Author Topic: 'อนุดิษฐ์' เดินหน้าบี้ กสท / ทีโอที  (Read 939 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


บอร์ดกสท ประชุมเครียด หลังรมว.ไอซีทีสั่งลดการลงทุนซ้ำซ้อนกับทีโอที แต่มั่นใจประมูล FTTX 1,200 ล้านเฟสแรกได้ในไตรมาส 2 ปีหน้า พร้อมทำรายละเอียดขายคืนโครงข่ายมือถือส่งรมว.ไอซีทีพิจารณา ส่วนการแก้ไขสัญญาบริการมือถือรูปแบบแหวกแนวของกลุ่มทรูคาดส่งกสทช.ภายใน 9 ธ.ค.นี้ 'อนุดิษฐ์' ยังฝันดัน 2 องค์กรเข้าตลาดฯ
       
       นายวิโรจน์ โตเจริญวาณิช รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม กล่าวหลังประชุมบอร์ดกสทว่ามีวาระเร่งด่วนพิจารณาในเรื่องที่รมว.ไอซีทีได้มอบนโยบายให้กับหน่วยงานเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา ในประเด็นการลดความซ้ำซ้อนในการลงทุนของกสท กับ บริษัท ทีโอที ที่เห็นได้ชัดคือการลงทุน 3G ที่ต้องมีการตั้งเสาส่งสัญญาณเหมือนกัน และการให้บริการบรอดแบนด์ ที่ลงทุนเหมือนกันแต่ต่างกันที่เทคโนโลยีโดยกสทเลือกระบบ FTTX ขณะที่ทีโอทีเลือกใช้ NGN ซึ่งล่าสุดทั้ง 2 องค์กรได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลในเรื่องดังกล่าวโดยเฉพาะ
       
       ในอดีตบอร์ดกสทได้อนุมัติงบประมาณโครงการ FTTX จำนวน 6,000 ล้านบาท แต่มาในสมัย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เป็นรมว.ไอซีที ครม.ปรับเปลี่ยนแบ่งงบลงทุนออกเป็น 2 ระยะ โดยระยะแรก 1,200 ล้านบาท และคาดว่าในไตรมาส 2 ปี 2555 จะสามารถเปิดประมูลได้
       
       นอกจากนี้ รมว.ไอซีที ยังได้ถามความคืบหน้าเรื่องแผนการขายคืนเครื่องและอุปกรณ์โทรคมนาคมให้แก่บริษัท ทรูมูฟ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งได้มอบหมายให้บอร์ดไปทำรายละเอียดเพิ่มเติมว่า เหตุใดกสทจึงจำเป็นต้องขายสินทรัพย์ดังกล่าวคืนไปให้แก่ทรู และหากเก็บไว้เองจะทำประโยชน์ หรือหารายได้ในอนาคตได้มากกว่าหรือไม่ โดยให้ส่งแผนกลับมาภายในสัปดาห์หน้า และหากรมว.ไอซีทีเห็นชอบแล้ว กสทจึงจะสามารถบรรจุเข้าในวาระการประชุมบอร์ดครั้งหน้าวันที่ 14 ธ.ค.นี้ ก่อนที่จะเสนอกลับไปยังไอซีที เพื่อให้นำเรื่องเข้าครม.ต่อไป
       
       ที่ประชุมยังได้รายงานความคืบหน้าเรื่อง 3G ภายใต้แบรนด์ “My” ของกสท จากเดิมที่มีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา แต่ต้องเลื่อนออกไปเป็นเดือนม.ค. 2555 เนื่องจากติดปัญหาอุทกภัย ด้วยจำนวน 700 สถานีฐานจากที่มีอยู่ 3,000 สถานีฐานทั่วกทม. โดยในตอนแรกตั้งเป้าภายในสิ้นปี 2554 จะมีถึง 5,000 สถานีฐาน
       
