“นุ้ย” เลื่อนวิวาห์ “ปอนด์” ไปก่อนจนกว่าน้ำจะลด สุดเห็นใจร้านอาหารแฟนจมน้ำกว่า 7 สาขา บอกวิกฤตครั้งนี้ทำให้ประทับใจแฟนหนุ่มมากขึ้น ที่แม้ตัวเองจะตกที่นั่งย่ำแย่เหมือนกันแต่ยังออกไปช่วยคนอื่นตลอด ทั้งทำอาหารและเอาลูกน้องไปช่วยเป็นจิตอาสา ทำมั่นใจคนนี้ดีจริง
คบกันมาหลายปีจนแว่วว่าสาวเก่ง “นุ้ย สุจิรา อรุณพิพัฒน์” กำลังจะมีข่าวดีกับแฟนหนุ่ม “ปอนด์ หลีระพันธ์” แต่สอบถามไปล่าสุดก็ได้รับการเปิดเผยว่า คงต้องเลื่อนแพลนวิวาห์ไปก่อนจนกว่าน้ำจะลด ซึ่งงานนี้สาวนุ้ยถึงกับออกปากเห็นใจแฟนหนุ่มที่ได้รับผลกระทบจากพิษน้ำท่วม จนกิจการร้านอาหารต้องปิดไปถึง 7 สาขา สูญเงินไปหลายล้าน
“โดนเยอะ 7 สาขา แต่เขาก็ยังจิตอาสาเอาเย็นตาโฟไปช่วย เอาข้าวไปช่วยไปแจกเยอะมาก ลูกน้องที่ให้มาช่วยทำเป็นจิตอาสา ความเสียหายทั้งหมดยังไม่รู้เลยว่าประเมินมาเท่าไหร่ แต่ก็ปิดร้านตั้งแต่เดือนตุลาคมสาขานึงก็เป็นล้านอยู่ค่ะ แต่คุณแม่เขาไม่ค่อยคิดถึงตัวเอง คิดถึงว่ามีคนอื่นที่ลำบากกว่าเรา แม้จะปิดไปหลายสาขา โชคดีที่เราคิดเหมือนกันคือต้องช่วยเหลือคนอื่นก่อนในภาวะแบบนี้ ปอนด์เขาเป็นคนใจดีอยู่แล้ว ใครขออะไรเขาก็ให้”
“เขาไม่ท้อเลยนะ มีแต่คิดว่าวันนี้จะออกไปช่วยอะไร คิดเมนูกันว่าเราจะทำอะไรไปช่วยคนอื่น เวลาเราไปเห็นคนเขาลำบากจริงๆ มีคุณลุงคนนึงรอรถมา 3 วัน คนเส้นเลือดสมองแตก คุณยายหัวใจล้มเหลว คือมีคนลำบากกว่าเราเยอะ บางทีคิดว่าจะมีใครมาเห็นบ้างมั้ยว่าประชาชนลำบากจริงๆ เข้าใจว่าความเสียหายมันขยายไปหลายพื้นที่ แต่อยากให้ความช่วยเหลือมันทั่วถึง”
“พอได้เห็นแบบนี้มันก็ทำให้เราไม่คิดถึงตัวเอง คิดถึงคนอื่นมากขึ้น ลดความเห็นแก่ตัวในระบบทุนนิยม มันมาถึงยุคที่เราเห็นได้ว่ามีเงินก็ซื้อไม่ได้ เราเลยเห็นคุณค่าของชีวิตอีกมุมนึง ได้ให้ความสำคัญกับอย่างอื่นมากกว่าวัตถุ เราควรกลับมาพึ่งพาธรรมชาติ อยู่กับมันได้”
ตัดสินใจเลื่อนงานแต่งงานที่มีแพลนไว้บ้างแล้วออกไปจนกว่าน้ำจะลด ส่วนเรื่องที่เคยให้แฟนหนุ่มลดน้ำหนักก่อนแต่งงานนั้นสาวนุ้ยเผยว่า…
“ตอนนี้ปอนด์อ้วนขึ้นด้วย บวมน้ำ ช่วงนี้ปอนด์เป็นช่วงบวมน้ำให้เข้ากับสถานการณ์ ก็ไปช่วยเป็นอาสาสมัคร เวลาเราเอาข้าวไปให้เค้าเราก็ไม่ได้กิน เราก็จะกินเวลากลับเข้ามาในเมืองแล้ว ก็ 4 ทุ่มได้ ก็เลยอ้วน แล้วเวลาเหนื่อยก็กินเยอะ แต่ก็ไม่เป็นไร ถือว่าช่วยคนก็ไม่ต้องลดแล้วล่ะ เอาสุขภาพร่างกายไว้ก่อน”
“แต่เรื่องแต่งก็คงต้องเลื่อนไปก่อน พักไว้ก่อนรอน้ำลด ให้อะไรเข้าที่เข้าทางก่อน ตอนนี้ก็รอไปงานคนอื่นก่อน เราไม่รีบ เราก็ช่วยๆ กัน เพราะอย่างที่เราว่าเราเป็นเหมือนเพื่อนกัน เขาเป็นคนดี ถึงเขาลำบากแบบนี้ เขาไม่เคยคิดว่าเอาตัวเองรอด นอกจากช่วยลูกน้องตัวเอง ยังช่วยคนอื่นด้วย โดยที่เขาไม่ได้หวังผลอะไร ไม่ได้ไปบอกใคร”
ที่มา: manager.co.th