Author Topic: ไดร์ฟกอล์ฟบ่อย ข้อกระดูกเสื่อมอาจถามหา  (Read 2707 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai

       “กอล์ฟ” จัดเป็นกีฬายอดนิยมของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะนักธุรกิจ ผู้บริหาร รวมไปถึงกลุ่มเยาวชนที่มุ่งมั่นจะเอาดีไต่เต้าไปสู่นักกีฬามืออาชีพ หากแต่การตีกอล์ฟ์ก็จัดเป็นกีฬาอีกประเภทหนึ่ง ที่ไม่ได้ให้แต่ความสนุกเพลิดเพลินใจเท่านั้น เพราะสิ่งที่ตามมาเพิ่มพร้อมความสนุกก็คือ การเกิดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ เอ็น หรือข้อต่อต่างๆ ของร่างกาย หากผู้เล่นปฏิบัติตนไม่ถูกวิธี

        ทั้งนี้ การเล่นกอล์ฟจึงมีหลายจุดที่ควรระวังร่างกายของผู้เล่น โดยเฉพาะในตำแหน่งที่พบว่าเกิดการบาดเจ็บได้ง่าย อาทิ บริเวณหลัง, ข้อไหล่, ข้อศอก, ข้อมือ และนิ้วมือ ซึ่งการบาดเจ็บในบริเวณใดมากจะขึ้นกับท่าทางของผู้เล่นเอง นักกอล์ฟหัดใหม่มักจะมีปัญหานิ้วล็อคเพราะจับแน่นเกินไป หรือท่าที่ต้องมีการบิดตัวในขณะตีอย่างแรงและรวดเร็ว เช่น ท่า Backswing, Downswing, Acceleration และ Ball Strike ถ้าผู้เล่นไม่ได้มีการเตรียมความพร้อมของกล้ามเนื้อ ก็อาจเกิดกล้ามเนื้อและเอ็นอักเสบ ทำให้ปวด เจ็บ และเกิดการอักเสบบวมได้

        ซึ่งนอกจากการอักเสบที่กล้ามเนื้อและเอ็นแล้ว บางท่านอาจเกิดการอักเสบและการเสื่อมของข้อต่อร่วมด้วย โดยในส่วนของวิธีรักษากล้ามเนื้อและเอ็นที่อักเสบ แค่พักการเล่นสักระยะก็หายได้ แต่ในกรณีที่เกิดการบาดเจ็บของข้อ อาจเนื่องจากแรงกระแทก การยืนซ้อมในท่าที่ผิด หรือการซ้อมไดร์ฟมากเกินไป ทำให้กระดูกอ่อนบริเวณข้อเกิดสึกกร่อนนั้น ในช่วงที่มีการอักเสบจะมีอาการปวดมาก

    สัญญาณเตือนภัย 

        นักกอล์ฟหลายท่านอาจยังไม่แน่ใจ ว่าอาการเจ็บที่คุณเป็นอยู่นั้น จะใช่โรคข้อเสื่อมหรือไม่ เรามีคำตอบ ทั้งนี้คุณสามารถสังเกตอาการของโรคข้อเสื่อมได้ โดยเริ่มจากมีอาการเจ็บปวดตามข้อ ที่มักจะเกิดบริเวณข้อเข่า นิ้วมือ ต้นคอ และปวดหลัง ข้อติดขัดขยับไม่ค่อยออก อาจมีเสียงลั่นดังในข้อคล้ายเสียงกระดูกเสียดสีกัน ข้ออักเสบบวม ซึ่งอาการจะค่อยเป็นค่อยไปและรุนแรงขึ้น ทำให้เกิดปัญหาเรื่องการเคลื่อนไหวของข้อทำได้น้อยลง กิจวัตรต่างๆ ที่เคยทำก็จะถูกจำกัดลงไปอย่างมาก

    การแก้ปัญหา 

         ในกรณีนี้ อาจจำเป็นต้องทานยาแก้ปวด และยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (ที่เรียกกันว่า เอ็นเสดส์ – NSAIDs) อักเสบร่วมด้วย เพื่อบรรเทาอาการปวดและลดการอักเสบ แต่จะมีข้อควรระวังเรื่องผลข้างเคียงต่อกระเพาะอาหารหรือลำไส้คือ กัดกระเพาะ ทำให้เกิดแผลในกระเพาะหรือลำไส้ได้ง่าย นอกจากนั้นการพักใช้งานข้อต่างๆ ชั่วคราวก็จะช่วยให้อาการดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้ยาเป็นการรักษาเพื่อบรรเทาอาการ ก็ไม่ได้เป็นการทำให้ข้อเข่าที่เสื่อมไปแล้วคงสภาพ หรือมีความแข็งแรงมากขึ้น หากแต่คุณควรดูแลร่างกายอย่างสม่ำเสมออีกด้วย

         ในปัจจุบันนอกจากการใช้ยาแก้ปวดข้อเพื่อบรรเทาอาการแล้ว วิทยาการสมัยใหม่ในปัจจุบัน ส่วนของอาหารก็เริ่มเข้ามามีบทบาทต่อการรักษาข้อเสื่อมมากขึ้น โดยมีการนำสารโปรตีน ประเภทคอลลาเจน ไฮโดรไลเซท ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของเนื้อเยื่อกระดูกที่หุ้มรอบส่วนปลายของกระดูกในข้อมารับประทาน ซึ่งการรับประทานคอลลาเจน ไฮโดรไลเซทไม่เพียงแต่สามารถเข้าไปทดแทนเนื้อเยื่อกระดูกอ่อนที่สึกกร่อนไปเท่านั้น แต่ยังไปกระตุ้นให้มีการสังเคราะห์คอลลาเจน (Collagen type II) ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในกระดูกอ่อนในข้อเพิ่มขึ้น ทำให้ข้อต่อต่างๆ แข็งแรงขึ้นด้วย ซึ่งจะช่วยให้การรักษาอาการปวดข้อและข้อเสื่อมมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น เพราะสาเหตุหลักของข้อเสื่อมคือการสูญเสียเนื้อกระดูกอ่อนนั่นเอง

       สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นกอล์ฟ ก็อย่าลืมเตรียมร่างกายทุกครั้งก่อนการเล่น ด้วยการอบอุ่นร่างกาย ยืดกล้ามเนื้อหลัง คอ แขน ขาเพื่อปรับสภาพร่างกาย และหลังการเล่นก็ผ่อนคลายกล้ามเนื้อด้วยการเดิน หรือเคลื่อนไหวร่างกายช้าๆ เพื่อปรับสภาพร่างกายให้กลับสู่สภาพเดิม นอกจากนี้การเล่นก็ควรคำนึงถึงอายุ ความ สามารถและใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม เพียงเท่านี้เราก็สามารถสนุกกับกีฬากอล์ฟไปได้อีกนาน สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องปวดข้อ ข้อเสื่อม สามารถขอหนังสือความรู้เรื่องข้อเสื่อม เพื่อฝึกท่าบริหารให้ข้อแข็งแรงได้


ที่มา: e-magazine.info


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)