       “ในช่วงแรกเราจะเปิดให้บริการเฉพาะแบบรายเดือน (โพสต์เพด) ก่อนเช่นเดียวกับทรูมูฟเอช ส่วนแบบเติมเงิน(พรีเพด) กสท ยังไม่พร้อมที่จะให้บริการในตอนนี้ แต่คาดว่าจะสามารถเปิดได้ในช่วงเดือน เม.ย.55 ขณะที่ทรูมูฟเอชจะเปิดประมาณเดือน ก.พ. ถึง มี.ค. ปี 55 โดยปัจจุบันกสทมีลูกค้า 3G ทั้งหมดประมาณ 1,000 ราย และตั้งเป้าสิ้นปีนี้ 40,000 ราย โดยส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานภายในกสทเอง ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทเคยตั้งเป้าไว้ว่าในปี 55 จะมีลูกค้าถึง 6 แสนคน”
       
       บอร์ดยังได้มีการพิจารณาการวางโครงข่าย 3G ร่วมกับทีโอที โดยหากในพื้นที่ที่ทีโอทีจะเปิดให้บริการ 3G บนย่านความถี่ 1900 เมกะเฮิรตซ์ ก็จะมีการเช่าใช้โครงข่ายระหว่างกัน หรือใช้โครงข่ายร่วม (โค-ไซต์)
       
       ส่วนกรณีมติบอร์ดรักษาการกสทช.เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา ให้ กสทกลับไปแก้ไขสัญญาการให้บริการ 3G HSPA กับ กลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่นโดยให้เวลา 30 วันนั้น ล่าสุด กสท ได้ยื่นขอยืดเวลาออกไปอีก 30 วันซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 9 ธ.ค. ที่จะถึงนี้ที่จะต้องจัดส่งสัญญาที่ได้รับการแก้ไขกลับไปยังกสทช.
       
       “ในตอนนี้เราได้หารือกับทรูไปแล้วโดยทรูได้ติดใจประเด็นการที่จะต้องกลับมาแก้ไขสัญญาดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าไม่มีอะไรที่ไม่ถูกต้อง แต่ถึงอย่างไรภายในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ เราจะต้องส่งเรื่องกลับไปยังกสทช.อยู่ดี ถึงแม้ว่าจะยังไม่รู้ว่าบทสรุปจะตอบกลับไปแบบไหน ซึ่งไม่สามารถบอกได้ในตอนนี้”
       
       ทั้งนี้ในการมอบนโยบายให้บอร์ด ทีโอที และ กสท นั้น รมว.ไอซีทีได้หารือถึงการปรับโครงสร้างองค์กรของทีโอทีและกสท เพื่อความอยู่รอด ทั้งนี้ เป็นผลจากมาตรา 87 ของพ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 ที่กำหนดไว้ว่าให้ทีโอทีและกสทต้องนำรายได้จากสัญญาสัมปทานส่งเป็นรายได้แผ่นดิน หลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้ว 3 ปี เพราะฉะนั้นนับตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป ทั้งทีโอที และกสทจะไม่มีรายได้จากสัญญาสัมปทานโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะทำให้ประสบปัญหาทางการเงินทันที
       
       โดยรมว.ไอซีทีมอบหมายให้ทั้ง 2 บอร์ด ไปพิจารณาปรับโครงสร้างองค์กร และโครงสร้างธุรกิจ พร้อมกับให้แนวความคิดการขายคืนอุปกรณ์ 2G ให้กับผู้รับสัมปทานโทรศัพท์มือถือ เพื่อนำเงินที่ได้จากการขายคืนมาเป็นเงินทุนในการขยายการลงทุนเพื่อสร้างรายได้ให้กับทีโอที และกสทในอนาคต รวมถึงแผนการกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วย โดยให้เสนอรูปการศึกษาความเป็นไปได้ทั้งหมดกลับมายังกระทรวงไอซีทีภายในเดือนธ.ค.นี้
       
       Company Related Link :
       ICT

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)