ปัญหาการขาดแคลนฮาร์ดดิสก์ดูเหมือนจะเริ่มส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อ้างอิงตามนักวิเคราะห์และตัวแทนผู้ค้าปลีก
โดยผลกระทบที่ส่งผลในทันทีมากที่สุด คือ การขึ้นราคา และการลดลงของสินค้าคงคลังในกลุ่มฮาร์ดดิสก์แบบสแตนด์อโลน เนื่องมาจากปัญหาอุทกภัยครั้งยิ่งใหญ่ในประเทศไทย ซึ่งเป็นแหล่งผลิตฮาร์ดดิสก์เกือบครึ่งหนึ่งของโลก โดยตัวแทนจาก PC Connection แหล่งค้าปลีกออนไลน์รายหลัก ได้กล่าวว่า "ราคาจะถีบตัวสูงขึ้น เรากำลังจะทำงานจนหมดสต็อกและไม่มีการสั่งซื้อกลับมา" ตัวแทนทางฝ่ายขายเสริม "ทางเรามีสต็อกในตอนนี้อยู่อีกครึ่งหนึ่งเท่านั้น" โดยตัวแทนขายจาก CDW ตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่อีกรายได้กล่าวถึงราคาจำหน่ายว่า อาจจะมีการปรับตัวสูงขึ้นไปถึง 100เหรียญสหรัฐฯ สำหรับฮาร์ดดิสก์ในบางรุ่น ยกตัวอย่างเช่น ฮาร์ดดิสก์ขนาด 1TB แสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างจากฮาร์ดดิสก์ในกลุ่มราคาแพง ที่ ณ ตอนนี้ขึ้นป้ายว่า "call" (ไม่มีสินค้าในตอนนี้) หรืออาจขึ้นแสดงตารางเวลาในการจัดส่งระหว่าง 3 และ 11 วัน โดยเหตุผลหลักจากปัญหาในครั้งนี้ นอกเหนือจากเหตุผลที่ชัดเจนที่สุดในเรื่องของโรงงานการผลิตในประเทศไทยที่ถูกทำลายด้วยปัญหาน้ำท่วมแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นอีก อย่างการเล่นทางยุทธศาสตร์และจิตวิทยา "โดยผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์กำลังทำทุกวิถีทางเพื่อให้พวกเขารักษาความเป็น OEMs (ผู้ผลิตพีซี) ขนาดใหญ่ และสร้างความพึงพอใจให้กับตัวเอง" Jim Handy นักวิเคราะห์การตลาดจาก Objective Analysis กล่าว "และนั่นหมายความว่า จะมีคนจำนวนน้อยที่แบกรับภาระที่หนักอึ้ง ในขณะที่คนส่วนใหญ่จะหันไปพึ่งสิ่งที่ใกล้เคียงกันอย่าง ฮาร์ดดิสก์ภายนอก ที่มีราคาไม่แพง ซึ่งจะนำไปสู่การขาดแคลนมากกว่าพีซีเสียอีก" โดยฮาร์ดิสก์ภายในขนาดความจุ 1TB หลายผู้ผลิตตอนนี้ มีราคากว่า 120เหรียญสหรัฐฯ หรือมากกว่า ซึ่งเพิ่มขึ้นมาจาก 60-80เหรียญสหรัฐฯ ก่อนที่น้ำจะท่วม
Source : CNET
ที่มา: pantip.com
