เหตุการณ์น้ำท่วมในประเทศไทยส่งผลต่ออุตสาหกรรมพีซีทั่วโลกไม่น้อย
แม้บอลไทยจะไม่เคยได้ไปบอลโลก แต่วิกฤตน้ำท่วมในประเทศไทยครั้งนี้กำลังมีทีท่าว่าจะส่งผลกระทบถึงอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์พีซีทั่วโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ล่าสุดมีการประเมินแล้วว่าฮาร์ดดิสก์ที่เป็นข่าวคึกโครมเรื่องขาดตลาดเพราะฐานการผลิตหลักในประเทศไทยจมบาดาล จะทำให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมพีซีโลกได้รับผลกระทบทุกหัวระแหง โดยเฉพาะยักษ์ใหญ่พีซีอย่างเดลล์และเอชพีซึ่งทำเงินจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับฮาร์ดดิสก์เป็นหลัก
เมื่อพีซีไม่สามารถจำหน่ายได้โดยไม่มีฮาร์ดดิสก์ บริษัทผลิตชิปคอมพิวเตอร์ (อุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์) และบริษัทผลิตซอฟต์แวร์ก็มีแนวโน้มได้รับผลกระทบโดยอ้อมจากวิกฤติน้ำท่วมไทยที่เกิดขึ้นด้วย
ขณะนี้เดลล์ (Dell) ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (พีซี) อันดับ 3 ของโลกกำลังอยู่ในภาวะหุ้นตกต่ำสุดขีดในช่วง 2 เดือน ผลจากหนึ่งในซัปพลายเออร์ซึ่งผลิตชิ้นส่วนให้คอมพิวเตอร์แบรนด์เดลล์อย่างเวสเทิร์น ดิจิตอล (Western Digital) ต้องปิดสายการผลิตใหญ่ในเมืองไทยเพราะพิษน้ำท่วม แนวโน้มการขาดแคลนฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจในเดลล์ซึ่งมีส่วนแบ่งรายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับฮาร์ดไดร์ฟมากกว่า 50% ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจจำหน่ายคอมพิวเตอร์พีซี คอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ และระบบสำรองข้อมูล
ไบรอัน มาร์แชล (Brian Marshall) นักวิเคราะห์บริษัท ISI Group ระบุว่าการปิดโรงงานผลิตฮาร์ดิสก์ไดร์ฟ 2 แห่งในไทยของบริษัทเวสเทิร์นดิจิตอลนั้นส่งสัญญาณกระทบถึงเดลล์อย่างชัดเจน โดยคาดว่าจะส่งผลถึงเดลล์และผู้ผลิตพีซีรายอื่นที่ต้องรอรับฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟจากบริษัทต่อเนื่องอีกหลายไตรมาส
เรื่องนี้สอดคล้องกับถ้อยแถลงของซีอีโอเวสเทิร์นดิจิตอล ซึ่งระบุว่าบริษัทจำเป็นต้องใช้เวลาหลายไตรมาสกว่าจะฟื้นฟูสายพานการผลิตของบริษัทให้เต็มกำลังตามปกติ
อย่างไรก็ตาม เดลล์ออกแถลงการณ์ว่าผลกระทบจากวิกฤติน้ำท่วมในไทยจะส่งผลกระทบถึงบริษัทเล็กน้อยเท่านั้นในไตรมาส 3 ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ต.ค.ที่จะถึงนี้ โดยเดวิด ฟริงค์ (David Frink) ประชาสัมพันธ์เดลล์ระบุว่ากำลังอยู่ระหว่างการประสานงานเพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเดลล์ในช่วงไตรมาส 4
ไม่เพียงเดลล์ที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ของเวสเทิร์นดิจิตอล แต่สำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่ายังมียักษ์ใหญ่ในโลกไอทีรายอื่นที่มีแนวโน้มได้รับผลกระทบเช่นกัน จุดนี้มาร์แซลระบุว่าเอชพี (Hewlett-Packard) ผู้จำหน่ายคอมพิวเตอร์พีซีเบอร์ 1 ของโลกนั้นมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวกับฮาร์ดไดร์ฟราว 44% ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นจนทำให้มูลค่าหุ้นของเอชพีดิ่งลงเช่นกัน
