ศุภชัย เผยไม่ได้กังวลประเด็นกสทช.สั่งแก้ไขสัญญาทรูกับ กสท ระบุเตรียมเข้าหารือกับ กสท เพื่อเข้าชี้แจง กสทช.ต่อไปในประเด็นดังกล่าว
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงประเด็นที่คณะกรรมการ (บอร์ด) รักษาการ กสทช. มีมติสั่งแก้ไขสัญญาโทรศัพท์มือถือ 3G HSPA ระหว่าง กสท และทรู ให้ กสท แก้ไขสัญญาโดยห้ามระบุว่าใครได้สัดส่วนเช่าใช้โครงข่าย 80% หรือ 20% โดยระบุว่าทรูไม่มีความกังวลกับคำสั่งแก้ไขสัญญา เพราะการทำสัญญา 3G ดังกล่าวมีรายละเอียดสัญญาที่ถูกต้อง และดำเนินไปตามกรอบของประกาศกทช.แล้ว
รักษาการกสทช. นั้นมีมติเมื่อวันที่ 28 ก.ย.2554 ให้ กสท แก้ไขสัญญาที่ทำร่วมกับทรู เพื่อให้เป็นไปตามประกาศของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เกี่ยวกับการป้องกันการผูกขาด คือ ห้ามระบุว่าใครได้สัดส่วนเช่าใช้โครงข่าย 80% ให้แล้วเสร็จใน 30 วัน ซึ่งล่าสุดทางกสท.ได้ยื่นขอเลื่อนเป็นภายในสิ้นเดือนพ.ย.นี้แทน
อย่างไรก็ตาม การทำสัญญา 3G ดังกล่าว ทรูฯยืนยันว่า รายละเอียดสัญญาเป็นไปอย่างถูกต้อง ดำเนินไปตามกรอบของประกาศ กทช. และไม่ขัดต่อพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่กำกับประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 (พ.ร.บ.กสทช.) จุดนี้นายศุภชัยยอมรับว่าที่ผ่านมา หลังจากมีกสทช.ชุดใหม่ ตนเองและผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง ยังไม่มีโอกาสได้เข้าพบ เพื่อทำความเข้าใจในประเด็นการทำสัญญาดังกล่าวเลย จึงเชื่อว่าหากได้มีโอกาสเข้าไปหารือ ก็มั่นใจว่า การทำสัญญา 3G HSPA น่าจะไม่มีอุปสรรคแต่อย่างใด
“ทางทรู เองได้เตรียมเข้าไปหารือกับทาง บริษัท กสท.โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ก่อนเพื่อร่วมกันเข้าไปชี้แจงรายละเอียดสัญญาที่ระบุสัดส่วนเช่นใช้โครงข่าย 80-20 ให้กับ กสทช.รับทราบภายในสัปดาห์หน้านี้”
ขณะที่ 3G ทรูมูฟเอช ยังคงเดินหน้าแผนเดิม เนื่องจากไม่ได้รับผลกระทบ แต่กลับมีความต้องการใช้งานเพิ่มขึ้นในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย เนื่องจากประชาชนไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในรูปแบบ ADSL ได้เพิ่มขึ้นเพราะน้ำท่วม
ส่วนกรณีที่มีข่าวลือหนาหูออกมาว่า นายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.กสท โทรคมนาคม (CAT) ได้ยื่นใบลาออก และคาดว่าจะมีผลในการประชุมคณะกรรมการ กสท ในสัปดาห์หน้านั้น เรามองว่าเป็นเรื่องปกติที่ซีอีโอต้องพิจารณาตนเองในการลาออกทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงบอร์ด
“อย่างไรก็ตามรู้สึกเสียดายกับนายจิรายุทธเหมือนกันเนื่องจากเป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถ ถ้ากสท.จะต้องเสียซีอีโอมือดีไปจริงๆ ส่วนการที่จะมีกระทบต่อสัญญากสท.-ทรู หรือไม่นั้นเราได้ประเมินความเสี่ยงเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว และยังเชื่อว่าซีอีโอคนใหม่ที่จะมาแทนจิรายุทธก็ต้องเห็นด้วยกับสัญญาดังกล่าวเช่นเดียวกัน เพราะสัญญาดังกล่าวถูกต้องตามกฏหมายไม่ได้มีอะไรผิดร้ายแรง”
นอกจากนี้ ในส่วนของเงินลงทุนขยายโครงข่าย 3G ที่ทรูกู้ยืมมาจากสถาบันการเงินจำนวน 48,900 ล้านบาทนั้น แม้ในกรณีที่เจรจากับกสทช.ในประเด็นการทำสัญญา 80-20 ยังไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้ ก็เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อเงินกู้ที่ได้รับมา เพราะสถาบันทางการเงินเข้าใจ และทราบถึงความเสี่ยงดังกล่าวเป็นอย่างดีแล้ว
Company Related Link :
CAT
True
ที่มา: manager.co.th
