถ้าอดมื้อเช้าไปนาน ๆ ขั้วกระเพาะเราจะเป็นปุ่มปม   และนานเข้า ๆ ก็กลายเป็นมะเร็งในกระเพาะ

อย่าลืมดื่มน้ำให้ได้วันละ  8 แก้วนะ   น้ำสะอาดจะช่วยล้างของเสียออกจากร่างกาย   อย่าขี้เกียจลุกไปห้องน้ำเด็ดขาด

ห้ามอดหลับอดนอนตั้งแต่ตีหนึ่งเด็ดขาด   เนื่องจากถุงน้ำดีกำลังย่อยไขมัน  ถ้าอดนอนเวลานี้บ่อย ๆ จะเป็นนิ่วในถุงน้ำดี

ห้ามกินนมตอนเช้า แทนข้าวเช้า   เนื่องจากตอนเช้ากระเพาะเป็นกรดสูงมาก
นึกสภาพดู หากเราบีบน้ำมะนาวลงในนม  จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมี กลายเป็นคอลลอยด์ มันไม่ย่อยนะจ๊ะ

ถ้าดื่มนมตอนท้องว่างแบบนี้ติดต่อกันเป็นประจำแทนข้าวเช้า   ระวังมะเร็งในไขกระดูกนะจ๊ะ
แต่ถ้าเป็นช่วงหลังอาหารเช้า  หรือ ตอนบ่ายไปแล้ว   หรือตอนเย็นดื่มได้ตามปกติจ้า   มื้อเย็นอาจเป็นมื้อง่าย ๆ อย่างนมกับไข่ก็ไม่ว่ากัน

ถั่วต่าง ๆ รวมทั้งธัญพืชสารพัดอย่าง เช่น ลูกเดือย   ข้าวฟ่าง   ฯลฯ   มีประโยชน์ต่อลำไส้
คือ ช่วยกวาดเชื้อโรค   +   แบตทีเรียชนิดไม่ดี ออกจากลำไส้  ควรกินอาทิตย์ละครั้ง  อย่างน้อย

พืชผักสีเขียว มีคลอโรฟิล ช่วยทำให้เม็ดเลือดลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดี
เซลแต่ละเซลล์จะแข็งแรงเมื่อมีออกซิเจนไปหล่อเลี้ยง
ก่อนเอาผักมากิน  เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสารพิษ อย่าลืมแช่น้ำส้มสายชู  45 นาทีนะจ๊ะ


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)