Author Topic: ซีดีจี-IBMมุ่งเจาะลูกค้าเก่าปั๊มรายได้ แก้เกมลงทุนไอทีภาครัฐ-เอกชนฝืด  (Read 3510 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline Webmaster

  • Nick Computer Services
  • Administrator
  • Full Member
  • *
  • Posts: 168
  • Karma: +999/-0
  • Gender: Male
  • Love Me Love My Services
    • Computer Service

ยักษ์ผู้ให้บริการไอทีวิ่งเกาะลูกค้าเก่ารักษารายได้ปี 52 พร้อมประกาศคุมเข้มค่าใช้จ่ายรับมือเศรษฐกิจ ด้าน"ซีดีจี" ระบุยังมีโครงการไอทีภาครัฐที่ต้องพัฒนาอีกมาก แต่ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐ ขณะที่"ไอบีเอ็ม" ชี้ไทยอยู่กลุ่มประเทศเกิดใหม่ หาโอกาสขยายฐานตลาดภาครัฐ-การศึกษา


นายนาถ ลิ่วเจริญ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท ซีดีจี กรุ๊ป จำกัด ผู้ให้บริการไอทีรายใหญ่ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมไอทีภาครวมปีนี้เติบโตราว 6% จากเดิมที่ผ่านมาเติบโตเป็นเลข 2 หลัก อย่างไรก็ตามมองตลาดปีนี้จะเติบโตหรือไม่ ต้องรอดูสถานการณ์ทางเศรษฐกิจไตรมาส 3 -4 เนื่องจากมองว่าสภาพเศรษฐกิจไตรมาสแรก และ ไตรมาส 2 ยังคงชะลอตัวอยู่


ในขณะที่งบประมาณหลักๆ ของรัฐบาลปี 2552 ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ส่วนงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลมุ่งไปที่การอัดฉีดงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน ส่วนโครงการปรับปรุงระบบไอทีมีอยู่บ้างแต่ยังไม่ชัดเจน นอกจากนี้ภาครัฐยังไม่มีนโยบายการส่งเสริมภาคองค์กรธุรกิจออกมาชัดเจน อย่างไรก็ตามยังมองว่าตลาดไอทีโดยภาพรวมปีนี้ยังมีโอกาสการเติบโตอยู่


สำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัทคงมุ่งการรักษาฐานลูกค้าเก่า ทั้งในส่วนการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆเข้าไปทดแทน และการบำรุงรักษา นอกจากนี้ยังมุ่งควบคุมค่าใช้จ่าย และระมัดระวังส่วนของการลงทุน โดยเลือกลงทุนในโครงการที่ส่งผลก่อให้เกิดรายได้ภายใน 12 เดือน นอกจากนี้ในปีนี้บริษัทยังมุ่งการพัฒนาบุคลากรต่อเนื่อง โดยปรับบุคลากรให้เหมาะสมกับงาน บุคลากรสามารถรู้ได้ว่าตำแหน่งงานที่รับผิดชอบมีความก้าวหน้าไปถึงระดับใด ตลอดจนดูแลเรื่องผลตอบแทน


ส่วนปีที่ผ่านมาธุรกิจซีดีจี ยังมีการเติบโต โดยลักษณะธุรกิจซีดีจี เป็นการให้บริการไอทีภาครัฐ ขนาดกลางและใหญ่เป็นโครงการระยะยาว ดังนั้นเศรษฐกิจชะลอตัวไม่กระทบกับรายได้ในช่วงนั้น โดยปี 2551 ที่ผ่านมาซีดีจีมีรายได้ประมาณ 5,000 ล้านบาท ขณะที่บริษัทในเครือจีเอเบิล ซึ่งให้บริการไอทีโครงการภาคเอกชน มีรายได้ประมาณ 4,900 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทยังมีรายได้จากการให้บริการบำรุงรักษาระบบไอที ให้กับโครงการภาครัฐต่างๆ ต่อเนื่อง สำหรับโครงการสร้างรายได้หลักปีที่ผ่านมา คือ โครงการให้บริการบำรุงรักษาระบบบริการทะเบียนราษฎร กรมการปกครอง โครงการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 3 ปีมูลค่า 1,400 ล้านบาท


นายนาถ กล่าวต่ออีกว่าประเทศไทยยังต้องมีการพัฒนาไอที หรือนำไอทีมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์กับประชาชน และภาคธุรกิจอีกเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล และหน่วยงานภาครัฐต่างๆ โดยการพัฒนาหลักๆนั้น มีทั้งในส่วนของโครงสร้างพื้นฐาน และ ระบบงานบริการต่างๆ ซึ่งภาพการลงทุนไอทีของภาครัฐที่ผ่านมานั้นยังต่างคนต่างทำ บางหน่วยงานก็ไม่ทำ ทั้งนี้มองว่าโครงการที่สามารถนำมาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์กับประชาชนได้มีหลายโรงการ อาทิ โครงการบัตรประชาชน สมาร์ทการ์ด ที่ปัจจุบันนำมาใช้ประโยชน์เพื่อการยืนยันตัวตน ซึ่งจริงๆ แล้วภาครัฐสามารถพัฒนาให้เชื่อมโยงกับระบบแรงงาน ประกันสุขภาพ เพื่อประโยชน์ในการบริหารงานของภาครัฐ และการบริการประชาชนในรูปแบบของอี-เซอร์วิส


ด้านนายธันวา เลาหศิริวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจของบริษัทในปีนี้จะมุ่งรักษาฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่ด้วยการหาโซลูชัน และให้คำปรึกษาแนะนำการปรับปรุงระบบเดิมให้ดีขึ้น คุ้มค่ากับการเป็นเจ้าของมากขึ้น อาทิ การผนวกรวมเครื่องแม่ข่าย (Server Consolidation) เพื่อช่วยประหยัดค่าไฟ พื้นที่ และการดูแลรักษา หรือ โซลูชันเทคโนโลยีเสมือนจริง (Virtualization)


นอกจากนี้ยังมีแผนขยายตลาดภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจ เช่น กลุ่มสาธารณูปโภค และภาคการศึกษา ซึ่งเดิมทีมีลูกค้าภาครัฐไม่มากนัก ขณะที่ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มตลาดเติบโต (Growth Market) กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่ให้ความสำคัญการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการศึกษา ส่วนบริการบริหารระบบไอทีแบบเบ็ดเสร็จ หรือ เอาต์ซอร์ซซิ่งปีนี้นั้นจะมีเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะองค์กรใหญ่ๆ ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการเดินหน้าธุรกิจหลัก และให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาดูแลระบบไอที


อย่างไรก็ตามด้านการใช้จ่ายของบริษัทอาจมีการพิจารณาควบคุมมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ ขณะที่กระแสปรับลดพนักงานนั้นขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณถดถอย หรือต้องเปลี่ยนแปลงโดยผลประกอบการล่าสุดในปี 2551 ที่บริษัทแม่ประกาศออกมา คือ 103 พันล้านบาท ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่บริษัทมีรายได้เกิน 100 พันล้านบาท ส่วนผลประกอบการในไทยยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย อีกทั้งปีที่ผ่านมารับพนักงานเพิ่ม 9% รวมมีพนักงาน 1,700 คน

ที่มา: http://www.thannews.th.com


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)