Author Topic: มือถือ Facebook : ใครจะซื้อ?  (Read 1170 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

มือถือ Facebook : ใครจะซื้อ?
« on: November 26, 2011, 10:28:54 AM »

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46027
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


โทรศัพท์มือถือพร้อมปุ่ม Facebook ที่เริ่มทำตลาดในขณะนี้แล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ล่าสุด สื่อต่างประเทศกำลังวิจารณ์ข่าวลือเรื่องเฟซบุ๊กกำลังพัฒนาโทรศัพท์มือถือแบรนด์ตัวเอง ว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะล้มเหลวซ้ำรอย

สำนักข่าวต่างประเทศวิจารณ์กันยกใหญ่กรณีเฟซบุ๊ก (Facebook) ถูกรายงานว่ากำลังอยู่ระหว่างการร่วมมือกับบริษัทเอชทีซี (HTC) สร้างโทรศัพท์มือถือแบรนด์เฟซบุ๊กพร้อมกับผนวกนานาบริการเครือข่ายสังคมลงไป โดยสื่อใหญ่อย่างซีเน็ตจวกว่า หากเฟซบุ๊กฉลาดพอก็ควรจะ"พับ"โปรเจ็กต์นี้ขึ้นหิ้งโดยเร็วที่สุด
       
       ข่าวลือเรื่องเฟซบุ๊กสนใจสร้างโทรศัพท์มือถือนั้นเกิดขึ้นมานานตั้งแต่ปี 2009 ทุกครั้งจะมีชื่อเอชทีซี (HTC) ในฐานะพันธมิตรผู้ร่วมผลิต แต่ครั้งนี้ เฟซบุ๊กตกเป็นข่าวในเว็บไซต์ AllThingsD ว่าได้ตั้งชื่อโทรศัพท์มือถือของตัวเองอย่างไม่เป็นทางการว่า Buffy ย่อมาจาก Buffy the Vampire Slayer ซีรีส์ทีวีชื่อดังในสหรัฐฯซึ่งเชื่อกันว่าชื่อนี้ถูกเลือกเพราะ Slayer นั้นพ้องกับ "social layer"
       
       Roger Cheng แห่งสำนักซีเน็ตนั้นมองว่า แนวคิดโทรศัพท์มือถือแบรนด์เฟซบุ๊กนั้นอาจจะฟังดูดี แต่ผู้บริโภคในปัจจุบันนั้นมีอุปกรณ์ที่สามารถจัดการงานได้หลายหลากอยู่แล้ว อุปกรณ์นี้สามารถเข้าถึงบริการหรือเครือข่ายสังคมใดก็ได้โดยที่ไม่ต้องผูกติดแต่เฉพาะค่ายใดค่ายหนึ่ง ที่สำคัญคือมีกลุ่มคนเพียงหยิบมือเท่านั้นที่ใช้งานเฟซบุ๊กบ่อยมากจนต้องซื้ออุปกรณ์เพื่อผูกพ่วงตัวเองกับเครือข่ายสังคมเดียว
       
       ซีเน็ตวิเคราะห์ว่า คนส่วนใหญ่ใช้งานเฟซบุ๊กเมื่อต้องการติดตามความเคลื่อนไหวของเพื่อน, เมื่อต้องการบอกความเป็นไปของตัวเองหรืออัปโหลดภาพสนุกๆ ซึ่งคนกลุ่มนี้ไม่ใช่ลูกค้าที่จะซื้อโทรศัพท์มือถือที่มีเฟซบุ๊กเป็นศูนย์กลางแน่นอน
       
       ที่สำคัญ โทรศัพท์มือถือที่มีเฟซบุ๊กเป็นคุณสมบัติหลักอย่าง HTC Status ซึ่งวางตลาดในสหรัฐฯแล้วก่อนหน้านี้ (หรือ HTC Salsa/ChaCha ในบ้านเรา) นั้นถูกประเมินว่าล้มเหลวไม่เป็นท่าในเมืองลุงแซม โทรศัพท์มือถือรุ่นแรกของโลกที่มี "ปุ่ม Facebook" นั้นไม่ประสบความสำเร็จทั้งที่มีแผนสนับสนุนการตลาดไม่ขาด และถูกทำราคาในระดับที่ไม่สูง (49.99 เหรียญราว 1,500 บาทพร้อมสัญญาใช้บริการเอทีแอนด์ที 2 ปี) เน้นกลุ่มเป้าหมายคือเด็กวัยรุ่นเป็นส่วนใหญ่
       
