ญี่ปุ่นยอมทุ่มทุนกว่า 1.1พันล้านเยน หรือ 14ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในโครงการ 5 ปีกับการพัฒนาหุ่นยนต์กู้ภัยที่จะสามารถช่วยชีวิตมนุษย์จากเหตุการณ์ภัยพิบัติอย่างเช่น แผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์สึนามิ อย่างที่เข้าถล่มประเทศเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
โดยอ้างอิงตามบทความของ Nikkei Business Daily เครื่องมือดังกล่าวจะมี 3 ส่วน ได้แก่ ชุดเกราะภายนอกที่จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้มนุษย์, หุ่นยนต์ที่จะสามารถช่วยชีวิตผู้คนจากกองเศษหินหรืออิฐ และหุ่นยนต์ที่สามารถค้นหาบุคคลที่อยู่ในน้ำ แม้ว่าอุปกรณ์ที่คล้ายกันจะได้รับการพัฒนาแล้วในญี่ปุ่น อาทิ Enryu ที่เป็นหุ่นยนต์ที่มีแขนที่แข็งแรงสองแขน เพื่อเคลื่อนย้ายซากปรักหักพังต่างๆ ซึ่งเพิ่งมีการผ่านขั้นตอนการสร้างต้นแบบ และมีการสาธิตเพื่อทดลองใช้งานจริงนอกสถานที่ในการจัดนิทรรศการ โดยญี่ปุ่นมีชื่อเสียงในด้านความเชี่ยวชาญในการพัฒนาหุ่นยนต์และเป็นบ้านหลักในอุตสาหกรรมหุ่นยนต์หนึ่งในสามของโลกเลยก็ว่าได้ (เมื่อประมาณปี 2009) แต่ทั้งนี้ยังขาดระดับการทำงานในเชิงทหาร และยังเผชิญหน้ากับความล้มเหลวในการดำเนินงานจากภัยพิบัติเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยความพยายามระหว่างประเทศ ในการใช้ ROVs เพื่อค้นหาผู้ประสบภัยของทางชายฝั่งทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ไม่ได้ค้นพบผู้ประสบภัยใดๆเลย มีเพียงแต่ Paro หุ่นยนต์ที่ผลิตขึ้นภายในประเทศ ที่ถูกส่งไปอำนวยความสะดวกผู้ประสบภัยทางตอนเหนือเท่านั้น โดยส่วนมากของหุ่นยนต์ ถูกใช้ในโรงงานนิวเคลียร์ Daiichi ในฟูกูชิมา แต่ส่วนใหญ่ก็มาจากต่างประเทศทั้งสิ้น โดย 5 ปีของโครงการดังกล่าวนี้ จะเริ่มต้นในเดือนเมษายนปีหน้า ภายใต้การดำเนินงานของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กับหน่วยงานเทศบาลดับเพลิงและหน่วยงานการจัดการภัยพิบัติและเทศบาลท้องถิ่น เพื่อสร้างหุ่นยนต์ที่มีประโยชน์ใช้งานตอนเกิดภัยพิบัติ
Source : CNET
ที่มา: pantip.com