“เจ๊ฉอด” เผยเข้าเคลียร์ “กสทช.” แล้ว อีกฝ่ายอ้างเกิดความผิดพลาดในการสื่อสาร แต่ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะออกหัวออกก้อย ย้ำ “กรีนเวฟ” ยังไม่หมดสัญญา โอดไม่ได้รับความเป็นธรรม ตั้งข้อสงสัยอีกฝ่ายมีผลประโยชน์ซ่อนเร้นหรือเปล่า?! พร้อมแย้มถ้ายังเคลียร์กันไม่ได้อาจมีฟ้อง
ยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง สำหรับกรณีสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ออกมาประกาศจะยึดคลื่นความถี่วิทยุ 106.5 เอ็ฟเอ็ม หรือ คลื่นกรีนเวฟ ที่กำลังจะหมดสัญญาสัมปทานในสิ้นปีนี้ ร้อนถึงทางบิ๊กบอสส์เอไทม์ “เจ๊ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา” ต้องออกมายืนยันว่ากรีนเวฟยังไม่หมดสัญญาเพราะทำสัญญาแบบไม่กำหนดวันสิ้นสุดไว้เพื่อรอการจัดทำแผนแม่บทเสร็จสิ้น
ล่าสุดบิ๊กแกรมมี่ “อากู๋ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม” ก็ยังออกตัวแรงเตรียมยื่นฟ้อง กสทช.ในกรณีดังกล่าว ล่าสุดมีโอกาสเจอเจ๊ฉอดในงาน “รวมพลคน Do D เปลี่ยนน้ำเสียให้เป็นน้ำดี” ชวนประชาชนมาปั้นลูกอีเอ็มบอลบำบัดน้ำเสีย โดยเจ้าตัวเผยความคืบหน้าให้ฟังว่า มีโอกาสเข้าไปชี้แจงกับทางประธาน กสทช. ถึงกรณีดังกล่าวแล้ว ซึ่งคู่กรณีอ้างว่าเป็นการผิดพลาดทางการสื่อสาร
“ก็ยังยืนยันคลื่นกรีนเวฟของเรายังไม่หมดสัญญาตามที่มีการพูดถึงกัน เรื่องมันที่เกิดขึ้นเพราะว่า ณ วันนี้เรามีคณะกรรมการ กสทช. ซึ่งมีหน้าที่มาจัดระเบียบต่างๆ สถานีวิทยุ และโทรทัศน์ กับคลื่นกรีนเวฟถูกส่งต่อมา เดิมที่คลื่นกรีนเวฟเป็นคลื่นในสังกัดกรมไปรษณีย์ แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นกทช. แล้วก็เปลี่ยนมาเป็น กสทช. ในกฎหมาย กสทช. ไม่สามารถมีคลื่นวิทยุเป็นของตัวเอง แต่ว่าบังเอิญถูกย้ายมากับกสทช.”
“เราได้มีการทำสัญญากันมาก่อนว่า ให้ทางกรีนเวฟทำรายการต่อไป จนกว่าจะมีแผนแม่บทเกิดขึ้น และก็มีการจัดการเหมือนกันหมดทั่วประเทศ อันนั้นคือตามความเข้าใจที่เราเอง หรือว่าผู้จัดการสถานนีทั้งหมดในประเทศนี้เข้าใจกันว่าอย่างนั้น รวมถึงคณะกรรมการชุดเก่าด้วย”
“อย่างล่าสุดครั้งที่เราหมดสัญญา เลยมีการทำบันทึกขึ้นตกลงกันไว้ว่า ให้เราทำกรีนเวฟไปเรื่อยๆ ไม่ได้ระบุเวลาของการจบ เนื่องจากว่ามีความเข้าใจตรงกันว่า เมื่อแผนแม่บทเสร็จ กรีนเวฟและสถานีอื่นๆ ถูกเอาไปรวมกันแล้วมีการจัดสรรใหม่ แต่ว่าอยู่มาวันหนึ่ง มีการให้ข่าวจาก กสทช. ว่าจะเรียกคลื่นกรีนเวฟคืน ประเด็นที่พูดคือคลื่นหมดสัญญา ก็บอกว่าไม่ได้หมดสัญญา ทีนี้ถามว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เวลาที่จะเอาสถานีคลื่นวิทยุคลื่นทั้งๆ ที่ยังไม่หมดสัญญาคืน เป็นไปได้มั้ย เป็นไปได้ แต่ก็ต้องมีการเรียกเราไปหารือว่าทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เสียประโยชน์ เพราะการเช่าสถานีวิทยุไม่ใช่เช่าบ้านจะได้ย้ายเข้าย้ายออกแล้วไม่มีปัญหา”
“ปัญหาที่เกิดขึ้นมันเกิดจากความผิดพลาดที่ทาง กสทช. บอกว่าจะยึดคลื่น บอกว่าหมดสัญญา ซึ่งตรงนี้มันเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเราในเรื่องของลูกค้าโฆษณาที่เขาเข้ามาถามว่าเมื่อคลื่นหมดสัญญาแล้วคุณมาทำสัญญากับเราทำไม ซึ่งทาง กสทช. บอกว่ามันเป็นการผิดพลาดทางการสื่อสาร แต่เราเสียหายไปแล้ว เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ได้นัดทานข้าวกับลูกค้าและชี้แจงไปแล้ว ยังไงก็ตาม ก็ยังมีการยืนยันว่าหมดสัญญาอยู่ จนวันนี้ไม่ใช่แค่หมดสัญญาแล้ว กลายเป็นว่าหมดสัญญาไปนานแล้ว มันงงๆ มาก”
