โกดัก จำใจขายธุรกิจเซ็นเซอร์รับภาพให้แก่บริษัท แพลทตินั่ม อีคิวตี้ (Platinum Equity) เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้ ขณะที่รายละเอียดทางด้านการเงินไม่มีการเปิดเผย แต่อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนมือในครั้งนี้ส่งผลให้อดีตบริษัทภาพถ่ายชื่อดังก้าวหน้าไปอีกขั้นของเป้าหมายทางการเงินที่ต้องการให้บรรลุผลภายในสิ้นปีนี้ เพื่อเป็นการเอาใจนักลงทุน และยังคงดำเนินงานในธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง
โดยนับเป็นอีกครั้งที่บริษัทภาพถ่ายที่เจริญรุ่งเรืองต้องเผชิญกับช่วงที่เวลาที่ยากลำบากเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา และยังคงไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆ เพิ่มเติม ซึ่งที่ผ่านมาโกดักได้ยุติการผลิตกล้องฟิล์มในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และยุโรปตะวันตกเมื่อปี 2005 และได้เปลี่ยนการดำเนินงาน มามุ่งเน้นเป็นธุรกิจดิจิตอลแทน แต่ก็ยังต้องพบกับความสำเร็จที่มีอยู่อย่างจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการยากสำหรับบริษัทที่สูญเสียรายได้มากถึง 137 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในไตรมาสที่สี่ รวมถึงลดการจ้างงานลงอีก 4,500 อัตราและขายธุรกิจ OLED ให้แก่แอลจี สำหรับการขายธุรกิจเซ็นเซอร์รับภาพนั้นถือเป็นไม้ตายสุดท้ายที่จะรักษาบริษัทไว้ให้ดำเนินการต่อเนื่องได้ สอดคล้องกับการรายงานจาก วอลล์ สตรีท เจอนัล ก่อนหน้าที่ระบุว่า โกดักกำลังพยายามที่จะรักษาธุรกิจการพิมพ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่โกดักรายงานว่าพวกเขาจะต้องพบกับปัญหาการดำรงอยู่ในธุรกิจในปีถัดไปจนกว่าจะสามารถขายสิทธิบัตรหลักหรือเพิ่มเงินขึ้นด้วยการขายหนี้ สำหรับธุรกิจเซ็นเซอร์รับภาพของโกดักนั้นเป็นส่วนหนึ่งในไลน์สินค้าดิจิตอล และยังมีรายงานว่าโกดักจะยังคงสามารถเข้าถึงเครื่องมือต่างๆ ได้อยู่ นอกจากนี้ผู้ซื้อเทคโนโลยี แพลทตินั่ม อีคิวตี้ ยังจะได้รับอาคารพื้นที่ขนาด 263,000 ตารางเมตร ที่เมืองโรเชสเตอร์ นิวยอร์ก ที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของการวิจัยและผลิตสินค้าด้วย
Source : TechSpot
ที่มา: pantip.com