       อย่างไรก็ตาม รายงานของ AllThingsD ไม่กล่าวถึงความล้มเหลวของโทรศัพท์มือถือที่มี "ปุ่ม Facebook" ระบุเพียงว่าเฟซบุ๊กกำลังถูกกดดันในตลาดอุปกรณ์มือถือ เพราะคู่แข่งรายล่าสุดอย่างกูเกิล กำลังฉายแววผูกรวมเครือข่ายสังคมของตัวเองอย่างกูเกิลพลัส (Google+) เข้ากับอุปกรณ์แอนดรอยด์ หรือแอปเปิล ที่อาจเจรจาจับมือกับทวิตเตอร์ (Twitter) ในอุปกรณ์ iOS โดยระบุว่าเฟซบุ๊กจะหันมาปรับแต่งแอนดรอยด์เวอร์ชันพิเศษที่รวมฟีเจอร์ของเฟซบุ๊กอย่างเต็มรูปแบบ และสามารถเปิดใช้แอปพลิเคชันเทคโนโลยี HTML5 ได้
       
       หากรายงานของ AllThingsD เป็นจริง เฟซบุ๊กที่กำลังเดินตามรอยเท้า Amazon.com ด้วยการปรับแต่งแอนดรอยด์ใหม่จนไม่เหลือเค้าเดิม แล้วนำมาติดตั้งในโทรศัพท์มือถือแบรนด์ตัวเองนั้นกำลังสร้างปัญหาให้ตัวเอง เพราะจุดอ่อนของกลยุทธ์นี้ คือผู้ใช้โทรศัพท์มือถือแบรนด์เฟซบุ๊กจะไม่สามารถเข้าถึงบริการหลักที่ครองใจสาธารณชนชาวกูเกิลได้ เช่น Android Market และ Gmail เป็นต้น นอกเหนือจากว่าเฟซบุ๊กจะยอมสร้างระบบส่งข้อความและอีเมลของตัวเอง ซึ่งอาจจะทำให้ต้นทุนบานปลายและใช้เวลาพัฒนาล่าช้าเกินไป
       
       AllThingsD ระบุว่าโครงการ Buffy นี้ถูกซุ่มทำมากว่า 2 ปี ผู้นำโครงการคือ Bret Taylor ประธานฝ่ายเทคโนโลยีของเฟซบุ๊ก เบื้องต้นคาดว่าโทรศัพท์มือถือแบรนด์เฟซบุ๊กจะต้องใช้เวลาพัฒนาอีกมากกว่า 1 ปีจึงจะออกวางตลาดได้
       
       หากมองข้ามเหตุผลเรื่อง ชาวออนไลน์ส่วนใหญ่"ติด"ใช้บริการอีเมลของ Gmail และนานาบริการของกูเกิลไป สื่อต่างประเทศเชื่อว่าโทรศัพท์มือถือเฟซบุ๊กจะเป็นหนทางที่ทำให้เฟซบุ๊กมีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะที่ผ่านมา เฟซบุ๊กนั้นไม่เคยคิดค่าบริการใช้งานเครือข่ายสังคม หากเฟซบุ๊กอยากจะเก็บค่าบริการขึ้นมาจริง ก็สามารถทำได้ด้วยการแจกฟรีโทรศัพท์มือถือพร้อมสัญญาใช้บริการนาน 2 ปี
       
       แต่ท้ายที่สุดแล้ว ในศึกสมาร์ทโฟนที่มีทั้งกูเกิล แอปเปิล และไมโครซอฟท์ คอยช่วงชิงตำแหน่งแชมป์แพลตฟอร์มสมาร์ทโฟนอยู่อย่างดุเดือดและตลาดเวลา สื่อต่างประเทศเชื่อว่าเฟซบุ๊กและเอชทีซีมีโอกาสน้อยมากในการลืมตาอ้าปาก เพราะแม้เอชทีซีจะเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่มีประวัติยาวนาน เปี่ยมด้วยความสัมพันธ์กับผู้ให้บริการ, ผู้ค้าปลีก, และผู้เล่นรายอื่นในตลาดการสื่อสารไร้สาย แต่ก็ยังมีความเสี่ยงสูงที่โครงการนี้จะไม่สำเร็จเท่าที่ควร
       
       ทุกอย่างจึงย้อนกลับมาคำถามที่ว่า "Facebook Phone : ใครจะซื้อ?"
       
       Company Related Link :
       Facebook

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
2191 Views
Last post February 20, 2009, 12:12:30 PM
by Reporter
0 Replies
1947 Views
Last post September 06, 2010, 10:53:40 PM
by Nick
0 Replies
1523 Views
Last post September 08, 2010, 04:58:02 PM
by Nick
0 Replies
1521 Views
Last post September 23, 2010, 01:38:22 PM
by Nick
0 Replies
1388 Views
Last post October 10, 2010, 03:54:04 PM
by Nick
0 Replies
1335 Views
Last post October 19, 2010, 03:49:30 PM
by Nick
0 Replies
1687 Views
Last post November 04, 2010, 04:57:18 PM
by Nick
0 Replies
14349 Views
Last post December 19, 2010, 11:52:48 PM
by Nick
0 Replies
1774 Views
Last post December 23, 2010, 12:21:20 AM
by Nick
0 Replies
1254 Views
Last post January 31, 2011, 01:23:45 PM
by Nick