บลูมเบิร์กเชื่อว่า ยักษ์ใหญ่พีซีสัญชาติจีนอย่างเลอโนโว (Lenovo) และเอเซอร์ (Acer) ก็อาจได้รับผลกระทบโดยอ้อมเช่นกัน
โดยสรุป มูลค่าหุ้นเดลล์ลดลง 5.4% เมื่อวันศุกร์ (21) ที่ผ่านมา ต่ำกว่าเอชพีที่มูลค่าหุ้นลดลง 1.9% ในวันเดียวกัน สอดคล้องกับผู้ผลิตในอุตสาหกรรมผลิตชิปคอมพิวเตอร์ทั้งอินเทล (Intel) ซึ่งหุ้นตก 2.6% เอ็นวิเดีย (Nvidia) 5% ซึ่งคาดว่าจะได้รับผลกระทบเมื่อยักษ์ใหญ่พีซีเหล่านี้ไม่สามารถจำหน่ายคอมพิวเตอร์ที่ไร้ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ เมื่อยอดจำหน่ายรวมพีซีตกต่ำลง บริษัทซอฟต์แวร์อย่างไมโครซอฟท์จึงถูกมองว่าจะได้รับผลกระทบตามไปด้วย
สถานการณ์ล่าสุดของเวสเทิร์นดิจิตอลคือการประกาศว่าสถานการณ์น้ำท่วมอาจส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดของบริษัทราว 375-475 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งยังไม่นับค่าใช้จ่ายด้านการซ่อมแซมและค่าเปลี่ยนเครื่องจักร โดยผลประกอบการไตรมาส 1 ปีงบประมาณล่าสุดที่ผ่านมา บริษัทมียอดรายได้รวม 2.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ บนรายได้สุทธิ 239 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 1.01 เหรียญต่อหุ้น ตลอด 3 เดือนบริษัทมียอดจัดจำหน่ายฮาร์ดไดร์ฟทั้งสิ้น 58 ล้านยูนิต เพิ่มจากยอดจัดจำหน่ายฮาร์ดไดรฟ์ 51 ล้านยูนิตเมื่อไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว
ก่อนหน้านี้ เวสเทิร์นดิจิตอลยอมรับว่าบริษัทได้ขยายเวลาระงับการผลิตชั่วคราวของโรงงาน 2 แห่งในไทย เนื่องจากระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นได้ไหลทะลุแนวกำแพงกั้นน้ำของนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ซึ่งทำให้อุปกรณ์บางชนิดในสายการผลิตถูกน้ำท่วม โดยโรงงานของบริษัทในมาเลเซีย สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา จะเร่งปฏิบัติงานเพื่อผลิตฮาร์ดไดรฟ์ให้ทันความต้องการของตลาดในช่วงไตรมาสเดือนธ.ค.ที่จะถึงนี้
ทั้งหมดนี้ น่าสังเกตว่าบริษัทที่เป็นลูกค้าของซีเกท เทคโนโลยี คู่แข่งของเวสเทิร์นดิจิตอลกลับถูกมองว่าจะได้รับผลกระทบน้อยกว่า เช่น อีเอ็มซี (EMC) โดยแม้ซีเกทจะระบุว่าโรงงานทุกแห่งของซีเกทในไทยยังคงเปิดดำเนินการตามปกติ แต่เพราะการขนส่งชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์สู่โรงงานกำลังอยู่ในภาวะสะดุด ซึ่งบริษัทกำลังเร่งบริหารงานด้านซัปพลายเชนและการผลิตให้ได้ในเร็ววัน
***ประมวลข่าวน้ำท่วมที่เกี่ยวกับวงการไอที***
หวั่นน้ำท่วมไทยทำฮาร์ดดิสก์โลกขาดตลาด
โซนีจำใจ เลื่อนขาย"NEX-7"เพราะน้ำท่วม
Company Related Link :
Bloomberg
ISI Group
ที่มา: manager.co.th