โซนี่ ตกลงเห็นชอบเข้าซื้อหุ้นของอีริคสัน 50% หรือคิดเป็นตัวเลขสูงถึง 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในกิจการร่วมค้าของพวกเขา 'โซนี่อีริคสัน' แล้ว มีผลทำให้กิจการผลิตโทรศัพท์มือถือทั้งหมดตกเป็นบริษัทลูกของโซนี่
โดยอีริคสันระบุว่า 'การทำงานร่วมกัน' ระหว่างผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคม และผู้ผลิตโทรศัพท์กำลังจะหมดบทบาทลงแล้ว แต่ก็มีผู้สังเกตุการณ์บางรายคาดว่า ข้อตกลงที่เกิดขึ้นนั้น จะทำให้โซนี่หันมารวมธุรกิจสมาร์ทโฟนเข้ากับเกมและแท็บเล็ต "กว่าสิบปีที่ผ่านมาเราได้สร้างกิจการร่วมค้าให้เป็นปึกแผ่น อันที่เกิดจากความเข้าใจในตัวสินค้าคอนซูเมอร์ และผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นการจับคู่ที่ยอดเยี่ยมต่อการพัฒนาคุณสมบัติของโทรศัพท์ และในวันนี้มันก็เดินทางมาถึงขั้นตอนที่มีความเท่าเทียมกันแล้ว กับการที่โซนี่เข้าซื้อหุ้นในโซนี่อีริคสัน และทำให้มันเป็นส่วนหนึ่งของความหลากหลายของสินค้าคอนซูเมอร์ รวมถึงเราจะมุ่งเน้นไปที่การเชื่อมต่อทุกอุปกรณ์ให้ดียิ่งขึ้นโดยใช้การวิจัยและพัฒนา ซึ่งการที่เราครอบครองสิทธิบัตรก็จะทำให้เข้าใจในการเชื่อมต่อของโลกอย่างแท้จริง" Hans Vestberg ประธานบริหารและซีอีโออีริคสัน อธิบาย นอกจากนี้ ข้อตกลงส่วนหนึ่งของการเข้าซื้อดังกล่าว โซนี่ยังจะได้รับสิทธิบัตรทั้งหมดเป็นจำนวนห้าชุดที่ซึ่งจำเป็นต่อการผลิตโทรศัพท์ และจะได้รับลิขสิทธิ์ข้อตกลงเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาของอีริคสันอีกด้วย "การเข้าซื้อกิจการสำหรับโซนี่และอีริคสัน จะทำให้มันสามารถสร้างความแตกต่างให้แก่ผู้บริโภคที่ต้องการการเชื่อมต่อคอนเท้นได้ในทุกที่ที่ต้องการ" ประธานโซนี่ Howard Stringer อธิบายก่อนจะทิ้งท้ายว่า "มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ผมคิดว่าวิเศษมาก" แต่อย่างไรก็ดี การควบรวมกิจการในครั้งนี้ น่าจะเป็นการผลักดันให้บริษัทจากแดนปลาดิบก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งการแข่งขันที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับคู่แข่งระดับบิ๊กอย่างซัมซุง และแอปเปิ้ล ถึงแม้ว่าจะมีเสียงกังขาตามออกมาว่า บริษัทยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นรายนี้จะเดินหน้าไปในทิศทางไหนก็ตาม
Source : TechSpot
ที่มา: pantip.com
