รมว.ไอซีที เผยใครปล่อยข่าวลือ หรือแอบอ้างเรี่ยรายเงินช่วยน้ำท่วม บนโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทั้งตั้งใจไม่ตั้งใจ มีความผิดพรบ.คอมฯ มาตรา 14 จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แนะประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับข่าวสารก่อนหลงเชื่อ
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยถึงกรณีล่าสุดที่มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ในชื่อ @tepwadol18 ได้โพสต์ข้อความเชิญชวนบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยแอบอ้างพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์หนึ่ง แล้วให้โอนเงินเข้าธนาคารของตนเอง จนมีประชาชนหลายคนหลงเชื่อโอนเงินไปให้จำนวนหนึ่ง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดดังกล่าวได้เมื่อวานนี้ (12 ต.ค.)
โดยกรณีข้างต้น ต้องยอมรับว่าในช่วงนี้มีบุคคลที่ใช้ช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก อาทิ ทวิตเตอร์ เฟสบุ๊ก ออกมาแอบอ้าง และปล่อยข่าวลือต่างๆ เป็นจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม และการปล่อยข่าวลือถึงน้ำท่วมตามสถานที่ต่างๆที่ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจากภาครัฐ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม จนทำให้ประชาชนแตกตื่นในตอนนี้
“ผู้ที่กระทำความผิดโดยตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็ดีในการปล่อยข่าวลือให้พี่น้องประชาชนแตกตื่น รวมไปถึงกรณีแอบอ้างพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์หนึ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นไปนั้น มีความผิดในหลายมาตรพรบ.คอมฯ เบื้องต้นมีความผิดมาตร 14 จำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
ในเบื้องต้นทางกระทรวงได้ขอความร่วมมือจากสื่อต่างๆในการประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบถึงการใช้วิจารณญาณในการพิจารณาก่อนจะเชื่อข้อมูลข่าวสารต่างๆจากช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก เนื่องจากในช่วงนี้มีข้อมูลทั้งถูกต้อง และไม่ถูกต้องออกมาจึงจำเป็นอย่างยิ่งในการตรวจสอบข้อมูลเหล่านั้นก็ตัดสินใจเชื่อ
ทั้งนี้รัฐบาลโดยศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ศปภ. จึงได้เปิดช่องทางข้อมูลข่าวสารที่เชื่อถือได้ที่สุดผ่านเว็บไวต์
www.Floodthailand.net ซึ่งเป็นช่องทางเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าไปรับข่าวสารได้อย่างถูกต้อง และไม่ต้องกังวลว่าเป็นข่าวลือ หรือมีใครแอบอ้างอีก เพราะเป็นข้อมูลที่ภารรัฐตรวจสอบแล้ว
อย่างไรก็ดีสำหรับผู้ที่กระทำความผิดโดยให้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อบุคคลอื่น ไม่ว่าจะรู้เท่าไม่ถึงการ หรือโดยตั้งใจทำก็ดี ผู้กระทำความผิดดังกล่าวจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ (พรบ.คอม) มาตร 14 (1) (2) ซึ่งกล่าวว่าผู้ใด (1) เป็นผู้นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
(2) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิด ความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ซึ่งในมาตรา 14 ระบุว่า ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในเครือข่างสังคมออนไลน์ในปัจจุบันทั้ง ทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ก ก็ได้ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกไปยังประชาชน ยกตัวอย่างเช่น กรณีที่มีการโพสต์ภาพชั้นวางสินค้าตามห้างต่างๆ ไม่มีสินค้าวางจำหน่าย จึงก่อให้เกิดการกักตุนสินค้าล่วงหน้า ทำให้ประชาชนจำเป็นต้องใช้วิจารณญาณ ก่อนเชื่อถือข่าวลือใดๆที่เกิดขึ้น
Company Relate Link :
ICT
ที่มา: manager.co.th