ตามคำสัญญา แอปเปิ้ลได้ทำการปล่อยระบบปฏิบัติการมือถือรุ่นถัดไป iOS 5 ออกมาเมื่อวานนี้ โดยจะช่วยเสริมสร้างการทำงานที่ดีขึ้นให้กับไอโฟน, ไอแพด และไอพอดทัช ซึ่งมาพร้อมการเชื่อมต่อซิงโครไนซ์ไร้สาย, สนับสนุน iCloud และ Notification Center ใหม่
โดยก่อนที่ผู้ใช้จะสามารถทำการอัพเดตระบบปฏิบัติการเป็น iOS 5 ได้นั้น จะต้องทำการรัน iTunes 10.5 ที่ถูกปล่อยออกมาก่อนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สำหรับหลายๆคนที่ติดตั้ง iOS 5 จะมีการแสดงเวลาสุดท้ายที่พวกเขาเชื่อมต่ออุปกรณ์ iOS เข้ากับคอมพิวเตอร์ผ่านทาง USB เพื่อแบ๊คอัพ, ซิงโครไนซ์ และอัพเดตผ่านทาง iTunes โดยซอฟท์แวร์รุ่นปรับปรุงนี้ จะช่วยให้ผู้ใช้บรรลุงานทั้งหมดแบบไร้สายโดยไม่จำเป็นต้องใช้สายเคเบิ้ล ซึ่ง iOS 5 นี้ จะสามารถใช้งานได้กับไอโฟน 4, ไอโฟน 3จีเอส, ไอแพด 2, ไอแพดรุ่นแรก, ไอพอดทัชรุ่นที่ 4 และไอพอดทัชรุ่นที่ 3 โดยจะมีขนาดดาวน์โหลดอยู่ที่ 700 เมกกะไบท์กว่าๆ แต่ในอนาคตของการปรับปรุงรุ่นเดลต้าที่จะอัพเดตการส่งแบบไร้สาย จะมีขนาดที่เล็กกว่ามาก และสามารถติดตั้งได้โดยตรงจากไอโฟน, ไอแพด หรือไอพอดทัช โดยการปรับปรุงดังกล่าว ยังจะสามารถใช้ได้กับ Apple TV อีกด้วย โดย iOS 5 มาก่อน 2 วันที่จะเปิดจำหน่ายไอโฟน 4เอส ที่จะมาพร้อมระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุดนี้ด้วย โดย iOS 5 เวอร์ชั่น golden master ที่ถูกปล่อยออกมาให้นักพัฒนาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นตัวเดียวกันกับที่ส่งออกมาเมื่อวานนี้ โดยจะมาพร้อมคุณสมบัติใหม่กว่า 200 ฟีเจอร์ แต่ที่น่าสังเกตที่สุด น่าจะเป็น Notification Center ที่ช่วยให้ผู้ใช้ง่ายต่อการดูและจัดการการแจ้งเตือนในที่เดียวโดยไม่หยุดชะงัก ทั้งอีเมล, ข้อความ, คำร้องขอของเพื่อน และอื่นๆ อีกทั้งยังสามารถเลือกการแจ้งเตือนที่ต้องการดู แม้แต่ราคาหุ้นและสภาพอากาศปัจจุบัน, iMessage บริการส่งข้อความใหม่ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถส่งข้อความตัวอักษร, รูปภาพ, วีดีโอ, ตำแหน่ง และรายชื่อ ระหว่างอุปกรณ์ iOS ด้วยกันได้ง่าย แต่ทั้งนี้บริการดังกล่าวจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อ เป็นการส่งข้อความถึงกันระหว่างอุปกรณ์ที่รันด้วย iOS 5, Newsstand ช่องทางใหม่ในการซื้อและรับข่าวสารทางหนังสือพิมพ์ และนิตยสารแบบสมัครสมาชิก ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงสิ่งพิมพ์ต่างๆที่ชื่นชอบได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย, ฟังก์ชั่น Camera, Photos และ Twitter ที่มีการปรับปรุงใหม่ โดยกล้องจะสามารถเข้าถึงได้ด้วยทางลัดบนหน้าจอล็อค และง่ายต่อการใช้งานมากขึ้น, ฟังก์ชั่น Reminders, Calendar และ Mail โดย iOS 5 จะเพิ่มฟังก์ชั่นการทำงาน 'สิ่งที่ต้องทำ' ผ่านทางแอปฯ Reminders ซึ่งจะรองรับการแจ้งเตือนตามพื้นที่ เป็นต้น
Source : AppleInsider
ที่มา: pantip.com
