หัวเว่ย บริษัทโทรคมนาคมจากจีนกำลังจะกลายเป็นเป้าหมายล่าสุดของไมโครซอฟท์ในการดำเนินการต่อเนื่องเกี่ยวกับการอนุญาตให้ใช้สิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้องกับแอนดรอยด์แล้ว โดยมีรายงานว่าบริษัทซอฟท์แวร์ยักษ์ใหญ่ จะมีการเรียกร้องให้ชำระค่าธรรมเนียมสำหรับการใช้งานซอฟท์แวร์แอนดรอยด์
โดยในระหว่างการสนทนากับเว็บไซต์เดอะการ์เดียนของอังกฤษ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Victor Xu หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดจากหัวเว่ยได้ยืนยันว่า "การเจรจาต่อรองกำลังคืบหน้า" ในเรื่องของการออกใบอนุญาตสิทธิบัตรที่ไมโครซอฟท์อ้างว่ามันเป็นการฝ่าฝืนด้วยการใช้ฮาร์ดแวร์บนโทรศัพท์แอนดรอยด์ "เราเคารพทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัททั้งหลายเสมอ แต่เราก็มีสิทธิบัตร 65,000 ฉบับทั่วโลกที่เพียงพอต่อการปกป้องผลประโยชน์ของเราด้วยเหมือนกัน รวมถึงเราก็ยังเป็นผู้มีส่วนได้เสียทีสำคัญในแอนดรอยด์" Xu อธิบายแก่สื่อ แต่อย่างไรก็ดี เขายังเปรยเป็นนัยๆ อีกด้วยว่า การเข้าซื้อกิจการของกูเกิลนั้น ถึงแม้จะยังอยู่ในขั้นตอนการทำงาน แต่มันก็สามารถนำไปสู่การคุ้มครองที่เพิ่มขึ้นจากกูเกิลสำหรับพันธมิตรแอนดรอยด์ ทั้งนี้ บริษัทจากจีนมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ในตลาดสมาร์ทโฟน และยืนยันว่ามีความมั่นใจมากจริงๆ เนื่องจากพวกเขาตั้งเป้าที่จะเป็นท็อปไฟว์ของผู้เล่นสมาร์ทโฟนภายในอีกสามปีข้างหน้า และไต่ขึ้นเป็นท็อปทรีของโลกในอีกห้าปีข้างหน้าด้วย นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้ประกาศแผนที่จะเปิดศูนย์กลางการออกแบบที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่ซึ่งจะว่าจ้างผู้คนจำนวนมากมาทำงานออกแบบผลิตภัณฑ์ของบริษัท ซึ่ง Mark Mitchinson รองประธานบริหารการดำเนินงานในอังกฤษกล่าวว่า จะมีการเปิดศูนย์ฯ ดังกล่าวในต้นปี 2012 สำหรับ หัวเว่ย นั้นมีแนวโน้มที่จะเข้าร่วมกับอีก 10 บริษัท หรือบริษัทที่ไมโครซอฟท์ยอมรับว่าเป็น "พันธมิตร" ด้วยการประกาศผ่านบล็อกทางการก่อนหน้า อันได้แก่ Samsung, Quanta, HTC, General Dynamics Itronix, Wistron, Acer, Vierwsonic, Velocity Micro และ Onkyo สอดคล้องกับรายงานจากเว็บไซต์ บิสซิเนส อินไซด์เดอร์ ที่ได้รับการเปิดเผยจากโกลด์แมนว่า ไมโครซอฟท์จะได้รับเงิน 3-6 เหรียญสหรัฐฯ ทุกการขายอุปกรณ์แอนดรอยด์ ซึ่งรวมแล้วจะมีมูลค่าสูงถึง 444 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในสิ้นสุดปีงบประมาณ 2012
Source : TechSpot
ที่มา: pantip.com
