Author Topic: “ปูไข่” เลิกขี่ม้ามุ่งงานบันเทิง เผยที่ผ่านมาใช้เงินพ่อแม่ไป 20 ล้าน บอกได้เวลาหาเงินเลี้  (Read 991 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


      “ปูไข่” เตรียมโกอินเตอร์แสดงละครเวที “บ็อกซิงบอย” ที่ประเทศสิงคโปร์ โวแอฟริกาใต้ก็ซื้อละครให้ไปแสดงถึง 1 เดือนเต็ม หันหลังให้กีฬาขี่ม้าเรียบร้อยแล้วหวังเอาดีวงการบันเทิง เพราะขี่มาแล้ว 17 ปีใช้เงินพ่อแม่ไป 20 ล้าน ถึงเวลาหาเงินเลี้ยงครอบครัวบ้าง
       
       ก่อนหน้านี้เคยเป็นนักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทย แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจทิ้งบังเหียนเอาดีอยู่หน้ากล้องแทน สำหรับดาราหนุ่ม “ปูไข่ พงษ์สิรี บรรลือวงษ์” ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า ได้เลิกเล่นกีฬาขี่ม้ามานานถึง 4 ปีแล้ว บอกตอนนี้ตั้งหน้าตั้งตาเอาดีงานในวงการบันเทิงหวังดูแลครอบครัว อีกทั้งสิ้นเดือนตุลาคมนี้เตรียมโกอินเตอร์ นำละครเวทีบ็อกซิงบอยไปแสดงที่ประเทศสิงคโปร์
       
       “ผมเลิกขี่ม้ามา 4 ปีแล้วครับเลิกขาดเลย ถ้าไม่ใช่เล่นละครหรือว่าที่เอ็กเซ็กท์ให้เป็นสแตนด์อินหรือสอนใครก็ไม่ยุ่ง ผมขี่มา 17 ปีแล้วครับ มันโตเป็นผู้ใหญ่ควรจะพอแล้วควรที่จะดูแลครอบครัวได้แล้ว ก็เลยหันหน้าเข้าวงการเต็มตัวเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวบ้างเพราะตอนผมเรียนขี่ม้าผมใช้เงินคุณพ่อคุณแม่ 10-20 ล้าน ยังไม่รู้ชาตินี้จะหาคืนท่านได้หรือเปล่า อะไรที่เราจ่ายแทนท่านได้คงทำ ผมพูดตรงๆ ชีวิตนี้ผมอาจหาเงินหรือทำงานเก่งไม่ได้เท่าท่าน ด้วยงานที่เราทำด้วยมันเยอะมาก และก็เป็นสิ่งที่เราควรทำ”
       
       “ส่วนผลงานก็เร็วๆ นี้ละครเวทีบ็อกซิงบอยสิ้นเดือนนี้จะไปแสดงที่เอสพลานาดสิงคโปร์ โปรเจ็กต์ปีหน้าทางแอฟริกาใต้ซื้อไปเต็มๆ หนึ่งเดือนที่โจฮันเนสเบิร์ก กับเคปทาวน์ ตัวละครอาจมีการเปลี่ยนแปลงบ้างเพราะนักแสดงอาจคิวไม่ว่าง แต่ที่สิงคโปร์นี่ตัวละครเดิมเลยครับ ปีหน้ายังไม่มั่นใจว่าใครจะไปบ้าง บทอาจจะเปลี่ยนบ้างเพราะบางมุกฝรั่งเข้าใจ แต่ฉากบู๊ยังเหมือนเดิม ก็คงต้องฟิตเหมือนเดิม ฝรั่งเขาชอบหุ่นดีๆ แต่ทำให้ตัวใหญ่ขึ้น”
       
       “สิ้นปีนี้จะมีอีกเรื่องคือ ลิขิตฟ้าชะตาดิน ช่วงนี้อาจจะมีแต่บทร้ายๆ ตลอด (หัวเราะ) จริงๆ คุยกับทางค่ายแล้วเขาต้องการคนที่เล่นแล้วดูแข็งแรง เพราะบทร้ายถ้าเราเล่นไม่แข็งแรงมันจะกลืนไปกับบทพระนาง แล้วมันจะดูไม่แตกต่างพอไม่แตกต่างมันจะดูละครไม่สนุก จริงๆ บทร้ายมันก็สนุกนะเพราะว่ามันเป็นการระบาย เพราะเราไม่สามารถทำแบบนี้ในชีวิตประจำวันได้อยู่แล้ว แต่การเล่นบทร้ายมันจะสามารถเปิดโลกทัศน์ของนักแสดงที่จะเล่นได้มากกว่าเป็นคนน่ารักมีแต่คนชอบ”


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)