Author Topic: iPad แชร์หด จาก 96% เหลือ 67%  (Read 985 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

iPad แชร์หด จาก 96% เหลือ 67%
« on: October 25, 2011, 02:17:27 PM »

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


iPad 2 แท็บเล็ตรุ่นล่าสุดของแอปเปิล ปรากฏว่าแอปเปิลกำลังสูญเสียส่วนแบ่งตลาดแท็บเล็ตโลกไป เพราะการบุกหนักของคู่แข่งอย่างแอนดรอยด์

แม้จะมีตัวเลขยืนยันชัดเจนว่ายอดจัดส่งเพิ่มขึ้นถึง 20% เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา แต่วันนี้ไอแพด (iPad) แท็บเล็ตของแอปเปิลกำลังตกที่นั่ง"ส่วนแบ่งการตลาดโลกหดหาย" เพราะการบุกตลาดของกองทัพแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ส่งผลให้ไตรมาสที่ผ่านมา ไอแพดมีส่วนแบ่งตลาดลดลงเหลือ 67% ขณะที่แท็บเล็ตแอนดรอยด์ส่วนแบ่งพุ่งกระฉูดเป็น 27%
       
       บริษัทวิจัย Strategy Analytics รายงานสถานการณ์ตลาดแท็บเล็ตโลกช่วงไตรมาสที่ผ่านมา (กรกฎาคม-กันยายน) ว่าเบอร์หนึ่งในตลาดอย่างไอแพดนั้นมีส่วนแบ่งตลาดลดลงจาก 96% ในไตรมาสก่อนหน้า เหลือ 67% ในไตรมาสนี้
       
       ตัวเลขส่วนแบ่งตลาดของไอแพดที่ลดลงนั้นไม่ได้แปลว่าไอแพดได้รับความนิยมน้อยลง เพราะล่าสุด แอปเปิลประกาศยอดขายไอแพดในไตรมาสที่ผ่านมาที่ 11.12 ล้านเครื่อง สูงกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่ขายได้ราว 9.2 ล้านเครื่อง แต่สาเหตุสำคัญคือการบุกตลาดของกองทัพแท็บเล็ตแอนดรอยด์ที่ทำให้ส่วนแบ่งตลาดขยายตัวเป็น 27%
       
       การจัดส่งไอแพดที่เพิ่มขึ้นนั้นคิดเป็นอัตราเติบโต 164% เมื่อเทียบกับปีก่อน (จาก 4.2 ล้านเครื่องเป็น 11.12 ล้านเครื่อง) แต่เมื่อเทียบไตรมาสแรกกับไตรมาส 2 ของปีนี้ อัตราการเติบโตจะคิดเป็น 96.4% และจากไตรมาส 2 กับไตรมาส 3 จะคิดเป็นอัตราการเติบโต 20% ทั้งหมดนี้ Tom Mainelli นักวิจัยของ IDC ระบุว่าไอแพดนั้นอยู่ในระดับที่เติบโตช้า เนื่องจากข้อจำกัดด้านราคาและวงจรการซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่ของผู้บริโภค
       
       แต่สำหรับแอนดรอยด์ อัตราการเติบโตเมื่อเทียบกับปีที่แล้วนั้นทะลุหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ (จาก 0.1 ล้านเครื่องเป็น 4.5 ล้านเครื่อง) ทำให้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจาก 2.3% ในไตรมาส 3 ปีที่แล้ว มาเป็น 27% ในไตรมาสนี้ ถือเป็นอัตราการเติบโตที่สูงเกินกว่าแพลตฟอร์มอื่นอย่างไม่เห็นฝุ่น โดยแท็บเล็ตของไมโครซอฟท์คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 2.4% ขณะที่ QNX ของริมนั้นคิดเป็นแชร์ 1.2%
       
       ในเทศกาลจับจ่ายปลายปีไตรมาส 4 นักวิเคราะห์เชื่อว่าไอแพดจะได้รับผลกระทบจากสงครามราคาอย่างหนัก โดยเฉพาะเมื่ออเมซอน (Amazon) จะเริ่มวางจำหน่ายแท็บเล็ต Kindle Fire ในราคา 199 เหรียญช่วงดังกล่าว ขณะเดียวกัน การเปิดตลาดของแท็บเล็ตแอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่ Android 4.0 หรือ Ice Cream Sandwich ก็จะยิ่งสร้างความลังเลให้กับผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของไอแพด
       
       ทั้งหมดนี้ นักวิเคราะห์เชื่อว่ามีแนวโน้มสูงที่แอปเปิลจะตัดสินใจลดราคาไอแพด 2 รุ่น 16GB ที่รองรับเครือข่าย WiFi อย่างเดียวเหลือ 399 เหรียญ (จาก 499 เหรียญ) ในช่วงไตรมาส 4 หรือไม่ก็อย่างน้อยในช่วงที่ไอแพด 3 ถูกเปิดตัวในราคา 499 เหรียญขึ้นไป
       
       อย่างไรก็ตาม ส่วนแบ่งการตลาดเหล่านี้คำนวณจากยอดจัดส่งสินค้า ซึ่งมีความคลาดเคลื่อนจากยอดจำหน่ายจริง เช่นก่อนหน้านี้ ยักษ์ใหญ่เอชพี (HP) นั้นเคยประกาศว่าสามารถจัดส่งแท็บเล็ตมากกว่า 250,000 เครื่อง แต่ในตอนหลัง บริษัทค้าปลีกอย่างเบสต์บายกลับประกาศว่า แท็บเล็ตเอชพีนั้นมียอดจำหน่ายเพียง 25,000 เครื่องเท่านั้น โดยออกมาเรียกร้องให้เอชพีรับคืนแท็บเล็ตของตัวเองไป
       
       สำหรับตลาดรวมแท็บเล็ตไตรมาสที่ผ่านมา Strategy Analytics สรุปว่ามีอัตราการเติบโต 280% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2010
       
       Company Related Link :
       Apple

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
3072 Views
Last post June 07, 2010, 10:57:18 PM
by Nick
0 Replies
1769 Views
Last post June 23, 2010, 05:41:40 PM
by Nick
0 Replies
1426 Views
Last post July 30, 2010, 02:21:57 PM
by Nick
0 Replies
2006 Views
Last post August 06, 2010, 01:56:19 AM
by Nick
0 Replies
1666 Views
Last post August 23, 2010, 07:38:10 PM
by Nick
0 Replies
2450 Views
Last post September 06, 2010, 10:51:38 PM
by Nick
0 Replies
1998 Views
Last post September 22, 2010, 06:03:41 PM
by Nick
0 Replies
1805 Views
Last post October 06, 2010, 03:06:03 PM
by Nick
0 Replies
1979 Views
Last post November 03, 2010, 03:30:42 PM
by Nick
0 Replies
2638 Views
Last post August 03, 2011, 04:02:02 PM
by Nick