อนุดิษฐ์ เล็งตั้งสภาไอซีที ภายหลังครม.เห็นชอบเบื้องต้น พรบ.สภาเทคโนโลยีฯ เตรียมนำเรื่องเข้าสู่กฤษฎีกาต่อ คาด 1 ปีเห็นเป็นรูปเป็นร่าง ชี้ช่วยเป็นตัวขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไอซีทีไทย ด้านนโยบาย WiFi ฟรี ต้องหยุดไว้ก่อนรอหลังน้ำลดจากที่ตอนแรกจะเปิด พ.ย.นี้ในบ้างพื้นที่
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (8 พ.ย.) โดยกระทรวงไอซีทีได้นำวาระเข้าที่ประชุมเพื่อขอความเห็นชอบใน ร่างพระราชบัญญัติสภาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งประเทศไทย พ.ศ. ... เพื่อให้มีการจัดตั้งสภาเทคโนโลนีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งประเทศไทยขึ้นมา โดยที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบในเบื้องต้นในตัวพรบ.สภาเทคโนโลยีฯดังกล่าวแล้ว
โดยขั้นตอนต่อไปจะนำพรบ.ดังกล่าวนำเข้าสู่การกลั่นกรองจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ต่อจากนั้นจะต้องนำเข้าครม.เห็นชอบอีกครั้ง ก่อนจะเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร เพื่อตั้งคณะกรรมาธิการในการดูกฏหมายอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะออกมาเป็นพระราชบัญญัติสภาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งประเทศไทย พ.ศ. ... อย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตามกฏหมายฉบับดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อเป็นช่องทางในการตั้งสภาไอซีทีขึ้นมา เนื่องจากเล็งเห็นว่าธุรกิจ และผู้ประกอบการไอซีทีในประเทศไทยมีทั้งหน่วยงานของภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ดังนั้นสภาดังกล่าวจะเป็นเสมือนศูนย์กลางของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง หรือเป็นเวทีในการให้ธุรกิจไอซีทีเหล่านั้นใช้เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไอซีทีของประเทศ
ทั้งนี้สภาไอซีทีดังกล่าวจะมีกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นผู้กำกับดูแลพรบ.ตามกฏหมาย พร้อมทั้งมีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
“กระบวนการในตอนนี้ไม่ได้อยู่ในขั้นตอนที่เกียวกับกระทรวงไอซีทีแล้ว ดังนั้นจึงไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเห็นสภาไอซีทีเป็นรูปเป็นร่างเมื่อใด ซึ่งโดยปกติกระบวนการร่างกฏหมายทั่วไปจะแล้วเสร็จประมาณ 1 ปีเป็นอย่างน้อย”
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าในปี 2553 ที่ผ่านมาประเทศไทยมีมูลค่าในกลุ่มอุตสาหกรรมไอซีทีทั้งหน่วยงานภาคเอกชน และภาครัฐสูงถึง 6 แสนกว่าล้านบาท และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในทุกปีที่ผ่านมา
อนุดิษฐ์ กล่าวต่อว่า ขณะที่ความคืบหน้านโยบายบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย หรือ Wi-Fi ฟรีทั่วประเทศภายใน 1 ปี หลังเข้ารับตำแหน่งนั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ตั้งเป้าจะเปิดให้บริการเบื้องต้นในบางพื้นที่ก่อนประมาณช่วงเดือน พ.ย.นี้ และจะครบ 20,000 จุดทั่วประเทศก่อนปีใหม่
ล่าสุดนโยบายดังกล่าวอาจต้องล้าช้าออกไปก่อนเนื่องจากประสบปัญหาอุทกภัยในประเทศ ซึ่งไม่ได้เกิดจากความล้าช้าทางด้านเทคนิค หรืองบประมาณแต่อย่างใด เนื่องจากได้วางแผนปฎิบัติการณ์เรียบร้อยแล้ว
“ทุกอย่างในตอนนี้ต้องหยุดไว้ก่อน สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือต้องนำทรัพยากรบุคลากรที่มีอยู่ของกระทรวงทั้งหมดช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยก่อน ส่วนเรื่องอื่นๆต้องรอดำเนินการภายหลังน้ำลด แต่ก็ได้สั่งการให้ ทีโอที และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้านโยบายดังกล่าวในพื้นที่ที่ไม่ประสบอุทกภัย”
Company Relate Link :
ICT
ที่มา: manager.co.th
