ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา "ออสการ์" เต็มไปด้วยความวุ่นวายกับการต้องหาพิธีกร และโปรดิวเซอร์คนใหม่ ... จนกระทั่งถึงสุดสัปดาห์จึงเป็นช่วงเวลาแห่งการฉลอง เมื่อ "สถาบันศิลปะและวิทยาการภาพยนตร์แห่งอเมริกา" ได้จัดงานเพื่อมอบรางวัลเกียรติยศให้กับ 3 บุคลากรสำคัญแห่งวงการภาพยนตร์
งานแจกรางวัลออสการ์จะมีขึ้นในต้นปี 2012 แต่ช่วงสัปดาห์ที่แล้ว งานแจกรางวัลที่ยิ่งใหญ่และทรงอิทธิพลที่สุดของฮอลลิวูดเวทีนี้ กลับเป็นข่าวต่อเนื่องก่อนกำหนดเวลา เมื่อเกิดปัญหาที่ทำให้ เบร็ท แรทเนอร์ โปรดิวเซอร์ของงาน และพิธีกร เอ็ดดี้ เมอร์ฟี่ ตัดสินใจขอถอนตัวจากหน้าที่ จนต้องมีการดึงตัวเอา ไบรอัน เกรย์เซอร์ และบิลลี่ คริสตัล เข้ามาทำหน้าที่แทน
อย่างไรก็ตามกำหนดการณ์ต่าง ๆ ของออสการ์ยังคงจะดำเนินต่อไป รวมถึงเมื่อวันเสาร์ที่ 12 พ.ย. ตามเวลาท้องถิ่นของลอสแอนเจลิสที่ผ่านมา ซึ่งถึงเวลาสำหรับการมอบรางวัลเกียรติยศ ให้บุคลากรคนสำคัญ เป็นพิธีการที่มีดาราดังมาร่วมงานด้วยมากมาย อาทิ จอห์น ทราโวลต้า, อเล็ค บอลด์วิน, วูดี้ แฮร์เรลสัน, แชรอน สโตน, เซ็ธ โรแกน, ซินนี่ ปอยเตีย และ ไทเลอร์ เพอร์รี่ เป็นต้น
"เจมส์ เอิร์ล โจนส์"
นอกจากเหล่าดาราและผู้คนในแวดวงบันเทิงมากมายแล้ว ในงานครั้งนี้ยังมีแขกรับเชิญเป็น "กองทหารสตอร์มทรูปเปอร์" จากหนังชุด Star Wars มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการมอบรางวัลด้วย เนื่องจากในปีนี้นักแสดงรุ่นใหญ่เจ้าของเสียง ของ "ดาร์ธ เวเดอร์" เป็นหนึ่งในผู้ได้รับรางวัลด้วยนั่นเอง
เจมส์ เอิร์ล โจนส์ มีงานแสดงมาแล้ว 50 เรื่อง เป็นเจ้าของเสียงพากย์สุดยอดอมตะตลอดกาลของ ดาร์ธ เวเดอร์ ในหนังชุด Star Wars และ มูซาฟา ใน The Lion King เขายังเคยถูกเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์จาก The Great White Hope และยังมีเครดิตการทำงานในหนังดังอย่าง Field of Dreams, Patriot Games และ Hunt for Red October
ดารารุ่นใหญ่วัย วัย 80 ปีไม่ได้เดินทางมารับรางวัลด้วยตนเอง แต่รับผ่านภาพวิดีโอจาก โรงละครไวนด์แฮม ในกรุงลอนดอน ที่เขาอยู่ระหว่างการร่วมแสดงละครเวทีเรื่อง Driving Miss Daisy โดยมี เซอร์ เบน คิงส์ลี่ เป็นผู้นำรางวัลออสการ์ไปมอบให้ถึงที่ พร้อมเรียกโจนส์ว่าเป็น "สมบัติของโลก" และกล่าวยกย่องว่าเขาคือนักแสดงที่ยอดเยี่ยมเสมอ ส่วนโจนส์ก็รับรางวัลพร้อมแสดงความยินดีว่านี่คือ "ความฝัน" ของดาราทุกคน
"ดิ๊ก สมิธ"
ดิ๊ก สมิธ เมกอัพอาร์ติสรุ่นอาวุโส ผู้อยู่ในวงการภาพยนตร์มาเกือบ 7 ทศวรรษแล้วก็ได้รับการยกย่องในงานครั้งนี้ โดยมีผู้กำกับชื่อดังอย่าง เจ.เจ. อับรามส์, ปีเตอร์ แจ็คสัน และ กีเยร์โม เดล โทโร ร่วมกันกล่าวเชิดชูเกียรติ
คนทำงานเบื้องหลังรุ่นใหญ่วัย 91 ปีท่านนี้ เริ่มงานในฐานะเมกอัพอาร์ติสกับ NBC ในปี 1945 ได้ออสการ์จากงานใน Amadeus และถูกเสนอชื่ออีกครั้งในปี 1989 กับงานเรื่อง Dad นอกจากนั้นเขายังมีผลงานเด่น ๆ อีกมากมาย อาทิ The Godfather, The Exorcist และ Taxi Driver เป็นต้น สมิธ ยังมีบทบาทกับการปั้นเมกอัพอาร์ติสรุ่นใหม่ให้กับวงการมากมาย จนได้รับการยกย่องให้เป็น “ก็อตฟาเธอร์” สำหรับสายงานการแต่งหน้าในภาพยนตร์กันเลยทีเดียว
