“กฤษณ์” รับแล้วตั้งใจไปเจอ “อั้ม” ที่อังกฤษ ชมน่ารักดีแต่สัมพันธ์ยังไม่คืบ ไม่โกรธแฟนคลับอั้มแอนตี้ไม่สนับสนุนให้คบกัน ส่วนคดีที่เตรียมยื่นฟ้องคนปล่อยข่าวตนยืมเงินนางเอกสาว 10 ล้าน อยู่ในระหว่างรวบรวมหลักฐาน
หลังจากที่เคยออกมาบอกว่าเป็นเรื่องของความบังเอิญที่หนุ่ม “กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์” ไปเจอสาว “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” ที่อังกฤษ ทำเอานางเอกสาวเซอร์ไพร์สกับทริปในครั้งนั้น แต่เมื่อซักไปซักมาล่าสุดหนุ่มกฤษณ์ก็ยอมรับแล้วว่า การเจอในครั้งนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการตั้งใจแวะไปหานางเอกสาวเพื่อเที่ยวกันต่อ
"ไม่ได้บังเอิญนะครับ ผมทราบมาแล้วว่าคุณอั้มไป แต่ว่าไม่ได้ไปพร้อมกัน ไม่ได้ตั้งใจไปเจอคุณอั้มโดยเฉพาะหรอกครับ ไม่ได้ไปทำคะแนนอะไร ผมไปทำอย่างอื่นด้วย พอดีว่ามีธุระแล้วก็เลยไปเจอคุณอั้ม ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณอั้มเขาจะเซอร์ไพร์ส เขาก็รู้ตอนที่ผมถึงอังกฤษครับ หลังจากกลับมาก็ได้เจอ คุยกันปกติ ใช่ครับ เจอกันกินข้าว แต่ส่วนมากคุณอั้มเขาจะติดเพื่อนอยู่กับเพื่อนเป็นกลุ่มครับ”
“ผมกับเขาก็เป็นเพื่อนสนิทกันปกติ ผมยังไม่ได้คิดถึงตรงนั้น ตอนนี้ก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ครับ ยังไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้นครับ เป็นเพื่อนกันแบบนี้ก็ดีแล้ว (อั้มถือว่าเป็นสเปคมั้ย?) ก็น่ารักดีครับ ผมต้องรู้จักลึกๆ ครับ มันพูดยาก ผมไม่ได้มีสเปคแบบเจาะจงว่าหมวยหรือว่าเป็นแบบฝรั่งอะไร คือถ้าคนไหนใช่ก็ใช่ครับ ก็ไม่กลัวว่าคนอื่นจะเข้าใจผิดจนไม่กล้ามาคุยกับผม ผมธรรมชาติไม่ได้กลัวว่าเป็นข่าวแล้วต้องอย่างนั้นอย่างนี้ คือถ้ากลัวเป็นข่าวจริงๆ คงไม่ออกไปไหนมาไหนด้วยกัน”
“ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วย ผมเข้าใจว่าประชาชนอิน ไม่โกรธครับ เฉยๆ ครับ ตอนนี้ก็ยังไม่ได้เป็นอะไร เป็นเพื่อนกัน เข้าใจว่าคนในวงการบันเทิงก็เป็นแบบนี้ครับ เราเองเปิดเผยไม่ปิดบังอะไรอยู่แล้ว ถ้าเกิดมีงานต้องไปทำร่วมกันจริงๆ ก็ปกติครับ เราไม่ได้หลบหลีกอะไร เรื่องออกงานคู่กันถ้าเป็นงานที่ต้องทำอยู่แล้วก็โอเค ผมก็เคยทำพิธีกรแล้วคุณอั้มก็มาร่วมงาน ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่พอมีข่าวออกมาก็ยังไม่ได้ไปงานไหนด้วยกันเลย”
ส่วนคดีที่เตรียมยื่นฟ้องคนปล่อยข่าวตนยืมเงินนางเอกสาว 10 ล้าน อยู่ในระหว่างรวบรวมหลักฐาน ลั่นยังไงก็ไม่ปล่อยลอยนวลแน่
"ก็เห็นเขาเงียบไปนะครับ ไม่น่าเงียบเลย ผมไม่น่าออกมาพูดเลย รออยู่ครับ ผมไม่ขอบอกดีกว่าครับว่าเขาเป็นใคร เรื่องดำเนินการผมก็ไม่ทราบรายละเอียดเท่าไหร่ เพราะผมมอบหมายให้ทนายแล้ว ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะต้องขึ้นศาลรึเปล่า แต่ก็ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไรหรอกครับ คงไม่มีการไกล่เกลี่ยพูดจาต่อรองอะไร เอาเลยแน่นอน ก็มอบหมายให้ทนายแล้ว ถ้าทำให้ผมเสียหายก็คงต้องรับผิดชอบครับ"
“เรื่องนี้ไม่ได้คุยกับคุณอั้มเลยครับ เพราะมันเป็นเรื่องของผม ค่าเสียหายจะเรียกเท่าไหร่ผมก็ไม่ทราบคงต้องคุยกับทนาย คดีก็คงจะฟ้องมากกว่าหมิ่นประมาทเดี๋ยวรอดูแล้วกันครับ ตอนนี้เบื้องต้นทางทนายเขาเก็บข้อมูลอยู่ครับ แล้วก็รออยู่ว่าจะมีหลักฐานอะไรอีก เป็นช่วงสืบอยู่ครับ ตอนนี้ก็ยังไม่ขอพูดอะไรแล้วกัน เขาเองก็ไม่ได้ติดต่ออะไรผมมาเป็นการส่วนตัว แต่อย่าเพิ่งหยุดการกระทำนะครับ หยุดแล้วเดี๋ยวไม่หนุก (หัวเราะ)”
ที่มา: manager.co.th