หึ่ง “บิลลี่ โอแกน” ฉะรัฐบาลผ่านเฟซบุ๊ก ไม่มีปัญญาแก้น้ำท่วม บอกให้ประชาชนหนีคือวิสัยของคนแพ้ ลั่นขอปกป้องบ้านของตนเองไม่เชื่อน้ำยารัฐบาลไม่ว่าจะเอาด็อกเตอร์ที่ไหนมาปั้นแต่งถ้อยคำ ไล่ไปร้องไห้ให้ควายดูบ้านเมืองไม่ใช่ของเล่นที่ทำพังแล้วร้องไห้ขออันใหม่
นาทีนี้คงไม่มีข่าวไหนฮอตเท่าข่าวน้ำท่วมอีกแล้ว หลายๆ คนกำลังลุ้นอยู่ว่าเมืองหลวงอย่างกรุงเทพจะถูกน้ำท่วมขยายว้งกว้างไปอีกแค่ไหน หลังจากที่ก่อนหน้านี้หลายๆ จังหวัดในภาคเหนือไล่มาจนถึงภาคกลางก็ถูกน้ำท่วมนานหลายเดือน จนกระทั่งลามเข้ากรุงเทพทามกลางข้อสงสัยมากมายว่าทำไมน้ำมันถึงได้ท่วมมหาศาลชนิดต้องจารึกในประวัติศาสตร์แบบนี้ นี่เป็นอุทกภัยหรือว่าการบริหารน้ำผิดพลาดของรัฐบาลกันแน่
ประกอบกับการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” น้องสาว “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรีและนักโทษหนีคดี ที่ยิ่งแก้ก็ดูเหมือนจะยิ่งเละ ปากบอกว่า “เอาอยู่ๆ” แต่สุดท้าย “ก็เอาไม่อยู่” น้ำแตกแล้วแตกอีกนิคมอุตสาหกรรมโดนน้ำท่วม 7 แห่งเสียหายนับแสนล้านบาท ประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า จนล่าสุดอาจารย์เศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ประกาศจะรวบรวมข้อมูลผู้ประสบภัยเพื่อฟ้องผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญน้ำท่วมผิดพลาดจนทำให้ประเทศฉิบหาย
แม้แต่ในวงการบันเทิงดาราหลายๆ คนก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล แต่ที่กำลังฮือฮาที่สุดตอนนี้เห็นจะเป็นความคิดเห็นของ “บิลลี่ โอแกน” ร็อกเกอร์รุ่นใหญ่ที่ว่ากันว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล ผ่านเฟซบุ๊กชนิดฟังแล้วแสบไปถึงลิ้นปี่เลยทีเดียว
"การหนี คือ วิสัย ของ ผู้แพ้ ไอ้การที่รัฐบาลเหี้ยนี่ประกาศให้เราทิ้งบ้านทิ้งช่อง โดยประกาศเป็นวันหยุด มึงจะให้คนกรุงเทพหนีไปไหน ที่นี่บ้านกู ถ้าน้ำหน้าอย่างพวกมึง ไม่มีปัญญา ปกป้อง บ้านกูได้ ก็ไสหัวไปให้ไกล ๆตีน กูจะไม่ไปไหนทั้งนั้น พวกกูไม่เคยหนี แต่พวกมึงมันเหี้ย ไร้สติปัญญา ไร้ความสามารถ มึงจะใช้ ด๊อกเตอร์หน้าสันตีนคนไหน ๆ มาพูด เสกสรรปั้นแต่งถ้อยคำยังไง กูก้อเห็นว่า พวกมึงมันไร้ความสามารถทั้งนั้น"
"ให้ไปร้องไห้ให้ควายดูเหอะ บ้านเมืองไม่ใช่ของเล่นที่ทำพังแล้วร้องไห้ขออันใหม่ ที่นี่บ้านกู"
อย่างไรก็ตามความคิดเห็นดังกล่าวยังไม่ได้รับการยืนยันจากบิลลี่ โอแกนว่าได้เป็นผู้โพสต์ข้อความดังกล่าวจริงหรือไม่ ส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรบันเทิงผู้จัดการออนไลน์จะรายงานให้ทราบต่อไป
ที่มา: manager.co.th