“เอาเป็นว่าตอนนี้ทางเรากรีนเวฟยังไม่ได้รับการแจ้งอะไรอย่างเป็นทางการ นอกจากดูจากคำสัมภาษณ์ ดูจากทวิตเตอร์ ซึ่งทุกอย่างมันผิดขั้นตอนหมด อย่างแรกเขาต้องเรียกเราเข้าไปหารือ สองต้องมีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่ง ณ วันนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเราเองได้มีการเข้าไปคุยกับท่านประธาน กสทช. เข้าไปเรียนท่านถึงเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งท่านก็บอกว่าเป็นการผิดพลาดในการสื่อสาร และก็รับไว้พิจารณา เราก็ต้องรอต่อไป
ยันคลื่น “กรีนเวฟ” จะยังอยู่ แม้อาจจะต้องผลัดเปลี่ยนไปคลื่นความถี่อื่น ปัดไม่เกี่ยวไม่ยอมรับกติกาแต่รู้สึกได้รับความไม่เป็นธรรมสร้างความสงสัยมีผลประโยชน์อะไรซ่อนเร้นรึเปล่า
”เราได้แต่บอกตัวเองกับข่าวว่าไม่เป็นไร ในสิ่งไม่ดียังมีสิ่งที่ดีอยู่ ในตอนนี้เราได้รู้ว่าคนรักคลื่นกรีนเวฟกันแค่ไหน ทุกคนให้ความสนใจกับคลื่นกรีนเวฟ และเชื่อว่าไม่มีใครอยากให้คลื่นกรีนเวฟหายไป เพราะกรีนเวฟเป็นมากกว่าคลื่นวิทยุ ยอมรับค่ะว่ามันเป็นธุรกิจค่ะ เราก็ต้องทำให้กรีนเวฟประสบความสำเร็จ แต่ที่มากกว่านั้นก็คือเราได้ทำสิ่งที่ดีงามให้กับสังคมมากมาย 21 ปีที่เราทำมา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เชื่อว่ากรีนเวฟก็ยังอยู่ ไม่ว่าจะย้ายไปอยู่ที่ไหนก็เชื่อว่าคนฟังก็ตามไปแน่นอน”
“ทุกวันนี้มีคนพยายามพูดว่าเราไม่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ยอมรับกติกา มีดีเจลุกขึ้นมาโวยวาย ไม่เคารพกติกา เราอยากจะเรียนว่าชีวิตฉอดอยู่กับคลื่นวิทยุมาตลอด ทุกคนเข้าใจดี เราเคยผ่านช่วงที่คลื่นหมดสัญญา ไม่ต่อสัญญา อันนี้เราเจอมาตลอด เราเข้าใจได้ แต่ปัญหาครั้งนี้มันอยู่ที่ว่าผิดขั้นตอนทุกประการ ที่ทำให้เรารู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม”
“เราเองไม่รู้ว่ามันจะมีประโยชน์แฝงเร้นหรือว่าอะไรอย่างที่คนอื่นพูดหรือเปล่า แต่มันน่าสงสัยว่าทำไมมันต้องรวดเร็วขนาดนี้ และสิ่งสำคัญที่สุดอยากให้ดูที่ว่า กสทช. มีสิทธิ์ที่จะเอาคลื่นไปจริงหรือไม่ เอาไปแล้วเขาจะเอาไปทำอะไร เพราะเขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำต่อ จะเอาไปให้เอกชนรายอื่นทำก็ไม่ได้ จะไปจ้างรายอื่นทำก็ไม่ได้ เขาต้องตอบกับสังคมให้ชัดเจน อยู่ๆ มาบอกว่าจะเอาไปทำประโยชน์ ถามว่าทำได้มั้ย ลองถามนักกฎหมายดู”
ส่วนกรณีบิ๊กแกรมมี่ “อากู๋ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม” ออกมาประกาศกร้าวเตรียมยื่นฟ้อง “กสทช.” นั้นบอกเป็นแค่ขั้นตอนที่คุยกัน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจถึงขั้นนั้น
“เรื่องนั้นคิดว่าคงมีคนไปถามนำ แล้วคุณไพบูลย์ก็เลยตอบไป แต่ตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดกันไปถึงตรงนั้น เพราะอย่างที่บอกว่าขั้นตอนมันผิดพลาดไปหมด เพราะว่ามันมีความผิดพลาดในขั้นตอน ถามว่าจะฟ้องมั้ยในขั้นสุดท้ายนั้นก็เป็นอีกทิศทางหนึ่งที่เราคงต้องคุยกันในขั้นตอนว่าเราจะทำอะไรต่อ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น เพราะว่ายังไม่มีอะไรแจ้งมาเลย แล้วไม่รู้ว่าจะฟ้องใครด้วย”
“เราค่อนข้างมั่นใจว่ากรีนเวฟยังต้องอยู่ต่อไป แต่ว่าอยู่ที่ไหนยังไงค่อยว่ากันต่ออีกที เราเองก็มองหาการต่อสัมปทานกับคลื่นอื่นไว้เหมือนกันค่ะ แต่ยังไงของความเป็นธรรมก่อน เพราะที่เข้าไปคุยมาก็ยังไม่มีการตอบรับอะไรกลับมาที่เป็นรูปธรรมชัดเจนเลย มีแต่พูดกันไปมา ในส่วนของทีมงานเราเขาไม่มีข้อสงสัย เพราะว่าเราทำงานกันเป็นทีมอยู่แล้ว เวลามีวิกฤตอะไรเกิดขึ้นทุกคนฟังฉอดคนเดียว เพราะว่าฉอดเป็นคนเดียวที่ให้คำตอบที่ถูกต้อง ก็จะบอกให้เขาฟังเราคนเดียว”
ที่มา: manager.co.th