Author Topic: “เอ ศุภชัย” เผยนาทีตาเหลือกหนีน้ำท่วม บอกคว้าแต่กระเป๋าแอร์เมสนับ 10 ใบ เสื้อผ้าไม่ได้เอาม  (Read 1332 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai




“เอ ศุภชัย” เล่าวินาทีหอบกระเป๋าแอร์เมสนับ 10 ใบหนีน้ำท่วมออกจากบ้านย่านวัชรพล เผยสุดฮาตัวเองตื่นเต้นเห็นน้ำท่วมบ้านจนทำตัวไม่ถูกคว้าได้แต่กระเป๋า แม้กระทั่งเสื้อผ้ายังลืมขนออกมา โชคดีน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ไม่ได้รับผลกระทบต่องานที่รับไว้ เพราะส่วนใหญ่รับงานต่างจังหวัด
       
       เป็นผู้จัดการส่วนตัวดาราดังหลายต่อหลายคนและก็มีชื่อเสียงไม่แพ้เด็กในสังกัด สำหรับ “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” ที่งานนี้มีภาพเจ้าตัวขนกระเป๋าแอร์เมสของสะสมสุดหวงนับ 10 ใบขึ้นเรือหนีน้ำท่วมออกจากบ้านย่านวัชรพล ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวบันเทิงผู้จัดการออนไลน์ จึงต่อสายตรงถึงนักปั้นมือทอง เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น พร้อมขำตัวเองที่ไม่มีสติเมื่อเจอเหตุการณ์น้ำท่วมบ้านในวินาทีนั้นว่า…
       
       “ตอนแรกเราคิดว่าที่บ้านที่ซอยวัชรพลน้ำจะไม่ท่วม คือก่อนหน้านี้ไม่นานเราเพิ่งไปทำงานที่เกาหลีกับทางมิสทีน แล้วคราวนี้กลับมาถึงก็ดีใจว่าน้ำบ้านเราไม่ท่วม ตื่นมาตอนเช้ากะว่าจะมาออกกำลังกายว่ายน้ำซะหน่อย ปรากฏเดินออกมาหน้าบ้านเปิดประตูออกมา น้ำเข้ามาในบ้านถึงกลางเข่าเลย ทุกอย่างที่บ้านหมดเลยไม่มีเหลือถังแก๊สก็ลอยหมด เราเองก็ตื่นเต้นไม่รู้จะทำอย่างไร พอดีเจ้าของมีสทีนเขาซื้อเรือแจกพนักงานของเขาก็เลยขอเขามาลำนึง คนเรือก็มาเลยเราก็เลยเอาของมีค่าขึ้นเรือก่อน คือของสะสมคนส่วนใหญ่จะเป็นกระเป๋า ใครเห็นก็ตลกเพราะตาเหลือกตาลนวิ่งออกมาจากบ้าน(หัวเราะ) มันตลกมาก”
       
       “แล้วก็มีเรื่องตลกกว่านี้อีก คือเราเพิ่งซื้อพรมแอร์เมสมา 3 ผืน ผืนละ 3-4 แสนบาท 3 ผืนก็เป็นล้านแล้ว เราเองก็ขี้เหนียวกลัวว่าโจรจะขึ้นบ้านไปขโมยพรม ก็เลยเอาพรมแอบไว้ใต้เตียงห้องณเดชน์ สุดท้ายลืมพรมค่ะ สุดท้ายต้องเอาเรือไปขนพรมออกมาหนัก 2 กิโลกรัม นี่เพิ่งออกมาจากบ้านที่ลาดพร้าวและก็เพิ่งมาถึงบ้านที่วัชรพลเมื่อกี้ ตอนนี้กำลังม้วนพรมขึ้นเรืออยู่”
       
       “ส่วนเสื้อพ่งเสื้อผ้าไม่เอาออกมาสักชุดเลยค่ะ คือเราไม่คิดว่าน้ำจะท่วมเลยไม่ได้ป้องกัน เราก็คิดว่าบ้านเราเลิศเลอเพอร์เฟคซะขนาดนี้คงไม่ท่วมหรอก ก็เลยไม่ได้ป้องกันอะไร(หัวเราะ) ส่วนน้องๆ ในสังกัดตอนนี้ก็แยกกันอยู่เป็นการชั่วคราว อย่างหมาก หรือ ณเดชน์ เดี๋ยวน้ำลดค่อยเจอกันใหม่ แต่โชคดีว่าเขาก็ซื้อบ้านใกล้ๆกับเรา ก็เลยเผชิญชะตากรรมเดียวกัน (หัวเราะ)”
       
       “ถ้าถามเรื่องมูลค่าความเสียหายก็ยังไม่แน่ใจ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นที่ดิน ที่ปลูกพืชพัก ปลูกผลไม้มากกว่า อย่างเลี้ยงปลานิลแดงเป็นหมื่นตัว ตอนนี้ก็หายไปกับน้ำแล้ว หรือสวนกล้วยที่ตอนนี้กำลังงามเลย ก็จม สวนมะยงชิดก็ท่วมเหมือนกันครับ แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะว่าหลายๆ คนเขาก็ท่วมเหมือนกับเรา มีสุขก็ต้องสุขด้วยกัน มีทุกข์เราก็ทุกข์ด้วยกัน ไม่เป็นไรครับ”
       
       “ก็อยากให้ทุกคนมีกำลังใจสู้ต่อ อย่างเรายังพอทำมาหากินได้ แต่หลายคนไม่สามารถทำงานได้ คือเราเองก็ได้ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามที่ต่างๆ เห็นแล้วก็รู้สึกสงสาร ยังไงก็ฝากบอกถึงทุกๆ ท่านด้วยว่าตอนนี้ผู้ประสบภัยที่เขตสายไหมกำลังได้รับความเดือดร้อน ยังต้องการความช่วยเหลืออีกจำนวนมากครับ ยังไงก็สามารถมาช่วยเหลือกันนิดนึง”
       
       ส่วนผลกระทบเรื่องงานผู้จัดการคนดังเผยว่า…“ถามว่าได้รับผลกระทบเรื่องงานหรือรายได้ของเด็กในสังกัดมากน้อยแค่ไหน คือเราโชคดีมากที่งานไม่ได้แคนเซิล เพราะงานที่รับส่วนใหญ่จะเป็นงานต่างจังหวัดที่อยู่ภาคอื่นๆ เป็นส่วนใหญ่ ไม่มีงานภาคกลางที่น้ำท่วมเลยก็ถือว่าโชคดีไปครับ”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)