เปิดตัวตามมาด้วยเช่นกันสำหรับบริการ iCloud ซึ่งเป็นข่าวอยู่พักใหญ่ และล่าสุดก็มีการจดทะเบียนและโดเมนเรียบร้อยแล้ว สำหรับการเปิดตัวในงาน WWDC 2011 ก็มีอะไรใหม่ๆ ให้เราได้เห็นกัน แต่คงมีหลายคนยังสงสัยว่า แล้ว iCloud คืออะไร? จะเอามาใช้งานกับเครื่อง iPhone, iPad, iPod touch, Mac หรือ PC ได้อย่างไร? งั้นเรามาดูความหมายและความสามารถคร่าวๆ เพื่อให้มองเห็นภาพกันก่อนครับ
iCloud คืออะไร?ก่อนอื่นลองตัดตัว “i” ออกไปก่อนครับ เหลือคำว่า “Cloud” แล้ว Cloud คืออะไร? Cloud ก็คือเมฆ หรือกลุ่มเมฆที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า คน 2 คนอาจมองเห็นก้อนเมฆก้อนเดียวกัน แต่อยู่คนละที่กันได้ ไม่ต้องยืนติดกัน เผลอๆ ห่างกันหลายกิโลเมตรยังมองเห็นก้อนเมฆเดียวกันได้เลย แล้วถ้าก้อนเมฆก้อนนั้นเป็นถุงเก็บข้อมูลอะไรก็ได้ ที่เราสามารถโยนขึ้นไปเก็บไว้ ไม่ว่าจะเป็น ไฟล์รูปถ่าย, วิดีโอ หรือข้อมูลอะไรก็ได้ที่เรามีอยู่ ก็คงจะเป็นการดี เพราะคนอื่นคงมองไม่เห็นไฟล์นั้น แล้วถ้ามีหลายคนต่างพากันโยนข้อมูลตัวเองขึ้นไปบ้างหละ? แน่นอนครับ ย่อมมีการจัดสรรปันส่วนและเข้ารหัสกันให้ถูกที่ถูกคน
คงจะพอมองเห็นภาพลางๆ กันได้บ้างแล้ว ทั้งหมดที่อ้างมา จะหมายถึงระบบ Cloud Computing เพราะเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลกับกลุ่มเมฆที่ว่านั้น หรือเรียกว่า “การประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ” ซึ่งเป็นลักษณะการทำงานของผู้ใช้คอมพิวเตอร์โยนข้อมูลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตขึ้นไปบนระบบ Cloud ซึ่งระบบ Cloud จะทำหน้าที่จัดสรรปันส่วนทรัพยากรให้กับผู้ต้องการใช้งาน โดยจะทำงานในลักษณะของเว็บแอปพลิเคชั่น (web application) ผู้ใช้งานจะทำงานผ่านเว็บบราว์เซอร์ ขณะที่ข้อมูลทั้งหมดจะถูกเก็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการ (Apple)
ส่วนคำว่า iCloud จะเป็นตราสินค้าหรือคำเรียกบริการของ Apple ที่มีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าแล้ว และเป็นผู้ถือสิทธิ์ห้ามบุคคลอื่นนำไปใช้ซ้ำอีกตามระยะเวลาที่ระบุไว้
iCloud ของ Apple สำหรับ iOS 5 มีวิธีทำงานอย่างไร?Apple นำระบบ Cloud มาใช้กับการระบบปฏิบัติการ iOS 5 เพื่อเก็บข้อมูลไฟล์เพลง, รูปภาพ, โปรแกรม, ปฏิทิน, เอกสารต่างๆ และไฟล์ข้อมูลอื่นๆ ผ่านทาง Wi-Fi แล้วจะนำมาใช้กับ iPhone, iPad, iPod touch, Mac หรือ PC ได้อย่างไร? มีขั้นตอนดังนี้
-iTunes in the Cloud – เพลงที่คุณซื้อผ่าน iCloud จะสามารถฟังผ่าน iPhone, iPad, iPod touch, Mac หรือ PC ได้ เช่น ซื้อเพลงผ่าน iPhone แล้วฝากไว้กับ iCloud เมื่อคุณใช้เครื่อง iPad ก็สามารถเรียกเพลงนั้นมาฟังที่ iPad ได้เหมือนกัน (ดาวน์โหลด iTunes ล่าสุด)
-Photo Stream – จะทำงานลักษณะเดียวกับการซื้อเพลง คือ เมื่อเราฝากรูปไว้กับ iCloud อุปกรณ์อื่นๆ ก็สามารถเรียกดูรูปนั้นได้เหมือนกัน
-Contacts, Calendar และ Mail – iCloud จะเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้ และแจ้งเตือนหรือ Push เตือนไปยังทุกอุปกรณ์ที่กำหนดไว้ ดังนั้นใช้เครื่องไหนก็อัพเดทเหมือนกัน
โดย Apple จะจัดสรรพื้นที่ให้ใช้ฟรีถึง 5GB และบริการนี้เปิดตัวพร้อม iOS 5 ประมาณช่วงปลายปีนี้ อ่านรายละเอียดความสามารถเพิ่มเติมได้ที่ Apple.cloud
เราคงจะมองเห็นภาพเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้นี้ออกแล้วใช่ไหมครับ? ว่าเราจะวางแผนจัดการกับข้อมูลของเราอย่างไร? จะฝากไว้กับ iCloud ซึ่งเปรียบเหมือน Hard Drive ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าหรือไม่? แล้วจะสะดวกและง่ายในการนำมาใช้งานกับเรามากแค่ไหน? แบ่งปันข้อมูลกันได้เลยครับ
อัพเดท : ทดลองใช้ iCloud ได้แล้วที่ iCloud.com
ที่มา : Apple.cloud, en.wikipedia, th.wikipedia