“โย่ง อาร์มแชร์” เผยตอนนี้กำลังเรียนตัดชุดเจ้าสาวผ่านยูทูป ตั้งใจอยากตัดให้ “ก้อย” ใส่เองกับมือ เผยหากน้ำยังท่วมอยู่อาจต้องเลื่อนแต่งไปก่อน แต่ใจก็อยากรักษาสัญญาที่จะแต่งภายในปีนี้ให้ได้ ส่วนเรื่องสินสอดบอกไม่สำคัญเพราะใช่ว่าจะการันตีความหนักแน่นในรักได้
เป็นคู่รักคู่หวานที่หลายๆ คนแอบอิจฉา หลังนักร้องหนุ่มขวัญใจเด็กแนว “โย่ง อนุสรณ์ มณีเทศ” หรือ “โย่ง อาร์มแชร์” ออกมาประกาศข่าวดีจะแต่งงานกับนักร้องสาวสุดจี๊ด “ก้อย วลัยลักษณ์ มุสิกโปฏก” จากวงแซทเทอเดย์ เซย์โกะ เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าตัวได้เปิดเผยความคืบหน้างานแต่งว่า อาจจะต้องเลื่อนออกไปก่อนเพราะสถานการณ์น้ำท่วมยังไม่แน่นอน ซึ่งถ้าจะให้แต่งกันตอนนี้ก็คงรู้สึกแย่เพราะทุกคนกำลังลำบาก
“เรื่องแต่งตอนนี้น้ำท่วมอยู่ครับ ผมก็คุยกับคุณก้อยทุกวัน ตอนนี้ทุกคนกำลังเดือดร้อน ถ้าเราจะหนีไปมีความสุขก็กะไรอยู่ใจจริงก็อยากจะรักษาสัญญาอยู่ ทุกอย่างมันถูกเตรียมไว้ว่าจะแต่งภายในปีนี้ คิดไว้ว่าถ้าน้ำยังไม่ลด แล้วแต่งจะตะขิดตะขวงใจและก็คงจะเสียใจไปอีกนาน ตอนนี้อยากให้กำลังใจผู้ประสบภัยไปก่อน”
“แต่ถ้าจะเลื่อนก็คงไม่ไกลไปกว่าเดิม อาจจะในปีนี้แต่ถ้าน้ำยังไม่ลดก็ภายในเดือนสองเดือน ซึ่งตอนนี้น้ำกำลังจ่อเข้ากรุงเทพมาแล้ว ผมว่าถึงตอนนั้นคงจัดงานยากแน่นอน แต่ถ้าทุกอย่างไม่มีอะไร น้ำไม่ท่วมก็คงต้องแต่งเพราะผมตั้งใจจะแต่งเดือนธันวาคม เพราะเป็นเดือนเกิดของผมและคุณก้อย แต่ก็เคยคุยเล่นๆ ว่าอยากแต่งช่วงปีใหม่เหมือนกัน เพราะทุกคนจะได้มาเคาท์ดาวน์ไปด้วยกัน”
“ตอนนี้กำลังฝึกตัดชุดแต่งงานให้คุณก้อย แต่ยังไม่ไปถึงไหนเลย จริงๆ คุณก้อยเขาเก่งตัดเย็บอยู่แล้ว ผมก็บอกเขาว่า เธอสอนตัดชุดแต่งงานให้ฉันหน่อยสิ ฉันจะตัดชุดให้เธอใส่ (หัวเราะ) ผมว่าทุกอย่างถ้าทำด้วยความตั้งใจแล้วมันก็ดี แต่ผมไม่รู้ว่ามันคือความโรแมนติกหรือเปล่า ถ้าเราตั้งใจทำสิ่งนั้นจะออกมาพิเศษเสมอ และตอนนี้กำลังคุยเรื่องฤกษ์ยามกันอยู่ สะดวกวันไหนก็เอาเลย”
“ส่วนธีมงานไม่อยากจะคิดเลย ยังไม่อยากบอก คือเราเปลี่ยนกันบ่อย ชอบกันหลายอย่าง อัพเดทเรื่องแต่งงานทุกวันอยากให้ออกมาดีสบายกระเป๋า ส่วนเรื่องสินสอดเราก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับตรงนี้ แต่ถ้ามันแสดงความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณผมก็ยินดี แต่ถ้าไม่จำเป็นที่จะต้องบอกตัวเงินเป็นสิบล้านหรือแหวนเพชรหลายๆ กะรัตผมเชื่อว่า มันบ่งบอกอะไรเกี่ยวกับความหนักแน่นเรื่องความรักไม่ได้เลย”
พร้อมเผยถึงแพลนหลังแต่งงานให้ฟังว่า...
“แต่งงานแล้วงานเพลงก็ยังทำเหมือนเดิม และคิดว่าคงสบายใจเหมือนเดิม สบายกว่าเดิมเหนื่อยน้อยลงจะได้ไม่กลับบ้านดึก ทำงานเสร็จก็อยู่ด้วยกันกับก้อยเลย ไม่ต้องไปส่งเขาที่บ้านแล้ว เรื่องการปรับเปลี่ยนชีวิตคู่ตอนนี้เราก็ปรับเปลี่ยนกันมาเป็นสิบปีแล้ว ตอนนี้เราก็อยู่ในสภาวะมองตาก็รู้ใจ รู้ว่าจะพูดอะไรกันแล้ว การปรับคิดว่าชีวิตคู่คงต้องปรับกันตลอดเวลา รากฐานความเชื่อใจคงสำคัญที่สุด ซึ่งผมกับก้อยมีอยู่แล้วครับ”
“แต่งงานแล้วจะมีลูกเลยไหม ตั้งใจว่าจะมี แต่ถ้าน้ำยังท่วมอยู่ก็ยังไม่อยากให้ลูกออกมาว่ายน้ำได้เร็วกว่ากำหนดครับ (หัวเราะ) เซอร์ไพร์สเรื่องเพลงในงานแต่งมีแน่นอนครับเพราะเขาเป็นผู้หญิงที่พิเศษมาก เพราะฉะนั้นผมก็คงต้องทำอะไรที่ชีวิตผมทำให้เขาได้ ผมพร้อมมอบให้เขาได้ เขาก็คงรู้ไว้แน่ ก็เกริ่นไว้ เขาคงเดาถูก ของขวัญอย่างอื่นก็มีแน่นอน อย่างชุดแต่งงานคุณก้อยผมจะตัดด้วยมือของผมเอง ก็เรียนผ่านยูทูป แต่ผมไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่ไปออกคอนเสิร์ตบ่อย”
ที่มา: manager.co.th