Author Topic: กลิ่นปากแรง แปรงฟันก็ไม่หาย  (Read 1231 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai

        กลิ่นปากเป็นปัญหาหนึ่งที่สร้างความกังวลใจ และความรู้สึกไม่มั่นใจ สำหรับหลาย ๆ คน แม้ว่าจะพยายามใช้น้ำยาบ้วนปาก ยาอม หรือสเปรย์ดับกลิ่นปาก ก็ให้ผลแค่ชั่วครั้งชั่วคราว ถ้ายังไม่ได้รับการแก้ไขที่สาเหตุที่ถูกต้อง กลิ่นปากก็ยังคงอยู่ ซึ่งกลิ่นเหม็นนี้เกิดขึ้นได้คล้าย ๆ กับกลิ่นเหม็นที่เกิดจากส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ซึ่งเป็นผลมาจากแบคทีเรียกลุ่มที่ทำให้เกิดการย่อยสลายโดยไม่ต้องการอากาศ

          ดังนั้น บริเวณใดที่มีเศษอาหารตกค้าง แบคทีเรียก็ทำให้เกิดการบูดเน่าและมีกลิ่นเหม็นขึ้นได้ อะไรก็ตามที่มีผลให้มีเศษอาหารตกค้างหมักหมมก็จะทำให้เกิดกลิ่นปากได้ บริเวณที่จะพบบ่อย ๆ คือที่ลิ้น ร่องเหงือก ใต้ขอบเหงือก ส่วนอื่นที่สามารถพบได้อีกคือ บริเวณที่อุดฟัน ครอบฟันไม่พอดี การเป็นโรคปริทันต์ เหงือกอักเสบ มีฟันผุรูกว้าง ฟันปลอมชนิดถอดได้ ทำให้มีเศษอาหารตกค้างในบริเวณดังกล่าว จึงเป็นต้นเหตุที่สำคัญที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก ดังนั้น จึงควรแปรงลิ้นหลังการแปรงฟันทุกครั้ง และแปรงให้ลึกถึงโคนลิ้น จะช่วยทำความสะอาดน้ำเมือกตกค้าง ที่ทำให้เกิดกลิ่นปากได้

           การแก้ปัญหามีกลิ่นปาก ด้วยการใช้น้ำยาบ้วนปาก สเปรย์ หรือลูกอมรสมินต์ เป็นการแก้ไขที่ไม่ถูกต้อง และเป็นการสิ้นเปลืองอย่างมากด้วย การใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมคลอเฮ็กซิดีนในระยะยาวจะมีผลเสีย ทำให้เกิดคราบสีที่ฟัน ซึ่งน้ำยาบ้วนปากจะช่วยลดกลิ่นปากได้ชั่วคราวเท่านั้น ไม่ได้กำจัดสาเหตุที่แท้จริงออกไป ทำให้อาการของโรคถูกปิดบังจนเกิดอาการรุนแรงได้โดยไม่รู้ตัว และในบางครั้งกลิ่นของน้ำยาบ้วนปากก็อาจผสมกับกลิ่นปากจนทำให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย เพราะฉะนั้น วิธีที่ดีที่สุดของการรักษากลิ่นปากก็คือ การค้นหาและกำจัดโรคที่เกิดขึ้น และการแปรงฟันที่สะอาดอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง

ที่มา: Lisa


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)