อับรามส์ เจ้าของผลงานทั้งซีรีส์ Lost, Fringe และ หนัง Star Trek ภาคล่าสุดกล่าวยกย่องสมิธว่า "เขาก็เหมือนกับ The Beatles สำหรับผมนั่นแหละครับ" พร้อมเล่าถึงเรื่องที่ตัวเขาเองเคยเขียนจดหมายถึง สมิธ และได้รับของขวัญเป็นลิ้นปลอมจากหนัง The Exorcist
ฝ่ายของตัว สมิธ ก็รับรางวัลด้วยความยินดีว่า นี่คือ ช่วงเวลาแห่งความสุขสมหวังครั้งสำคัญในอาชีพของเขา "ผมรักการเป็นเมกอัพอาร์ติสมาก แต่การได้รับความเอื้อเฟื้อจากทุกคนแบนนี้ มันมากมายเหลือเกิน ผมยินดีจริง ๆ"
วงการภาพยนตร์ยกย่อง 'ราชินี' แห่งแวดวงโทรทัศน์
แต่ไฮไลท์สำคัญของการมอบรางวัลแห่งเกียรติยศครั้งนี้ คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากการยกย่องเชิดชูผู้หญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแวดวงโทรทัศน์สหรัฐอเมริกา โอปราห์ วินฟรี่
ควินซี โจนส์, จอห์น ทราโวลต้า, แลร์รี กอร์ดอน, มาเรีย ชไรเวอร์ และนักเรียนที่เคยได้รับทุนจาก โอปราห์ คือผู้ที่ร่วมกันกล่าวแนะนำพิธีกรหญิงคนดัง โดย ทราโวลต้า กล่าวขึ้นวา "เธอเหมาะสมสำหรับรางวัลนี้ทุกประการ" หลังก่อนหน้านี้ โอปราห์ ถูกวิจารณ์ว่าไม่น่าจะคู่ควรกับรางวัลออสการ์เกียรติยศ ด้วยเหตุว่าเธอมีภาพของความเป็น “คนของวงการโทรทัศน์” มากกว่าจะเป็น “คนในวงการภาพยนตร์” แม้พิธีกรคนดังจะเคยได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลออสการ์จาก The Color Purple เมื่อปี 1985 รวมถึงเคยสร้างหนังเรื่อง Beloved (1998) และ Precious (2009) ที่ได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์มาแล้วก็ตาม
พิธีกรหญิงชื่อดังแห่งวงการทีวีสหรัฐฯ เผยความรู้สึกหลังได้รับออสการ์ในสาขาเกียรติยศ สำหรับผู้ทำงานทุ่มเทเพื่อการกุศลว่า
"ฉันอยากจะทำหนังมากกว่านี้เหมือนกัน แต่การได้รับรางวัล จีน เฮอร์เชลต์ (ตั้งชื่อตามนักแสดงแห่งยุคหนังขาวดำ และอดีตประธานของสถาบันฯ) มันมีความหมายต่อฉันมากกว่ารางวัล, หรือคำชมใด ๆ แม้แต่ออสการ์ก็ตาม เพราะมันหมายความว่าทุกคนเข้าใจในสิ่งที่ฉันทำ, สิ่งที่ฉันเพียรพยายามอยู่ สิ่งที่ฉันพยายามพูดในหลายปีมานี้ ที่ว่าเราทุกคนสามารถสร้างความแตกต่างได้"
"สำหรับฉันออสการ์นี้คือตัวแทนความรักจากพวกคุณทุกคน ขอบคุณค่ะสำหรับการโหวตลงคะแนนด้วยความรัก ฉันจะใช้รางวัลนี้เพื่อกระตุ้นให้ตัวเองพยายามทำสิ่งดี ๆ และทำงานอย่างที่พวกเราทุกคนต้องช่วยกันทำ"
งานมอบรางวัลออสการ์สาขาพิเศษ หรือ Governors Awards ที่มอบรางวัลให้กับทั้งผู้ประสบความสำเร็จในวิชาชีพ และรางวัลเพื่อยกย่องเชิดชูคนในวงการที่ทุ่มเททำงานเพื่อการกุศล ถูกแยกออกมาจาก ออสการ์งานหลักตั้งแต่ 3 ปีก่อน โดยการแจกรางวัลไม่ได้มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ แต่จะมีการนำภาพบางส่วน ไปแพร่ภาพประกอบการถ่ายทอดสดงานแจกรางวัลออสการ์งานหลัก ซึ่งจะจัดกันในเดือน ก.พ. 2012 ต่อไป
ที่มา: manager.co.th