Author Topic: “พระแต๊งค์” จิตอาสาช่วยทางโลก เผยยังไม่อยากสึกขอเรียนรู้ธรรมะไปเรื่อยๆ  (Read 992 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


“พระแต๊งค์” จิตอาสาช่วยทางโลก เผยบวชได้ 11 เดือนแล้วยังสบายดีตอบไม่ได้จะบวชไปอีกนานแค่ไหน แต่อยากจะบวชไปเรื่อยๆ เพราะยังไม่รู้สึกร้อนและยังปฏิบัติตามกฏสงฆ์เคร่งครัด
       
       หลังจากที่อดีตดาราวัยรุ่น “แต๊งค์ พงศกร มหาเปารยะ” หรือ “พระพุทธิญาโณ” ได้เข้าพิธีอุปสมบทไปเมื่อต้นปี 2554 ณวัดยานนาวา กรุงเทพมหานคร กระทั่งปัจจุบันผ่านมา 11 เดือนแล้วแต่พระแต๊งค์ยังซาบซึ้งในรสพระธรรมไม่ยอมสึก ล่าสุดพระแต๊งค์ก็เดินทางมาที่ศูนย์อพยพสัตว์เลี้ยงของผู้ประสบภัยน้ำท่วม การประปาแม้นศรี ซึ่ง “เจ วรกร จาติกวณิช” โยมแม่เป็นผู้ดูแลศูนย์ ก็ได้เปิดเผยถึงชีวิตชายคาผ้าเหลืองว่า......
       
       “วันนี้ได้มาทำกิจกรรมช่วยโยมแม่ จริงๆ เราได้ข่าวมาว่าที่ประปาแม้นศรีได้จัดตั้งเป็นศูนย์อพยพสำหรับสัตว์เลี้ยงคือเราอาศัยสถานที่ของเขาและก็ถึงเวลาต้องคืนสถานที่เลยต้องมาช่วยกันทำความสะอาด อาตมามีโอกาสเลยมาช่วยโยมแม่ด้วยมีน้องๆ จิตอาสามาช่วยกันเราก็อยากมาให้กำลังใจ ในช่วงที่ผ่านมาอาตมาก็ลงพื้นที่ไปช่วยผู้ประสบภัยบ้าง คนกรุงเทพก็ช่วยกันเยอะ อย่างอาตมาเป็นพระก็มีโอกาสช่วยเหลือผู้อื่นเยอะหน่อยก็ได้ไปกับโยมพ่อโยมแม่ หรือทางวัดด้วยเพื่อนๆ นิมนต์ไปก็ไป”
       
       “ถามว่าได้นำธรรมะไปช่วยเหลือประชาชนไหม จะบอกว่าเรื่องธรรมะเป็นเรื่องที่ผ่านตัวเราอยู่แล้วอยู่ที่คนรับเขาจะรับหรือเปล่า บางทีไปพูดตอนนี้เขาก็ไม่ฟังเพราะเดือดร้อนกันอยู่ ถึงจะเดือดร้อนยังไงก็อยากจะให้รักษาชีวิตก่อนต้องรักษาสุขภาพตัวเอง”
       
       หลังจากนั้นพระแต๊งค์ ได้เปิดใจถึงชีวิตในชายผ้าเหลืองหลังจากบวชมา11 เดือน เผยตราบใดที่ยังปฏิบัติตามกิจของสงฆ์ก็ไม่มีใครจะไล่ให้ไปไหนได้
       “อาตมาบวชมาตั้งแต่เดือนมกราคมใกล้จะครบปีแล้ว อาตมาตั้งใจจะบวชไปเรื่อยๆ เท่าที่ทำได้ มันไม่มีกฏข้อบังคับอะไรที่เราจะบอกได้ว่าจะอยู่ได้เท่านี้ๆ ตราบใดที่เรายังอยู่ในศีลของพระสงฆ์ ยังออกปฏิบัติตามกิจของสงฆ์ครบประจำทุกวันก็ไม่มีใครไล่เราไปไหนได้ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ถ้าอยู่แล้วไม่ร้อนก็อยู่ไป”
       
       “แต่อะไรมันก็ไม่แน่ไม่นอน คนเราพูดไปเดี๋ยวก็เปลี่ยนหลายคนถามเราเมื่อไหร่จะสึกเราก็ไมรู้ อย่างบางคนบอกจะไม่สึกสุดท้ายก็สึก หรือบางคนบอกไม่รู้แต่ว่าก็บวชไปตลอดชีวิตก็มี จะบอกว่าคนในวงการมาบวชนานๆ แบบนี้มันน้อย เราเห็นโลกมามากกว่าพระสงฆ์ที่บวชมาตั้งแต่เด็ก อีกทางเราก็ได้มาเรียนรู้มากกว่าญาติโยมกว่าเพื่อนๆ ใจจริงเราอยากกลับไปสอนหลายๆ อย่างให้กับเพื่อนๆ หรือว่าโยมที่เป็นสหายเก่าๆ แต่เราก็ยังใหม่อยู่ อีกอย่างเพื่อนๆ ก็ยังเต็มที่กับชีวิต เรื่องของธรรมะเรื่องของใจของใครก็ของมัน ก็ต้องดูแลกันเอง”
       
       “วงการบันเทิงเป็นวงการที่สร้างเงินเยอะมีงานเยอะ นักข่าวดาราโฆษณา คือมันมีธุรกิจอยู่เยอะมาก เรื่องของธรรมะก็จำเป็นไม่ว่าจะวงการไหนก็ตามทั้งการเมือง บันเทิง แต่ธรรมะยังเข้าไม่ถึงปัจจัยคนที่เข้าไปแสวงหาผลประโยชน์”
       
       “ถามว่าเราละทางโลกได้แล้วใช่ไหม ปีนึงที่ผ่านมาเราก็นุ่งแต่ผ้าจีวรฉันท์วันละมื้อทีวีก็พอได้ดูบ้าง รับข่าวสารบ้างอะไรบ้างมันก็สบายดีในระดับหนึ่ง ถามว่าคิดถึงโลกภายนอกไหมก็คิดถึง บางอารมณ์ก็คิดถึงแต่ก็ไม่ถึงจะต้องกลับไป บางทีก็เหงาอยากเจอเพื่อนแต่ก็ไปไม่ได้ก็อยากให้เพื่อนมาวัด เพื่อนก็มาบ้างไม่มาบ้างบอกเดี๋ยวเจอกัน จน 7 เดือนแล้วก็ยังไม่เห็นยังไม่มาเลย ตอนนี้เราได้เรียนนักธรรมได้พรรษาหนึ่งแล้วพระที่เข้าจำพรรษาในช่วงเข้าพรรษาก็ต้องเรียนหนังสือ มีเรียนนักธรรมตรี โทและเอกก็ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าได้เรียนก็เรียนไป ตอนนี้อาตมาก็ใช้ชีวิตตามกฎของสงฆ์มี 10 อย่าง ตื่นมาบิณฑบาตทำวัตรเช้าเย็น กวาดลานวัดทำความสะอาดรอบๆ กุฎิ ทั่วไป”


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)