ผลสำรวจจากเอ็นดีซี ระบุว่า คอเกมชาวอเมริกันใช้จ่ายเงินมากถึง 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับอุปกรณ์วีดีโอเกม ดาวน์โหลดคอนเท้น และอุปกรณ์เสริม ในช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้ หรือเพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีที่ผ่านมา
โดยแบ่งเป็นการใช้จ่ายเงินราว 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในร้านค้าปลีกทั่วไป สำหรับการซื้อเกมและเกมพีซี และอีกราว 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เกมเมอร์อเมริกันจะหมดไปกับการสมัครสมาชิก ดิจิตอลดาวน์โหลด และโมบายล์เกม ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ยังต่ำยังกว่าการประมาณการในไตรมาสแรกที่มีถึง 1.85 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้าน Anita Frazier นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมจากเอ็นดีซี เปิดเผยว่า ขณะเดียวกันร้านค้าปลีกส่วนใหญ่ยังสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับอุตสาหกรรม การวิจัยของเราก็ยังครอบคลุมถึงการประเมินการใช้จ่ายรวมของผู้บริโภคเกี่ยวกับวิธีการเป็นเจ้าของ และประสบการณ์ในการเล่นเกม
รวมถึงโมบายล์แอพ และดาวน์โหลดดิจิตอลด้วย ขณะที่เว็บไซต์ CNET ชี้ว่า อุตสาหกรรมเกมกำลังอยู่ในช่วงขาลง เนื่องจากความต้องการที่ชะลอตัวทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ โดยยอดขายฮาร์ดแวร์อย่าง เกมคอนโซลพกพา นินเทนโด้ 3DS ก็ไม่เป็นไปตามที่บริษัทคาดหวังไว้ ที่ซึ่งขายไปได้เพียงแค่ 110,000 เครื่องในสหรัฐฯ ในไตรมาสที่สองเท่านั้น นอกจากนี้เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ยังมีรายงานออกมาด้วยว่า ยอดขายเกมอยู่ในอันดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2006 แต่อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่คาดว่าจะช่วยทำให้ยอดขายเกมในครึ่งไตรมาสที่สองโดดเด่นขึ้นมาได้นั่นก็คือเกม Battlefield 3 and Call of Duty: Modern Warfare 3 ที่เปิดตัวลงบนทุกแพลตฟอร์มเร็วๆ นี้ นั่นเอง
Source : TechSpot
ที่มา: pantip.com